เครื่องสำหรับอบผ้าเครื่องหนึ่งจะใช้งานได้นานกี่ปี? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยและมักเกิดขึ้นก่อนที่เลือกซื้อ เพื่อที่จะได้ทราบว่าคุ้มค่าต่อการใช้งานหรือไม่ และเมื่อซื้อมาแล้วจะคุ้มกับเงินที่เสียไปหรือเปล่า ซึ่งเราอยากจะบอกว่า จริง ๆ แล้วอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุการผลิตสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานและการดูแลรักษาของแต่ละคนด้วย
อายุการใช้งานและการดูแลรักษาเครื่องอบผ้า
เครื่องสำหรับอบผ้า โดยทั่วไปแล้วมีอายุการใช้งานนานถึง 10 ปี ซึ่งมีอายุการใช้งานนานพอ ๆ กับเครื่องซักผ้าเลย แต่ปัญหาที่มักพบกันก็คือ ใช้งานได้ไม่ถึง 10 ปี เมื่อใช้ไปได้ประมาณ 3 – 4 ปีเครื่องก็เริ่มมีปัญหาแล้ว ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่พบคือ ท่อระบายอากาศตัน เกิดจากเศษผ้าและใยผ้าหลุดเข้าไป บวกกับการไม่ได้ทำความสะอาดหลังใช้งาน ทำให้เกิดการสะสมกันเป็นก้อนจนตัน ซึ่งฟังแล้วดูเหมือนว่าจะไม่อันตรายเท่าไหร่ แต่ทราบหรือไม่ว่าหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดไฟไหม้หรือไฟฟ้าลัดวงจรได้ เพราะเมื่อเครื่องระบายอากาศไม่ได้ก็จะเกิดความร้อนสะสมจนทำให้ไฟไหม้ได้นั่นเอง
การดูแลและการรักษา
มีหลักการง่าย ๆ 3 ข้อที่ควรทำให้เป็นนิสัยเพื่อช่วยยืดอายุการใช้ให้ใช้ได้ยาวนานมากขึ้น ดังนี้
ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
เมื่อเลิกใช้งานแล้วควรถอดปลั๊กออกทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และควรถอดปลั๊กก่อนทำความสะอาด เพราะหากเสียบปลั๊กไว้ในขณะที่ทำความสะอาดตัวเครื่องอาจทำให้เกิดอันตรายได้
ทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน
หลังจากใช้งานเสร็จแล้วควรทำความสะอาดทุกครั้งด้วยการนำเศษผ้าหรือใยผ้าออกจากเครื่องและท่อระบายอากาศ นำขยะในกล่องดักเศษผ้าทิ้งและทำความสะอาดทุกครั้ง หากมีเครื่องดูดฝุ่นแนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก เพราะใยฝ้าหรือเส้นด้ายที่หลุดออกมามีขนาดเล็กและอาจไปติดอยู่ตามซอกต่าง ๆ การใช้เครื่องดูดฝุ่นจะช่วยทำความสะอาดได้ทั่วถึงกว่า
หากใช้เครื่องระบบควบแน่นต้องเทน้ำทิ้งทุกครั้ง
สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องระบบควบแน่นควรนำน้ำที่ออกมาจากการอบผ้าออกไปทิ้งทุกครั้งและเช็ดทำความสะอาดถังเก็บน้ำให้สะอาดและแห้งก่อนเก็บเข้าที่ เพื่อลดการสะสมของตะกอนและเพื่อความสะอาดของตัวเครื่อง เพราะหากเก็บน้ำไว้นาน ๆ โดยไม่นำไปเททิ้งอาจส่งกลิ่นเหม็นได้
พฤติกรรมแบบไหนที่จะทำให้เครื่องพังเร็ว
เครื่องสำหรับอบผ้า จะใช้ได้นานหากมีการดูแลรักษาและใช้งานอย่างถูกวิธี ซึ่งการใช้งานให้นานนั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่เลิกพฤติกรรมเหล่านี้ก็ช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้นแล้ว
ใส่ผ้าเยอะจนเกินไปเพราะคิดว่ายิ่งแน่นยิ่งดี
หลายคนคิดว่าการใส่ผ้าลงไปเยอะ ๆ จะช่วยประหยัดไฟได้ แต่ความจริงแล้วการใส่ผ้าเยอะเกินไปจะยิ่งทำให้เปลืองไฟเพราะเครื่องจะทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งการใส่ผ้าเยอะ ๆ ยังทำให้ผ้าแห้งไม่ทั่วถึงและทำให้ผ้ายับได้
อบผ้าโดยไม่แยกผ้า
ผ้าแต่ละชนิดใช้เวลาการอบไม่เท่ากัน หากนำผ้าที่มีเนื้อผ้าบางไปอบพร้อมกับผ้าที่มีเนื้อผ้าหนาก็จะทำให้ผ้าหนาไม่แห้งในขณะที่ผ้าบางแห้งแล้ว หรือหากอบนานขึ้นเพื่อให้ผ้าหนาแห้งก็จะทำให้ผ้าบางถูกความร้อนนานเกินไปจนอาจทำให้สีซีดเร็วหรือเนื้อผ้าเสื่อมเร็วได้
นาน ๆ ทำความสะอาดที
ไม่ว่าจะใช้งานบ่อยหรือไม่บ่อยก็ควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้หรือคิดว่าเก็บไว้ทำความสะอาดในคราวหน้าทีเดียว เพราะจะทำให้คราบน้ำหรือใยผ้าสะสมอยู่ในเครื่องและท่อระบายอากาศจนตันได้
เลือกเครื่องที่มีขนาดไม่สมดุลกับการใช้งาน
หากเป็นครอบครัวใหญ่หรือมีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปควรเลือกเครื่องขนาดใหญ่ เพราะสามารถอบผ้าได้มากกว่า โดยจุได้มากถึง 200 – 230 ลิตรกันเลยทีเดียว ใช้อบผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้าห่มหรือผ้านวมได้ ส่วนเครื่องขนาดใหญ่จุได้ 100 ลิตร เหมาะสำหรับผู้ใช้งานไม่เกิน 2 คน
เครื่องสำหรับอบผ้า จะใช้งานได้นานและคุ้มค่าอย่างแน่นอนหากมีการใช้งานที่ถูกต้องและหมั่นดูแลรักษาอยู่เสมอ หากใครกำลังใช้งานแบบผิด ๆ กันอยู่ก็สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานแบบเดิม ๆ และหันมาใช้งานอย่างถูกวิธีกันได้ตั้งแต่วันนี้
