เตารีด (Electric Iron) เครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านที่ช่วยเปลี่ยนผ้ายับให้เรียบพร้อมใส่ เปลี่ยนผ้าชื้นให้แห้งพร้อมใช้ เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีติดที่พักไว้จริง ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจแบบนี้ สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อใหม่ แล้วอยากได้ตัวที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด มีหลายสิ่งที่ควรรู้และต้องดูให้ดีก่อนซื้อ เช่น ประเภท กำลังไฟ(วัตต์) ขนาด ยี่ห้อ หรือการรับประกัน เป็นต้น เนื่องจากสเปคของเครื่องรีดแต่ละแบบ มันจะมีข้อดีความแตกต่างของคุณสมบัติบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นลองไปทำความรู้จักเจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้เพิ่มเติมกันสักหน่อย เตารีดมีกี่แบบ เลือกเตารีดแบบไหนดี แล้วเตรียมไปเลือกซื้อเตารีดกันเลย!
วิธีการเลือกซื้อเตารีด
1. ประเภทของเตารีด
ไม่ว่าจะเป็นเตารีดประเภทไหนก็สามารถทำให้ผ้าเรียบได้ แต่! ไม่ใช่ทุกประเภทจะสามารถนำมารีดกับเนื้อผ้าได้ทุกแบบ ซึ่งพวกมันแต่ละประเภทต่างก็มีข้อดีจุดเด่นที่เหมาะกับการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกประเภทให้เหมาะกับสไตล์ชีวิตและความต้องการจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยหลัก ๆ แล้ว จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามลักษณะการทำงาน ได้แก่ เตารีดแห้ง และเตารีดไอน้ำ
เตารีดแห้ง
เป็นประเภทต้นแบบของ เตารีดไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ ต้นกำเนิดของมันเริ่มมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 เครื่องแรกของโลกชื่อว่า Electric Flatiron ถูกสร้างโดยนักประดิษฐ์ชาวอเมริกา Henry W. Seeley ทำงานโดยใช้หลักการแปลงพลังงานไฟฟ้าให้กลายเป็นความร้อน แล้วส่งผ่านไปยังหน้าเตาที่เป็นโลหะ แล้วเมื่อนำไปวางบนผ้ารอยยับจะคลายและกลายเป็นความเรียบนั่นเอง ในอดีตตัวเครื่องจะไม่สามารถควบคุมระดับความร้อนได้ จนบางครั้งมันร้อนเกินไปทำให้ต้องถอดปลั๊กออก แต่ปัจจุบันมันได้ถูกพัฒนาจนสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด
ด้านการใช้งาน เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด เพราะว่ามีราคาเริ่มต้นประมาณ 300 บาท ในการรีดอาจจำเป็นต้องพรมน้ำ หรือหรือน้ำยารีดลงไป เพื่อทำให้เส้นใยในผ้าเรียงตัว สามารถดูแลและทำความสะอาดได้ง่าย ปัจจัยที่ทำให้ราคาถูกหรือแพงจะขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและวัสดุที่ใช้เคลือบหน้าเตาเป็นหลัก
เตารีดไอน้ำ
เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากเตารีดแห้ง โดยการเพิ่มคุณสมบัติการพ่นไอน้ำ เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรีด ไอน้ำที่ร้อนจะทะลุผ่านเส้นใยผ้า ทำให้ผ้าเรียบเร็ว ประหยัดแรง และประหยัดเวลากว่าแบบแห้งอยู่พอสมควร ด้วยเหตุนี้มันจึงเหมาะมากกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ค่อยมีเวลา อีกทั้งการที่พ่นไอน้ำออกมาทำให้ทะลุไปยังผ้าอีกด้านจนแทบไม่จำเป็นต้องกลับผ้า หรือพรมน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นการมีไอน้ำช่วยหล่อเลี้ยงยังช่วยลดความเสี่ยงในการไหม้ของหน้าเตาได้อีกด้วย โดยข้อเสียของเตาชนิดนี้คือ ถ้าทำความสะอาดไม่ดี หรือไม่ได้ใช้เวลานาน อาจจะมีคราบตะกรันจากน้ำออกมาสร้างรอยเปื้อนให้ผ้า หรืออาจเกิดการอุดตันจนทำให้ตัวเครื่องเสียหายได้ด้วย
ซึ่งสามารถแบ่งประเภทย่อยออกเป็น เตารีดไอน้ำแบบปกติ เตารีดไอน้ำแบบยืน เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม และเตารีดไอน้ำแบบพกพา ซึ่งทุกประเภทจะมีคุณสมบัติการใช้แตกต่างกัน
ข้อควรรู้ : ตะกรัน คือ คราบ แผ่น ผงลักษณะสีขาว ที่เกิดจากการรวมตัวกันเป็นก้อนและตกผลึกเมื่อถูกความร้อนตั้งแต่ 45 องศาเป็นต้นไป ของกลุ่มแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ละลายอยู่ในน้ำ เช่น เกลือโซเดียม แคลเซียม แม็กนีเซียม เป็นต้น สามารถทำให้ผ้าที่มีสีเข้มเปื้อนได้
- เตารีดไอน้ำแบบปกติ
น่าจะเป็นประเภทที่คุ้นตามากที่สุดแล้ว เพราะว่ามีรูปทรงเหมือนกันกับแบบแห้งเลย เพียงแต่อาจจะมีขนาดใหญ่กว่านิดหน่อย เนื่องจากต้องมีกระเปาะใส่น้ำเพื่อทำไอน้ำด้วย มีราคาอยู่ในช่วงตั้งแต่ 500 บาทไปจนถึง 5,000 บาท ซึ่งความแตกต่างจะอยู่ที่กำลังไฟฟ้า แรงดันไอน้ำ และฟังก์ชั่นเสริมอื่น ๆ จำเป็นต้องวางรีดกับพื้นผิวเรียบ (แผ่นรองรีด)
- เตารีดไอน้ำแบบยืน
ถ้าเข้าไปในร้านตัดเสื้อ ร้านเช่าชุด น่าจะคงเคยสังเกตเห็นเจ้าเครื่องที่มีลักษณะคล้ายเครื่องดูดฝุ่น มีสายท่อยาวๆ ยืดหยุ่นได้ ตั้งอยู่ ซึ่งนั่นแหละคือเตารีดไอน้ำที่เป็นแบบยืน จะอาศัยการพ่นไอน้ำร้อนจากหัวปล่อย มาทำให้รอยยับคลายตัว สามารถปรับระดับแรงดันไอน้ำได้ให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า ยิ่งแรงดันเยอะจะยิ่งทำให้ผ้าเรียบเร็ว เหมาะกับเสื้อผ้าที่ไม่สามารถนำไปวางรีดแบบปกติได้ เสื้อผ้าที่เนื้อบาง ๆ หรือเสื้อผ้าที่ต้องการความทะนุถนอมเป็นพิเศษ เช่น ผ้าชีฟอง ผ้าขนสัตว์ สูท หรือผ้าไหม เป็นต้น และมีข้อดีอีกอย่างคือจะไม่ทำให้ผ้าจะขึ้นเงา ราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่ 2,000 บาทไปจนถึงหลักหมื่น ถามว่าใช้แทนเครื่องหลักในบ้านได้มั้ย ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าประสิทธิภาพการทำให้เรียบ การจับจีบ ยังสู้แบบไอน้ำปกติไม่ได้
- เตารีดไอน้ำแยกหม้อต้ม
มันคือขั้นสูงสุดของแบบไอน้ำปกติ ที่ถูกตีบวกเพิ่มกำลังไฟ มีปริมาณความจุช่องใส่น้ำ 1 ลิตรขึ้นไป มีแรงดันไอน้ำ 5 บาร์ขึ้นไป และใส่ฟังก์ชั่นอื่นๆ มาอย่างจัดเต็ม เช่น ฟังก์ชั่นร้อนไวใน 2 นาที ฟังก์ชั่นล้างกรองตะกรัน ฟังก์ชั่นตัดไฟอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นปรับระดับความร้อนอัตโนมัติไม่จำเป็นต้องตั้้งค่า เป็นต้น แรงดันที่เยอะขึ้นส่งผลให้ไอน้ำ สามารถแทรกซึมไปยังเนื้อผ้าได้ง่ายและดีขึ้นกว่าเดิมแม้ในส่วนที่รีดยาก ผ้าจึงเรียบเร็วกว่าชนิดปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องรีดผ้าครั้งละจำนวนมากเป็นเวลานาน (2-3 ชั่วโมง) ไม่ต้องเติมน้ำบ่อย ต้องการเครื่องที่รีดง่ายดูแลรักษาง่าย มีอายุการใช้งานยาวนาน หรือต้องการความเนี้ยบของเสื้อผ้าเป็นพิเศษ ซึ่งความสามารถทั้งหมดจะแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง เริ่มต้นตั้งแต่ 3000 บาท ไปจนถึงหลายหมื่น ยิ่งแรงดันสูง ฟังก์ชั่นเยอะ ความจุน้ำเยอะก็จะยิ่งแพง
- เตารีดไอน้ำแบบพกพา
เป็นเตารีดที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ หรือจำเป็นต้องไปรีดนอกบ้าน เนื่องจากขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก แถมใช้งานง่าย มีทั้งแบบแห้งและแบบไอน้ำ ไม่จำเป็นต้องใช้ที่รองรีดใด ๆ แต่อาจจะไม่เหมาะกับการมาใช้เป็นเตารีดหลักในการรีดผ้าในบ้านสักเท่าไหร่ เนื่องจากกำลังไฟและแรงดันไอน้ำที่ค่อนข้างน้อยกว่า ทำให้รีดผ้าบางชนิดไม่เรียบ และจะไม่สามารถรีดต่อเนื่องนานได้ เพราะต้องเติมน้ำบ่อย ๆ
นอกจากนี้ยังมี เตารีดไอน้ำอุตสาหกรรม ที่บรรดาร้านซัก อบ รีด มักเลือกใช้กัน เนื่องจากมันถูกออกแบบมาให้มีความทนทานเป็นพิเศษ สามารถรีดผ้าจำนวนมาก ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานได้ตลอดทั้งวัน
สรุปแล้วเตารีดแห้ง VS เตารีดไอน้ำ ควรซื้อแบบไหนดี
ถ้าคุณไม่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ เราแนะนำว่าควรซื้อแบบเตารีดไอน้ำมากกว่า เนื่องจากเตารีดไอน้ำ หากเราปิดฟังก์ชั่นพ่นไอน้ำ ก็สามารถใช้มันแทนเตารีดแบบแห้งได้เลย อีกทั้งในวันที่รีบๆ เตารีดไอน้ำจะช่วยทุ่นแรงประหยัดเวลาได้ดีกว่า
2. กำลังไฟของเตารีด จะเลือกกี่วัตต์ดี
ค่ากำลังไฟในเตารีด สื่อถึงระดับความร้อนที่เตารีดสามารถทำได้ และความเร็วในการทำให้เตาร้อน ค่ามากจะร้อนได้เร็วกว่า แต่ก็ไม่เสมอไป เนื่องจากในบางประเภทมันมีระบบการทำงานที่ซับซ้อนและต้องใช้พลังงานเพื่อควบคุมฟังก์ชั่นพิเศษมากกว่าเดิม เช่น ฟังก์ชั่นไอน้ำต่อเนื่อง ฟังก์ชั่นเพิ่มพลังไอน้ำ เป็นต้น แน่นอนว่ายิ่งกำลังไฟสูงจะยิ่งกินค่าไฟที่บ้าน ซึ่งค่ากำลังไฟที่เราขอแนะนำให้ใช้ภายในบ้าน กรณีรัดครั้งละไม่เยอะให้ร้อนไวกำลังพอดี ควรอยู่ที่ 1200 วัตต์ค่ะ เป็นต้นไป แต่สำหรับใครที่ต้องรีดครั้งละเยอะ ๆ แนะนำให้ใช้กำลังไฟ 2000 วัตต์เป็นต้นไป เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการรีด
3. สารเคลือบหน้าเตาและน้ำหนัก
ลองหยิบเตารีดขึ้นมาหงายดู เราจะเจอโลหะเรียบ ๆ หรืออาจจะมีรู ที่สัมผัสกับผ้าเรา ส่วนนั้นแหละคือสิ่งที่เรียกว่า หน้าเตา (Soleplate) เป็นส่วนที่ร้อนมาก ๆ ซึ่งถ้าเป็นหน้าเตาแบบดั้งเดิมเลย เวลารีดอาจจะฝืดหรือเสี่ยงต่อสาเหตุที่ทำให้ผ้าไหม้ได้ แต่สมัยนี้หน้าเตามักถูกผลิตมาจากวัสดุที่มีสามารถถ่ายโอนความร้อนได้ดี เช่น สแตนเลส (ถูกใช้มากที่สุด), ไทเทเนียม พร้อมเคลือบด้วยสาร Non-Stick ที่มีคุณสมบัติไม่ติดผ้า เช่น เทฟลอน อีนาเมล หรือเซรามิก เป็นต้น ดังนั้นการเลือกซื้อเตารีด ควรต้องเลือกรุ่นที่มีการระบุว่ามีคุณสมบัติกันติด หรือนอน-สติกด้วยนะเพื่อการใช้งานที่ลื่นไหล
แล้วในเรื่องน้ำหนัก การมีเครื่องที่น้ำหนักเยอะข้อดีคือเวลารีดเราไม่จำเป็นต้องออกแรงกดกับผ้าเยอะ รีดง่ายกว่าเดิม แต่ในบางกรณีการมีน้ำหนักเยอะก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือเรื่องการยกเปลี่ยนท่ารีด หรือการขนย้ายเป็นต้น โดยทั่วไปจะไม่ค่อยมีผลต่อเตาชนิดไอน้ำ เนื่องจากการใช้แรงดันไอ ก็ถือเป็นการทุ่นแรงอยู่แล้ว และแทบจะไม่จำเป็นต้องออกแรงกดไปยังเนื้อผ้าเลย
4. คุณสมบัติพิเศษ
สำหรับใครที่ต้องการความความสะดวกในการใช้งานที่มากขึ้น อาจจะต้องมาดูและพิจารณาเรื่อง คุณสมบัติพิเศษ ในเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดด้วย เพราะพวกมันคือสิ่งที่จะช่วยให้การรีดผ้าทำได้ง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรีด รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยในการใช้ที่หลายคนกังวล ถือเป็นสิ่งที่ทำให้เตารีดแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน โดยฟังก์ชั่นพิเศษที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้หลัก ๆ จะมีดังนี้
คุณสมบัติเคลือบสารบริเวณหน้าเตา (Non-Stick) เป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่น่าใส่มาให้กับรุ่นใหม่ ๆ ทุกรุ่นมีส่วนช่วยให้เรารีดได้ลื่นขึ้น ลดความเสี่ยงที่เนื้อเตาจะติดทำลายเนื้อผ้า และช่วยประหยัดแรงได้เป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีทั้งแบบการเคลือบเป็นตัวสาร แบบใช้วัสดุ Non-stick เช่น เทฟล่อน อีนาเมล เซรามิค และแบบใช้แผ่นทำความร้อนพิเศษ
คุณสมบัติป้องกัน กรอง และทำความสะอาดตะกรัน ปัญหาใหญ่เลยของเตาชนิดไอน้ำคือคราบตะกรันนี่แหละ ซึ่งถ้าใช้งานฟังก์ชั่นจัดการคราบตระกรันนี้ จะช่วยทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย รวมไปถึงยังช่วยเพิ่มอายุการใช้งานได้อีกด้วย
คุณสมบัติเพิ่มพลังไอน้ำ กรณีที่เรามีเสื้อผ้าเนื้อค่อนข้างหนามาก ๆ เช่น กางเกงยีนส์ผ้าดิบ การจะรีดให้เรียบอาจจะต้องใช้เวลานานเป็นพิเศษ แต่ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยเร่งพลังไอน้ำออกมาในระยะเวลาหนึ่งทำให้ เรียบเร็วประหยัดเวลามากยิ่งขึ่น
คุณสมบัติป้องกันน้ำหยด อีกหนึ่งปัญหาของประเภทไอน้ำ คือการที่ระหว่างรีดจะมีน้ำหยดออกมา บางครั้งหยดจนชุ่มผ้า แต่ด้วยฟังก์ชั่นนี้จะปัญหาน้ำรั่ว น้ำหยดจะหมดไป
คุณสมบัติปรับความร้อนอัตโนมัติ เอาใจคนที่ชอบความสบายขั้นสุด หากมีคุณสมบัตินี้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องผ้าไหม้ ไม่ต้องจัดลำดับชนิดผ้า หรือต้องหมุนปรับระดับความร้อนให้เหมาะกับชนิดของผ้าเองอีกต่อไป เนื่องจากตัวเครื่องจะปรับอุณหภมิให้อัตโนมัติ และในบางยี่ห้อมีการรับประกันว่าผ้าของคุณจะไม่ไหม้แน่นอนอีกด้วย
คุณสมบัติตัดไฟอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน ปกติถ้าเราเสียบปลั๊กไว้นาน ๆ ตัวเตาจะเกิดการสะสมความร้อน และหากวันไหนเราเผลอลืมถอดปลั๊ก อาจจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้เลย แต่หากมีฟังก์ชั่นนี้เราก็เบาใจได้ในเรื่องความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งแล้วล่ะ
ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างคุณสมบัติจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่ใส่มาช่วยผู้ใช้อย่างเราให้ได้รับความสบายในการใช้งาน บางคุณสมบัติอาจจะมีเฉพาะในรุ่นราคาหลักหมื่นขึ้นไป ดังนั้นลองชั่งใจด้วยตนเองว่า มันคุ้มมั้ยกับการที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เพราะอย่างเราบอกอยู่เสมอว่า ความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอก
5. ดูจุดเด่นของแต่ละแบรนด์ เลือกยี่ห้อไหนดี และดูการรับประกัน
ข้อมูลในส่วนนี้เป็นการสรุปอ้างอิงมาจาก การรีวิวเตารีด ของผู้ใช้บน Priceza.com และกระทู้ของเว็บบอร์ดออนไลน์ชื่อดังหลาย ๆ เว็บ เช่น Pantip.com ซึ่งอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกันไปตามผู้ใช้แต่ละท่านนะคะ
เตารีด Phillips
ยี่ห้อเจ้าตลาดที่โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการรีดใหม่ ๆ ที่ใส่มาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นแพงๆ มีฟังก์ชั่นพิเศษที่คอยอำนวยความสะดวกพอสมควร น้ำหนักเบา อายุการใช้งานยาว รับประกันขั้นต่ำ 2 ปี บริการหลังการขายดี และมีศูนย์บริการเยอะมาก ราคามีตั้งแต่หลักครึ่งพันไปจนถึงหลายหมื่น
เตารีด Tefal
อีกหนึ่งยี่ห้อที่ขึ้นชื่อเรื่องเตารีด ด้วยจุดเด่นหน้าเตาชนิดพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะที่ทำให้รีดลื่น ที่ขึ้นชื่อคงเป็นเรื่องการเคลือบเทฟลอนที่จะช่วยถนอมเนื้อผ้าได้เป็นอย่างดี ความทนทานไม่แพ้ฟิลลิปส์เลย มาพร้อมการรับประกัน 2 ปี
เตารีด Sharp
ใครที่อยากได้เตาชนิดแห้ง และมีน้ำหนักเยอะ ๆ ไม่ชอบออกแรงมาก ๆ Sharp คือตัวเลือกที่น่าจะถูกใจ เพราะว่าถ้าเทียบกันกับแบรนด์อื่น ๆ แล้วชาร์ปจะมีรุ่นที่น้ำหนักเยอะที่สุด ส่วนแบบไอน้ำของยี่ห้อนี้ อาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่
เตารีด Smart Home
ถ้าไม่คิดอะไรมาก ไม่ติดต้องเป็นยี่ห้อดังจากต่างประเทศ สมาร์ทโฮม แบรนด์ไทย ที่วางขายตามแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้าง เป็นอะไรที่เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัดจริง ๆ เพราะจากราคาเทียบกับตัวสเปครุ่นที่ขายทั่วไป กำลังไฟ และระยะเวลารับประกัน 1 ปี จัดว่าคุ้มค่าพอสมควร แต่ก็แลกมาด้วยการลดคุณภาพวัสดุ และเทคโนโลยีที่อาจไม่มีอะไรโดดเด่น ถ้านาน ๆ รีดที ผู้เขียนคิดว่ายี่ห้อนี้ค่อนข้างน่าสนใจในระดับนึง แต่ถ้าต้องใช้เป็นประจำ และใช้ครั้งละนานๆ (หลายชิ้น) อาจจะต้องลองเพิ่มงบไปใช้พวกแบรนด์สากลอื่น ๆ แทน ข้อเสียคือศูนย์ซ่อมที่มีน้อยมาก ๆ
เตารีด Elivira
เอลวิร่า แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเกี่ยวกับผ้าของสวิตเซอร์แลนด์ ที่เปลี่ยนชื่อจาก Elna มา โดดเด่นมากสำหรับชนิดแบบแยกหม้อต้ม ด้วยคุณสมบัติพิเศษภายในหม้อที่ทนทานเป็นพิเศษ รวมถึงหน้าเตาที่ค่อนข้างหนากว่าชาวบ้าน ทำให้กระจายความร้อนทั่วถึง อายุการใช้งานยาวนาน ราคาอาจจะสูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ รับประกัน 2 ปี ข้อเสียคือร้านค้าและศูนย์บริการค่อนข้างน้อย
เตารีด Electrolux
มองหาเตารีดราคาเบา ๆ น้ำหนักเบา ๆ ศูนย์บริการมีเกือบทุกจังหวัด โทรนัดได้ 24 ชั่วโมง แบรนด์อิเล็กโทรลักซ์อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณก็ได้ มีหน้าเตารีดหลายแบบ หลายวัสดุให้เลือก โดยเฉพาะชนิดแห้งที่ราคาเริ่มต้นที่ 300 กว่าๆ แต่มีผู้ใช้บนโลกออนไลน์หลายท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการเคลมสินค้ามักทำได้ยากกว่าแบรนด์อื่น และอะไหล่หายาก ซึ่งอาจจะเป็นเฉพาะบางสาขา
รวม 5 เคล็บ(ไม่)ลับ แก้ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้เตารีดจากแม่บ้าน Pantip
วิธีแก้ปัญหาหน้าเตารีดไหม้ ดำ มีคราบทำไงดี?
วิธีทำความสะอาดหน้าเตาแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีเดียวกันคือ การใช้ยาสีฟัน ละเลงไปบนคราบไหม้ในขณะที่เปิดไฟแรงสุด กรณีเป็นแบบไอน้ำให้ปิดไอน้ำก่อน แล้วรอให้ยาสีฟันไหม้ จึงค่อยๆ ใช้แปรงสีฟันเก่าๆ หรือผ้าหนาๆ (ควรสวมถุงมือเพื่อป้องกันอันตรายจากความร้อน) ขัดไปจนกว่ารอยไหม้จะจางหรือหมดไป แต่ปัจจุบันนี้มันมี ครีมทำความสะอาดหน้าเตารีด ที่ใช้ทำความสะอาดหน้าเตาโดยเฉพาะ ซึ่งใช้หลักการเดียวกันคือทาไปบนเตารีดร้อนๆ แล้วขัดกับผ้าหนาๆ มาวางขายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ยุคใหม่อย่างเราแล้วด้วย
หมายเหตุ : ไม่ควรใช้กระดาษทรายหรือฝอยขัดหม้อในการขัดทำความสะอาด เนื่องจากอาจทำให้หน้าเตาเสื่อมสภาพ และสายเคลือบกันติด Non-stick หลุดล่อน
วิธีรีดผ้าอย่างไรไม่ให้ผ้าเป็นเงา
สาเหตุของการเกิดรอยเงาบนผ้า คือการที่เตาของเรามันร้อนเกินไป จนทำให้เส้นใยของผ้าบางชนิดเกิดการละลายขึ้นเงา ดั้งนั้นการแก้ไขคือพยายามใช้ไฟอ่อน ๆ หรืออาจจะลองเปลี่ยนมาใช้ชนิดไอน้ำ (แต่ก็ห้ามเปิดไฟแรง) แทนก็พอจะช่วยให้รีดง่ายลดโอกาสเสี่ยงเกิดเงาได้ นอกจากนี้อาจจะใช้ผ้าขาวบางมารองก่อนรีด หรือให้ลองกลับผ้าแล้วค่อยรีดผ้าจะไม่เป็นเงาและไม่ซีดด้วยนะ
วิธีลดรอยไหม้จากเตารีดบนผ้า
เคยมั้ย เผลอเปิดไฟแรงเกินไปตอนรีดผ้า จนผ้าบริเวณนั้นเริ่มจะไหม้เป็นสีเหลือง น้ำตาล ยิ่งถ้าเป็นเสื้อผ้าตัวโปรดก็ด้วยละก็มีเศร้าแน่นอน แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ เหล่าเมมเบอร์แม่บ้านใน Pantip หลายคนได้บอกเคล็ดลับสำหลายอย่างที่ช่วย ขจัด ลบ ลดรายไหม้เหล่านั้นมาให้แล้ว
- ให้ใช้น้ำตาลทราย โรยไปให้ทั่วรอยไหม้ นำผ้าเนื้อบาง ๆ มาวางเอาไว้ทับรอยนั้น แล้วจึงนำใช้เตารีดรีดไปยังบนผ้าสักครู่หนึ่ง หลังจากนั้นให้นำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาเช็ดน้ำตาลออก เป็นอันเสร็จสิ้น หรือถ้าใครที่ไม่มีผ้าบาง ๆ ให้นำใช้น้ำเล็กน้อยพรมลงไปบนน้ำตาล ใช้นิ้วค่อย ๆ ถูกวน ๆ ซึ่งสีรอยไหม้จะถูกน้ำตาลดูดไปบนน้ำตาล และเช็ดทำความสะอาดจ้า
- ใช้มะนาวฝานครึ่งซีก แล้วนำไปถู ๆ บริเวณรอยไหม้ให้ชุ่ม นำไปตากแดดสักครู่หนึ่ง จนแห้งแล้วนำไปซักตามปกติ
- ใช้หัวหอมใหญ่ฝาน ไปถูบริเวณรอยไหม้ สัก 5 – 10 นาที แล้วนำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาเช็ดทำความสะอาด แล้วจึงนำไปซักตามปกติ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีไฮเตอร์ หรือผลิตภัณฑ์กำจัดคราบแวนิช มาช่วยลดคราบ กรณีที่เป็นแบบผง ให้นำไปผสมกับน้ำอุ่นคนให้เข้ากัน แล้วนำไปป้ายบนคราบไหม้นั้น ทิ้งไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง แล้วนำไปซักตามปกติ รอยไหม้จะจางลง
- ใช้น้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดา ผสมลงไปตอนซักผ้าปกติในอัตราส่วน 1 ถ้วยตวง ต่อการซัก 1 ครั้ง
รีดผ้าไม่เรียบต้องทำอย่างไร
ปัญหาผ้าไม่เรียบนี้เกิดได้หลายสาเหตุมาก ๆ ตั้งแต่เรื่องสกิลการรีดที่คุณอาจจะไม่ชำนาญ ความร้อนของเตาที่อาจร้อนไม่เพียงพอ หรือไม่เหมาะกับเนื้อผ้า พฤติกรรมการซักผ้าตากผ้าทีละเยอะ ๆ และอีกมากมาย ลองค่อย ๆ แก้ไปตามสาเหตุดูจ้า แต่สิ่งที่พอจะช่วยได้ มีดังนี้ การพรมน้ำก่อนรีด ใช้น้ำฉีดน้ำยารีดผ้าช่วยคลายรอยยับ คลี่รอยก่อนจะรีด การซักผ้าและสะบัดผ้าก่อนตาก เป็นต้น
เทคนิคทำความสะอาดเตารีดไอน้ำ ล้างตะกรัน ตระกรันตันอุดรู มีอะไรบ้าง และทำอย่างไรให้อายุการใช้งานยาวนาน
ไอน้ำพ่นออกมาได้น้อย หรือไม่ออกมาเลย อาจมีสาเหตุมาจากการที่มี ตะกรัน เข้าไปอุดตันที่รูพ่นไอน้ำก็ไปได้ และเจ้าตะกรันนี่แหละ เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เตารีดของคุณพัง ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
- เลือกใช้น้ำถูกประเภท ถ้าเอาแบบชัวร์จริง ๆ คือไม่ควรเติมน้ำประปาในการรีดผ้า เนื่องจากภายในน้ำประปาจะมีแร่ธาตุต่าง ๆ เยอะ และมีโอกาสเกิดตะกรันสูง อาจจะใช้น้ำกรอง น้ำกลั่น หรือน้ำดื่มแทน เพื่อป้องกันการเกิดตะกรันและเพิ่มอายุการใช้งานของตัวเครื่องข้อควรรู้ : หลังเลิกใช้งาน ควรปล่อยน้ำที่เหลือในกระเป๊อะออกจากเตาให้หมดเสมอจะเป็นการลดตะกรันได้
- เปิดฟังก์ชั่นล้างตะกรัน แต่ละยี่ห้อก็จะมีชื่อเรียกระบบดังกล่าวต่างกัน เช่น ของ Philips เรียกว่า Calc Clean ของ Tefal เรียกว่า Self Clean ซึ่งมันจะมีมาให้ในรุ่นราคาตั้งแต่ 500 ขึ้นไป แนะนำให้มั่นเปิดล้างอย่างน้อย ๆ สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง วิธีการใช้งานฟังก์ชั่นดังกล่าวจำเป็นต้องอ่านคู่มือประกอบ เนื่องจากวิธีการอาจมีความแตกต่างไปตามรุ่นและยี่ห้อ
- เอาจจะเอาไม้ปลายแหลมแคะ กรณีมันอุดตันถึงขีดสุด ใช้ระบบล้างใส่น้ำและยังไม่ดีขึ้น อาจจะต้องลงไม้ลงมือ ใช้ไม้ค่อย ๆ แคะให้ครอบบริเวณนั้นหลุดออกมาให้มากที่สุด
- ใช้น้ำส้มสายชู ที่มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ เติมเข้าไปในช่องเติมน้ำประมาณครึ่งหนึ่ง เสียบปลั๊กปรับระดับความร้อนที่สูงสุด แล้วเอาไปรีดบนผ้าหนา ๆ จนกว่าน้ำส้มสายชูจะระเหยหมด คอยสังเกตดูว่าตะกรันเริ่มหลุดไปบ้างหรือยัง ทำซ้ำจนกว่าคราบจะหลุดออกไปมากที่สุด จากนั้นนำน้ำที่เราแนะนำไปในข้อที่ 1 มาเติมและรีดซ้ำ ๆ เป็นอันเสร็จสิ้น
ข้อควรระวัง : เตารีดบางรุ่น บางยี่ห้อจะมีคำเตือนว่าห้ามเติมน้ำส้มสายชูไปในคู่มือ
แนะนำ 5 เตารีด ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย ผ้าเรียบเร็วพร้อมถนอมใยผ้า
เตารีดไอน้ำ PHILIPS รุ่น GC3929/60
เตารีดยี่ห้อ PHILIPS ที่ช่วยให้การรีดผ้าของคุณเป็นเรื่องง่าย ด้วยระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี OptimalTEMP ผสานการทำงานระหว่างไอน้ำและความร้อนอย่างลงตัวเพื่อการขจัดรอยยับได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมแผ่นความร้อนหน้าเตาแบบ SteamGlide Plus คุณภาพดีเยี่ยม เพื่อการรีดได้อย่างเรียบรื่นและง่ายดาย ปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟแบบอัตโนมัติและระบบป้องกันน้ำหยด ให้คุณรีดผ้าได้อย่างสบายใจด้วยฟังก์ชันการทำความสะอาดคราบตะกรัน Calc clean Slider ในตัวเพื่อประสิทธิภาพการทำไอน้ำได้อย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีพลังงานไอน้ำต่อเนื่อง 45 กรัม/นาที ไอน้ำพิเศษ 200 กรัม/นาที
| ยี่ห้อ / รุ่น | PHILIPS รุ่น GC3929/60 |
| ความจุแท็งก์น้ำ | 300 มิลลิลิตร |
| กำลังไฟ | สูงสุด 2,600 วัตต์ |
| คุณสมบัติพิเศษ | เทคโนโลยี OptimalTEMP ตั้งค่าอุณหภูมิอัตโนมัติ ไม่เกิดรอยไหม้หรือรอยเงา ปลอดภัยแม้เนื้อผ้าที่บอบบาง |
| น้ำหนัก | 1.48 กิโลกรัม |
| ราคา | 3,790 บาท |
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และเงื่อนไขการจำหน่ายของร้านค้า
เตารีดไอน้ำ TEFAL รุ่น FV9845
เตารีดไอน้ำยี่ห้อ TEFAL มาพร้อมระบบจัดการตะกรันอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะเพื่อการรีดที่สมบูรณ์แบบยาวนาน มอบพลังไอน้ำอันยอดเยี่ยมด้วยการพ่นไอน้ำได้ในปริมาณสูงสุดถึง 60 กรัม/นาที มีเทคโนโลยีตัวกรองตะกรันรูปแบบใหม่ Micro-Calc Filter ที่ช่วยป้องกันตะกรันตกค้างหรือรอยเปื้อนบนผ้าขณะรีด โดยแผ่นหน้าเตารีดนั้นถูกเคลือบ Durilium AirGlide รีดลื่น ให้การกระจายไอน้ำที่ดี และป้องกันการเกิดรอยเปื้อน และยังมีฟังก์ชันป้องกันน้ำหยดเพื่อดูแลผ้าจากคราบน้ำ ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหยดเปื้อนลงบนผ้าขณะรีดอีกด้วย
| ยี่ห้อ / รุ่น | TEFAL รุ่น FV9845 |
| ความจุแท็งก์น้ำ | 350 มิลลิลิตร |
| กำลังไฟ | สูงสุด 3,200 วัตต์ |
| คุณสมบัติพิเศษ | มีระบบกรองตะกรัน Micro-Calc Filter 2 in 1 หยุดตะกรันด้วยการกรอง และรีดเรียบด้วยไอน้ำบริสุทธิ์ |
| น้ำหนัก | 1.45 กิโลกรัม |
| ราคา | 4,690 บาท |
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และเงื่อนไขการจำหน่ายของร้านค้า
เตารีดแรงดันไอน้ำ ELECTROLUX รุ่น E6SS1-40PP
เตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้มที่มีความจุแท้งก์น้ำ 1.2 ลิตร สามารถเติมน้ำขณะใช้งานได้ ตอบโจทย์สำหรับการเก็บรายละเอียดบนเนื้อผ้าได้อย่างเรียบเนียน ให้คุณใส่ชุดโปรดได้อย่างมั่นใจด้วยโหมดการรีดให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละชนิดได้เองถึง 4 ระดับ หน้าเตารีดเคลือบสารกันติด RESILIUMTM Ski 159 เพื่อให้คุณรีดลื่นในทุกทิศทาง พลังไอน้ำพิเศษ 300 กรัม/นาที ช่วยขจัดรอยยับ รีดผ้าเรียบได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งยังมีฟังก์ชันรีดไอน้ำแนวตั้ง เหมาะสำหรับเสื้อผ้าเนื้อบาง และการเก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี
| ยี่ห้อ / รุ่น | ELECTROLUX รุ่น E6SS1-40PP |
| ความจุแท็งก์น้ำ | 120 มิลลิลิตร |
| กำลังไฟ | สูงสุด 2,400 วัตต์ |
| คุณสมบัติพิเศษ | ตัวกรองระบบ Soft Water Activator ป้องกันการเกิดตะกรัน เพื่อลดการเกิดคราบบนเนื้อผ้า |
| น้ำหนัก | 1.5 กิโลกรัม (เฉพาะเครื่องเตารีด) |
| ราคา | 5,490 บาท |
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และเงื่อนไขการจำหน่ายของร้านค้า
เตารีดไอน้ำ AT HOME รุ่น HO0247
เตารีดไอน้ำดีไซน์สุดเก๋ สวยทันสมัยที่ช่วยให้คุณรีดผ้าได้เรียบสวย โดยไม่ต้องใช้โต๊ะรีดผ้า ด้วยเตารีดไอน้ำ HO0247 จาก AT HOME มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รีดได้กับเนื้อผ้าทุกชนิดโดยไม่ต้องกลัวผ้าไหม้ รีดเรียบได้ง่ายและไม่ติดเนื้อผ้าด้วยหน้าเตารีดที่เคลือบเซรามิกอย่างดี ทั้งการใช้งานที่ง่ายและประสิทธิภาพการปล่อยไอน้ำสูงแม่นยำสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังสะดวกในการพกพาเดินทางด้วยขนาดที่กะทัดรัด ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการรีดผ้าและได้ผ้าที่เรียบเร็วทันใจ
| ยี่ห้อ / รุ่น | AT HOME รุ่น HO0247 |
| ความจุแท็งก์น้ำ | 900 มิลลิลิตร |
| กำลังไฟ | สูงสุด 1,190 วัตต์ |
| คุณสมบัติพิเศษ | รีดได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน พร้อมด้ามจับหมุนปรับได้ 180 องศา |
| น้ำหนัก | 1 กิโลกรัม |
| ราคา | 1,890 บาท |
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และเงื่อนไขการจำหน่ายของร้านค้า
เตารีดไอน้ำ XIAOMI รุ่น YOUPIN LOFANS
เตารีดไอน้ำแบบพกพา XIAOMI Youpin Lofans Handheld Steam Ironing GT-301W 1,200 วัตต์ รุ่น GT-301W ช่วยรีดผ้าเรียบแบบ 2 in 1 รีดผ้าอย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะแขวนรีด หรือรีดในแนวราบ ผลิตไอน้ำภายใน 30 วินาที โดยพ่นพลังไอน้ำปริมาณ 22 g./min ไอน้ำจะไม่กระจายออก แต่แทรกซึมในแนวตรงเข้าเนื้อผ้า ทำให้ไม่ทำลายเส้นใยผ้า ด้วยแผงทำความร้อนอุณหภูมิ 132°C ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขจัดกลิ่น และทำให้ผ้าเรียบ อีกทั้งเครื่องยังเล็กกะทัดรัดเหมาะกับการพกพา Design สวยงามทันสมัย
| ยี่ห้อ / รุ่น | XIAOMI รุ่น YOUPIN LOFANS |
| ความจุแท็งก์น้ำ | 150 มิลลิลิตร |
| กำลังไฟ | สูงสุด 1,200 วัตต์ |
| คุณสมบัติพิเศษ | แผงทำความร้อนอุณหภูมิ 132°C ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขจัดกลิ่น และทำให้ผ้าเรียบ |
| น้ำหนัก | 1 กิโลกรัม |
| ราคา | 799 บาท |
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และเงื่อนไขการจำหน่ายของร้านค้า
บทส่งท้าย
หวังว่าหลังจากอ่านบทความนี้จบ เพื่อน ๆ จะพบ เตารีด ประจำบ้านตัวเก่ง ที่พร้อมจะประจัญบานกับกองผ้ายับ ๆ ให้กลับมาเรียบพร้อมใส่กันนะคะ และอย่างที่ผู้เขียนบอกอยู่เสมอว่า นอกจากความเรียบที่ทุกคนคาดหวังจากการใช้เจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้แล้ว หลายคนอาจจะต้องการความสะดวกสบายด้านอื่น ๆ ในการใช้งาน หรือเรื่องงบประมาณที่มีจำกัด ดังนั้นการเลือกซื้อจึงอาจจะต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้รุ่นตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุดค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- 10 เตารีดไอน้ำ ยี่ห้อไหนดี 2022 ใช้งานง่าย ผ้าเรียบเร็ว ราคาถูก
- ตอบข้อสงสัย เตารีดธรรมดา หรือเตารีดไอน้ำ ควรซื้อแบบไหนดีกว่ากัน?
- วิธีเลือกซื้อแอร์ให้เหมาะกับห้อง ต้องดูอะไรบ้าง
- วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เลือกยี่ห้อไหน เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Ironsexpert.com
