หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า ไดร์เป่าผม ทำให้ผมร่วงได้หรือไม่ แก้ไขยังไง?

ไดร์เป่าผม ทำให้ผมร่วงได้หรือไม่ แก้ไขยังไง?

4348
การใช้ไดร์เป่าผมทำให้ผมร่วงหรือไม่

ไดร์เป่าผม ก็อาจจะสามารถทำให้ผมหลุดร่วง ผมบาง หรือทำให้รากผมไม่แข็งแรงได้ด้วยเช่นกัน แต่การใช้ไดร์ในการเป่าผมก็ไม่ใช่สาเหตุเพียงสาเหตุเดียวที่จะทำให้ผมหลุดร่วง ยังมีอีกหลายปัจจัยในการใช้ชีวิตของคุณที่อาจจะทำให้ผมเปราะบางได้ เรามีวิธีการใช้ไดร์ในการเป่าผมโดยไม่ทำร้ายเส้นผมมาแนะนำกัน พร้อมกับวิธีการรักษาเส้นผมให้แข็งแรง ไม่ขาดง่ายอีกด้วย

ใช้โหมดลมร้อนของไดร์เป่าผมเป็นประจำทุกวัน ก็สามารถให้ผมร่วงได้

ถ้าคุณกลัวว่าเส้นผมจะขาดหรือหลุดร่วง สิ่งที่คุณควรจะต้องทำก็คือการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับเส้นผมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ในการบำรุงเส้นผมที่ทำจากธรรมชาติหรือออร์แกนิคแทน ไม่ใช่เพียงเท่านั้น การใช้สารเคมีในการตกแต่งเส้นผมอย่างเจล แว็กซ์ หรือสเปรย์ กระทั่งการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนอย่างไดร์สำหรับเป่าผมหรือเครื่องหนีบผม ซึ่งจะทำให้ความร้อนสัมผัสเข้ากับเส้นผมโดยตรงเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็อาจจะทำให้เส้นผมได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน ดังนั้นคำถามที่ว่าการหากคุณใช้ไดร์ในการเป่าผมจะส่งผลทำให้ผมร่วงได้หรือไม่? คำตอบคือใช่ ความร้อนของไดร์จะทำให้เส้นผมขาดและเปราะบาง ส่งผลให้หลุดร่วงมากขึ้นกว่าปกติ แต่จะมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ไดร์ที่มีความร้อนในการเป่าผมบ่อยมากแค่ไหน และใช้ความร้อนระดับใดในการเป่าผม

ปกติแล้วไดร์สำหรับใช้เป่าผมคุณภาพดีจะมีการระบบในการควบคุมความร้อนและความรุนแรงของลมในระดับที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ ในการใช้ไดร์ในการเป่าผมโดยไม่ทำให้ผมเสียหรือผมร่วง ก็คือการไม่ใช้ลมร้อนในการเป่าผม แต่ใช้โหมดลมอย่างเดียวแทน และควรจะหลีกเลี่ยงการใช้ลมเป่าซ้ำ ๆ ไปที่โคนผม แต่ให้เป่าไปที่ปลายเส้นผมเพื่อให้ผมค่อย ๆ แห้งเพื่อไม่ทำให้รากเปราะและทำให้ผมร่วงได้ นอกจากนั้นยังไม่ควรจะเป่าผมในระยะที่ใกล้กับหนังศีรษะมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผมระคายเคืองได้เช่นเดียวกัน

การเป่าโคนผมโดยใช้ไดร์เป่าผม

วิธีการง่าย ๆ ในการบำรุงเส้นผม คือการหลีกเลี่ยงการใช้ลมร้อนและใช้ครีมในการบำรุงผมเป็นประจำ

ในการปกป้องเส้นผมไม่ให้หลุดร่วงนั้นยังสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการใช้ครีมบำรุงผมและรากผมก่อนที่จะใช้ไดร์ในการเป่าผม อีกทั้งยังช่วยป้องกันความชุ่มชื้นของเส้นผมไม่ให้หายไประหว่างที่ลมและความร้อนจากไดร์สำหรับเป่าผมสัมผัสกับเส้นผมโดยตรงอีกด้วย

ในส่วนของความถี่ในการใช้ความร้อนในการเป่าผมคือไม่ควรจะเกิน 2 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนทำร้ายเส้นผมมากเกินไปจนผมร่วงได้ โดยนอกจากควรจะต้องหลีกเลี่ยงการใช้ลมร้อนในการเป่าผมแล้ว ควรจะต้องหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนจ่อไปที่เส้นผมเฉพาะจุดเพื่อเป่าให้แห้งเป็นระยะเวลานาน ๆ และอย่าลืมใช้ครีมบำรุงผมในการเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผมอีกต่อหนึ่ง เพียงแค่นี้ก็จะช่วยลดอาการผมร่วงได้แล้ว

ถือเป็นโชคดีที่ในปัจจุบันมีไดร์ผมหลากหลายแบรนด์ที่พัฒนาเทคโนโลยีในการเป่าผมและรักษาสุขภาพของเส้นผม ไม่ทำให้ผมเสียความชุ่มชื้นไป อีกทั้งยังบำรุงรากผมและหนังศีรษะได้อีกด้วย หากคุณจำเป็นที่จะต้องใช้ไดร์ในการเป่าผมให้แห้งเป็นประจำทุกวัน ก็ควรจะต้องลงทุนซื้อเครื่องเป่าผมที่มีเทคโนโลยีถนอมเส้นผมดังกล่าวมาใช้ ก็จะสามารถช่วยลดอาการผมร่วงได้อีกทางหนึ่ง

ไดร์สามารถทำร้ายเส้นผม ทำให้เส้นผมเปราะบางได้หากผู้ใช้ปรับระดับความร้อนสูงเกินไปในการเป่าผม เป่าย้ำ ๆ ไปที่โคนผมเป็นประจำทุกวัน

ไดร์เป่าผมทำให้ผมแห้งเสียจะนำไปสู่อาการผมร่วงอันเนื่องมาจากผมที่แห้ง ขาดความชุ่มชื้นและไม่แข็งแรง ดังนั้นหากคุณอยากจะรักษาผมหนา ๆ สุขภาพดีของคุณเอาไว้ ก็ควรจะต้องหลีกเลี่ยงการใช้ไดร์ในการเป่าผม แต่เปลี่ยนมาใช้ลมแรง ๆ จากพัดลมแทน หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็เลิกใช้ลมร้อนในการเป่าผมเป็นประจำ เปลี่ยนมาใช้โหมดลมปกติที่ไม่มีความร้อนและควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถบำรุงความแข็งแรงของเส้นผม ชโลมที่เส้นผมเป็นประจำทั้งก่อนและหลังการใช้ไดร์ในการเป่าผม นอกจากนั้นก็ควรจะหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรง ๆ กับเส้นผมในการทำสีผมหรือทำความสะอาดผมจนทำให้เส้นผมอ่อนแออีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง