เครื่องดูดฝุ่น มีหลักการทำงานที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่ช่วยทุ่นแรงเราในการทำความสะอาดบ้าน แน่นอนว่าบ้านเป็นสิ่งที่เราทุกคนต่างก็รักและหวงแหน แต่ในบ้างครั้งด้วยข้อจำกัดทางด้านเวลา ที่ต้องใช้ไปกับกิจกรรมนอกบ้านต่าง ๆ เช่น การทำงานที่ทำให้เรามีเวลาเหลือเพียงน้อยนิดที่จะหันมาให้ความสนใจและความใส่ใจเรื่องทำความสะอาด แต่ก็อย่างที่บอกหากเรามีอุปกรณ์สำหรับใช้ในการดูดฝุ่นซะอย่าง ปัญหาความสกปรกต่าง ๆ ของบ้านที่เรากังวลก็จะหมดไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งนี่เองเป็นประโยชน์และข้อดีของอุปกรณ์ประเภทนี้ เราไปดูกันดีกว่าว่าเจ้าอุปกรณ์ดูดฝุ่นนี้นั้นมีด้วยกันกี่ประเภท แล้วเวลาที่จะเลือกเขาพิจารณากันที่อะไรได้บ้าง
สินค้าทั่วไปมีกี่ลักษณะ กี่ประเภท คืออะไรบ้าง
เครื่องสำหรับดูดฝุ่นที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ แบ่งตามประเภทการใช้งาน ดังนี้
1.อุปกรณ์แบบรูปทรงแนวตั้ง
ลักษณะรูปลักษณ์อุปกรณ์ภายนอกโดยทั่วเป็นเป็นทรงกระบอกวางอยู่ในแนวตั้ง เหมาะสำหรับทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ที่มีสิ่งเกะกะกีดขวางไม่มากนัก เนื่องจากมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก เวลาเคลื่อนย้ายต้องค่อย ๆ เข็นไป หลักการทำงานของเครื่องประเภทนี้ก็คือ การกระแทกให้ฝุ่นที่พื้นลอยขึ้นมา จากนั้นจึงทำการดูดฝุ่นเหล่านั้นเข้ามาในตัวอุปกรณ์ เหมาะสำหรับทำความสะอาดพรมตามบ้าน ตามโรงแรม เป็นต้น
2.อุปกรณ์แบบรูปทรงแนวนอน
อุปกรณ์ประเภทนี้มักพบเห็นกันโดยทั่วไป เป็นรูปแบบที่นิยมใช้ตามบ้านเรือน ตัวอุปกรณ์ชนิดนี้มักมีล้อลาก และมักมีท่อเป็นทางเดินของอากาศและฝุ่นที่ถูกดูดเข้ามา หัวดูดฝุ่นมีให้เลือกหลายแบบ ถุงกรองภายในตัวเครื่องสามารถนำออกมาซักล้างได้ อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับการดูดฝุ่นที่มีขนาดเล็ก ๆ นิยมใช้ทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ภายในอาคารบ้านเรือน ตลอดจนพวกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เป็นต้น
3.อุปกรณ์แบบพกพา หรือแบบมือถือ
อุปกรณ์ดูดฝุ่นประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้ทำความสะอาดตามซอก ตามมุมต่าง ๆ ที่เป็นจุดอับเล็ก ๆ ที่เข้าไปทำความสะอาดได้ยาก เนื่องจากเป็นเครื่องที่มีน้ำหนักเบา ขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกรวดเร็วทันใจ ซึ่งแหล่งจ่ายไฟสำหรับเครื่องประเภทนี้มักเป็นพวกแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟไว้ใช้งานได้
4.อุปกรณ์สำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม
อุปกรณ์ดูดฝุ่นประเภทนี้ค่อนข้างที่จะมีขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องใช้ทำความสะอาดพื้นที่ที่มีขนาดกว้างขวางมาก ๆ ดังนั้นกำลังไฟของเครื่องประเภทนี้จึงสูงมากตามไปด้วย เครื่องประเภทนี้จึงเหมาะที่จะนำไปใช้งานในสถานที่ในกลุ่มของโรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม สำนักงานต่าง ๆ หรือกระทั่งในโรงพยาบาล เพราะมีพื้นที่ใช้สอยรวมขนาดใหญ่มากนั่นเอง
หากจะเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นมาใช้งาน จำเป็นต้องพิจารณาในเรื่องใดบ้าง
แน่นอนว่าการจะซื้อเครื่องสำหรับดูดฝุ่นซักเครื่อง สิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณามาเป็นอันดับหนึ่งนั่นก็คืองบประมาณที่มี และนอกเหนือจากเรื่องของงบประมาณแล้ว สิ่งที่จะต้องพิจารณาหลัก ๆ เป็นลำดับต่อมา ได้แก่
1.ขนาดพื้นที่ที่จะนำเอาอุปกรณ์ดูดฝุ่นมาใช้งาน
ซึ่งจะมีผลต่อกำลังของอุปกรณ์ ยิ่งพื้นที่มีขนาดใหญ่มากแสดงว่าจะต้องมีการใช้งานอุปกรณ์ดูดฝุ่นอย่างหนัก ดังนั้นจึงต้องเลือกเครื่องที่มีกำลังไฟที่จะใช้ในการดูดฝุ่นที่มากเพียงพอต่อพื้นที่นั้น ๆ
2.ระบบการดูดฝุ่น
มีด้วยกัน 3 ระบบ ได้แก่ ระบบการดูดฝุ่นเข้าเครื่องโดยตรง ระบบการดูดฝุ่นแบบอาศัยการสั่นสะเทือน และระบบดูดฝุ่นแบบใช้แปรงหมุน ซึ่งแต่ละระบบก็มีข้อดีข้อเสีย และมีความเหมาะสมในการใช้งานในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันไป ดังนั้นผู้ใช้งานจึงควรเลือกให้ตรงตามลักษณะพื้นที่ใช้งานของตนมากที่สุด
3.ระบบการกรองฝุ่น
หากเลือกเป็นแบบใช้ถุงกรอง ซึ่งอาจจะมีขนาดของถุงกรองตั้งแต่ 0.6 – 10 ไมครอน โดยระบบการกรองด้วยถุงกรองแบบนี้มักเหมาะกับบ้านที่สมาชิกในบ้านเป็นโรคภูมิแพ้ เพราะจะช่วยลดฝุ่นขนาดเล็ก ๆ ที่จะสามารถเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ดี หรือระบบการกรองแบบ Cyclone ซึ่งระบบการกรองฝุ่นแบบหลังจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าแบบแรก
เครื่องดูดฝุ่นหากจะเลือกซื้อกันจริง ๆ แล้วอาจจะมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมอีก เช่น น้ำหนักของอุปกรณ์ดูดฝุ่น การรับประกันสินค้า และบริการหลังการขาย ตลอดจนแหล่งขายอะไหล่ที่ต้องซื้อเปลี่ยนหากอุปกรณ์เกิดความชำรุดเสียหาย เป็นต้น ดังนั้นในเมื่อจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าซักอย่างหนึ่ง เรายังต้องพิจารณากันในหลาย ๆ ประเด็น เมื่อตัดสินใจซื้ออุปกรณ์มาใช้งานแล้ว ก็ต้องดูแลรักษาของชิ้นนั้นให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ในการใช้งานในระยะยาวต่อไป
