หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า รองเท้าผ้าใบ Converse โลโก้ด้านในและด้านหลังต่างกันยังไง?

รองเท้าผ้าใบ Converse โลโก้ด้านในและด้านหลังต่างกันยังไง?

10814

รองเท้า Converse หลายๆ รุ่นได้รับความนิยมจากลุ่มวัยรุ่นทั้งชายและหญิงเป็นอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Chuck Taylor All Star รองเท้าหุ้มข้อรุ่นยอดนิยม ที่ยังคงรูปแบบรองเท้าบาสเกตบอลแบบเดิมที่ผลิตเมื่อปี ค.ศ. 1917 ซึ่งถ้าใครสังเกตดีๆ จะพบว่าตราสัญลักษณ์ของ Chuck Taylor All Star นี้ จะอยู่บริเวณผ้าใบส่วนที่หุ้มข้อเท้าด้านใน ซึ่งไม่เหมือนในรุ่นอื่นๆ ที่อาจจะเห็นโลโก้อยู่ที่ด้านนอก แต่เชื่อว่าเพียงแค่ได้เห็นลักษณะรูปทรงโดยไม่ต้องเห็นโลโก้ หลายคนก็บอกได้เลยว่ารองเท้าคู่นั้นคือรองเท้าคอนเวิร์ส Chuck Taylor All Star วันนี้เราจึงพามาหาคำตอบกันว่าทำไมผู้ผลิตถึงต้องติดป้ายโลโก้ไว้ด้านใน

รองเท้า Converse2

ป้ายโลโก้ของรองเท้า Converse All Star

ในรุ่นแรกจะเป็นป้ายวงกลมที่ด้านในมีสัญลักษณ์เป็นรูปพยัญชนะตัวซีในภาษาอังกฤษเพียงเท่านั้น ซึ่งป้ายโลโก้นี้ก็ถูกเย็บติดไว้บริเวณส่วนที่หุ้มข้อเท้าด้านในอยู่แล้ว เมื่อ Chuck Taylor ได้เข้ามาร่วมในการออกแบบครั้งต่อมา ก็เพียงแต่เปลี่ยนตราสัญลักษณ์เป็นรูปดาวห้าแฉกแบบที่เห็นในปัจจุบันเท่านั้น ส่วนตำแหน่งที่ติดโลโก้ยังคงเดิม

 

หากจะถามว่าทำไมถึงติดไว้ด้านใน ไม่ติดไว้ด้านนอกแบบทั่วๆ ไป ก็น่าจะเป็นแนวคิดที่พ้องกับชื่อแบรนด์ Convers ที่มีความหมายว่าตรงกันข้าม คือถ้าเป็นคนทั่วๆ ไป ก็จะวางโลโก้ไว้ในที่ๆ เห็นได้ชัดก็คือด้านนอก แต่คอนเวิร์สรุ่นนี้กลับวางไว้ด้านใน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่มีมาตั้งแต่ต้นและได้รับการรักษาไว้จนปัจจุบัน เป็นที่สังเกตได้เลยว่าหากเราเห็นรองเท้ารุ่น Chuck Taylor All Star แล้วมีโลโก้ติดอยู่ด้านนอก รองเท้าคู่นั้นก็ต้องเป็นของปลอมแน่ แต่ส่วนใหญ่คนที่คิดจะทำเลียนแบบย่อมไม่พลาดจุดที่เห็นได้ชัดเจนเช่นนี้ การเลือกซื้อจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อก็จะเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราได้ของที่ดีมีคุณภาพ

 

รองเท้า Converse1

ป้ายโลโก้ด้านในของ รุ่น  Chuck Taylor All Star

ในส่วนของโลโก้ที่อยู่ด้านในของรองเท้าคอนเวิร์สนั้น เราก็จะได้เห็นในรุ่น Chuck Taylor All Star แบบหุ้มข้อเท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะออกแบบมาเป็นรุ่นย่อยที่ใช้วัสดุหรือสีแตกต่างกัน ก็ยังคงโลโก้ไว้ที่ตำแหน่งนี้เสมอ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครและเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้รองเท้ารุ่นนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นเลยทีเดียว ในยุคเริ่มแรกปี ค.ศ. 1908 Converse เป็นรองเท้าสัญชาติอเมริกันผลิตออกมาเพื่อใช้สำหรับกันหนาว และเปลี่ยนมาเป็นผลิตเพื่อใช้เป็นรองเท้ากีฬาต่างๆ รวมทั้งบาสเกตบอล ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมในสมัยนั้น และได้รับความนิยมเรื่อยมาเนื่องจากได้รับการประชาสัมพันธ์และคำแนะนำในการปรับปรุงให้เหมาะสมกับนักกีฬาบาสเกตบอลมากขึ้นจาก Chuck Taylor ที่เป็นนักบาสเกตบอลชื่อดังแห่งยุค จนเกิดเป็นรองเท้ารุ่น Chuck Taylor All Star ที่มียอดขายถล่มถลาย เพราะไม่ใช่เพียงนักบาสเกตบอลเท่านั้นที่ชื่นชอบ แต่ยังเป็นที่ถูกใจของบรรดาเหล่าศิลปินนักร้องและกลุ่มวัยรุ่นด้วย แต่ต่อมาเนื่องจากไม่มีการพัฒนาสินค้าออกมามากนักและมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 บริษัทผู้ผลิต Converse จึงประสบปัญหาทางการเงินและต้องยื่นเรื่องขอพิทักษ์ทรัพย์สิน และในที่สุดปี 2003 Nike ก็เข้ามาซื้อกิจการของ Converse ไป เมื่อเป็นบริษัทในเครือของผู้ผลิตรองเท้ายักษ์ใหญ่อย่าง Nike จึงมีทีมที่คอยวางแผนการตลาดที่ค่อนข้างแข็งแรงและมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้มากขึ้น รวมถึงร่วมมือกับนักออกแบบหลายๆ คน จนเกิดเป็นรองเท้ารุ่นต่างๆ ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในวงกว้างทุกเพศทุกวัย ทำให้ Converse มียอดขายเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี และสร้างภาพลักษณ์ใหม่เป็นแบรนด์รองเท้าผ้าใบที่ใครๆ ก็สามารถใส่ได้ไม่ใช่เฉพาะนักกีฬาเท่านั้น โดยมีหลายรุ่นที่เป็นที่นิยม อย่างเช่น Chuck Taylor All Star ทั้งแบบหุ้มและไม่หุ้มข้อเท้า, Jack Purcell ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นรองเท้าแบดมินตัน แต่ปัจจุบันก็เป็นที่นิยมในการใช้สวมใส่ทั่วไป และ Converse CONS ที่ผลิตมาในปี 2009 สำหรับใช้เล่นสเกตบอร์ดโดยเฉพาะ แต่ต่อมาก็เป็นที่ชอบของคนทั่วไปเช่นกัน ซึ่งหากอยากรู้ว่า รองเท้า Converse ทำไมถึงเป็นที่นิยมได้มากกว่าร้อยปี ลองค้นหารุ่นต่างๆ ดู เชื่อว่าจะต้องมีมากกว่าหนึ่งคู่ที่ถูกใจคุณเป็นแน่แท้

 

รองเท้า Converse3

ป้ายโลโก้แปลกๆ ของรุ่น  Chuck Taylor All Star 100

หลังจากการเปิดตัว Jack Purcells เมื่อเดือนตุลาคม 2563 Converse ประเทศญี่ปุ่นได้กลับมาที่เทรนด์ในแบบเดิมอีก เเต่คราวนี้เปลี่ยนมาเล่นกับรุ่นทรงคลาสสิค ด้วยการจับรุ่น Chuck Taylor All Star 100 มาหั่นครึ่งที่โลโก้ โดยสีที่ใช้ในการผลิตครั้งนี้ จะมี สีดำ เเละ สีขาว รองเท้าผลิตจากผ้า TENCEL จุดเด่นของรุ่นนี้ คือการจับโลโก้ All-Star ที่บริเวณข้อเท้ามาปรับให้มีการล้ำกัน เหมือนโดนเฉือนให้ขาด โดยรองเท้าข้างซ้ายโลโก้จะถูกหั่นเป็นเเนวนอน ขณะที่รองเท้าขางขวาจะถูกหั่นเป็นเเนวตั้ง ส่วนองค์ประกอบโดยรวมของรองเท้ายังคงไว้ตามต้นฉบับไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ป้ายโลโก้ด้านในของรุ่น Converse All Star และ รุ่น Chuck Taylor All Star 100 แตกต่างกันแค่ตรงดีไซน์ที่รุ่น  Chuck Taylor All Star 100 ได้ถูกปรับให้มีการล้ำกัน เหมือนโดนเฉือนให้ขาด ที่เหลือองค์ประกอบโดยรวมของรองเท้าผ้าใบ Converse หุ้มข้อก็ยังเหมือนเดิมคงความคลาสิคไว้ให้ครอบครองกันได้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง