ราคาแอร์แคเรียร์

สำหรับการเลือกขนาด BTU แอร์ให้เหมาะสมกับขนาดของห้องของตนเองนั้นใครๆ ก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญขนาดไหน เพราะหากเราเลือกขนาด BTU ไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง งานนี้มีเละแน่นอน เพราะนอกจากค่าไฟจะบานเบอะแล้ว ยังไปลดประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่องได้อีกด้วย ดังนั้น ใครที่มีแพลนจะซื้อแอร์ของ Carrier กันอยู่พอดีแล้วยังไม่รู้ว่าต้องใช้ขนาด BTU เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม มาดูกันเลย เราหามาให้แล้ว!

1. แอร์ Carrier ขนาด 9000 BTU พร้อมราคา
สำหรับห้องขนาดเล็กที่สุด น้อยกว่า 12 ตารางเมตรนั้น เหมาะเป็นอย่างมากกับแอร์ Carrier ขนาด 9000 BTU และด้วยราคาเพียงเริ่มต้นแค่ 9,000 บาทที่มาพร้อมกับคุณสมบัติช่วยในการประหยัดไฟและพลังความเย็นแบบสุดยอดเต็มที่อย่าง Everest 9000 BTU จึงทำให้เราแทบจะไม่แปลกใจเลยทำไมถึงกลายเป็นแบรนด์ที่ขายดีอันดับต้นๆ ของไทย

2. แอร์ Carrier ขนาด 13000 BTU พร้อมราคา
และห้องใครที่มีขนาดห้องตั้งแต่ 12-16 ตารางเมตร ก็ต้องเฟ้นหาแอร์ Carrier ที่มีขนาด 12000 BTU นี่แหละตอบโจทย์สุด เพราะนอกจากจะมีราคาเบาๆ เริ่มต้นเพียงหมื่นต้นๆ แล้วนั้น ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติสุดพิเศษอย่างเทคโนโลยี INVERTER ในรุ่น GEMINI ที่ช่วยประหยัดไฟ ทำความเย็นสูงแต่ใช้กระแสไฟต่ำ มาพร้อมกับสารทำความเย็น R32 ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยังป้องกันและช่วยกำจัดฝุ่นจากภายนอกได้อีกด้วย

3. แอร์ Carrier ขนาด 18000 BTU พร้อมราคา
ขนาดห้อง 18-24 ตารางเมตรก็ต้องนี่เลย Carrier ขนาด 18000 BTU ซึ่งไม่ว่าตัวห้องจะใหญ่แค่ไหน เมื่อเจอขนาด BTU ที่เหมาะสมอย่างตัวนี้เข้าไปยังไงก็เย็นฉ่ำหลับสบายถึงเช้าอย่างแน่นอน ซึ่งตัวที่เราอยากจะนำเสนอเป็นพิเศษเลยก็คือตัวนี้เลย Carrier Explorer Inverter นอกจากจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 18,000 บาทแล้วนั้น ยังมีความดีความงามคุ้มค่าสมราคาเพราะระบบคอมเพรสเซอร์เป็นแบบระบบโรตารี่ จึงช่วยทำให้ห้องเย็นเร็วมากกว่าเดิม แถมไม่กินไฟอีกด้วยเช่นกัน

4. แอร์ Carrier ขนาด 24000 BTU พร้อมราคา
และปิดท้ายกันที่ตัวสุดท้ายกับแอร์ที่เหมาะกับขนาดห้องประมาณ 24-32 ตารางเมตร ซึ่งเรียกได้ว่าใหญ่พอสมควร แต่ก็ไม่เป็นปัญหาแน่นอนถ้าได้เจอ Carrier รุ่น 42TOVGS024 24,000 BTU ที่มาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 35,000 บาท และยังใช้เทคโนโลยีช่วยประหยัดพลังงาน ทำความเย็นสูงแต่ใช้กระแสไฟต่ำ ประหยัดไฟมากกว่ารุ่นธรรมดาถึง 30% ต่อให้เครื่องจะใหญ่แค่ไหน เห็นมั้ยว่าไม่มีปัญหาต่อค่าไฟใดๆ จริงๆ

ดังนั้น หากใครที่มีแพลนจะติดแอร์ Carrier อยู่พอดีแต่ยังไม่รู้ข้อมูลการซื้อใดๆ มาก่อนล่ะก็ นี่แหละเป็นเหล่าปัจจัยพื้นฐานเบื้องต้นที่ทุกคนจะต้องรู้และเตรียมตัวก่อนจะควักเงินเสียไป เพราะเมื่อเรามีข้อมูลแน่น และพอจะรู้แล้วล่ะก็ว่าตัวไหนที่จะตอบโจทย์กับสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด เราก็จะได้รุ่นที่คุ้มค่ากับเงินที่เราต้องเสียไปอย่างเต็มที่ไปในตัวด้วยนั่นเอง

ต้องบอกก่อนเลยว่า บ้านเรือนสมัยนี้แทบจะน้อยมากๆ ที่ไม่มีแอร์ติดตั้งอยู่ภายในบ้าน โดยเฉพาะบ้านเรือนในประเทศไทย ที่ต้องอาศัยเครื่องปรับอากาศเป็นตัวช่วยหลักให้ยังมีชีวิตต่อไปได้ ซึ่งแอร์ในปัจจุบัน ก็ได้พัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ขึ้นมาตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้ใช้งาน อย่าง แอร์ carrier inverter ที่ทำความเย็นได้สูงแต่ใช้กระแสไฟต่ำ จนกลายเป็นแอร์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าช่วยประหยัดพลังงานได้แบบสุดเจ๋ง ดังนั้น เราจะไปเจาะลึกกันว่าเจ้าแบรนด์นี้ ว่ามีแอร์แบบ Inverter อยู่กี่แบบ แล้วมันต่างกันอย่างไรบ้าง

1. Xinverter  
เจ้ารุ่นนี้ต้องบอกก่อนว่าประหยัดพลังงานได้ระดับปานกลาง แต่มีคุณสมบัติสุดล้ำที่ช่วยปกป้องฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรคได้อย่างดีเยี่ยมเพราะมีแผ่นฟอกอากาศสุดสมาร์ทอย่าง Static Cotton ที่ช่วยกำจัดฝุ่นได้ถึง 94% เลยทีเดียว จึงถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองในยุคสมัย PM 2.5 กำลังระบาดเลยนั่นเอง

2. Enterprise
สำหรับรุ่นนี้ของแอร์ carrier inverter นั้น ต้องเรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่ประหยัดไฟได้มากกว่ารุ่นธรรมดาถึง 30% เลยทีเดียว อีกทั้งขนาดพัดลมในตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ต่างจากรุ่นอื่น จึงช่วยให้รู้สึกรับรู้ถึงความเย็นได้แบบทั่วกระจาย พร้อมทั้งรู้สึกหายใจได้อย่างสดชื่น ด้วยสารเคลือบ Aqua Resin ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดีอีกเช่นเดียวกัน

3. Gemini 
รุ่น Gemini ถือเป็นอีกหนึ่งตัวในไลน์ Inverter ที่ประหยัดไฟเอามากๆ แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงให้ความรู้สึกสดชื่น หายใจได้อย่างโล่งปอด เพราะตัวคอยล์เคลือบด้วยสาร Aqua Rasin ที่ช่วยลดการสะสมของฝุ่น แบคทีเรีย และเชื้อราได้เป็นอย่างดี

4. Explorer 
แอร์ carrier inverter รุ่นนี้จะให้สัมผัสความเย็นได้แบบเต็มพลังปอด เพราะสารทำความเย็นที่แฝงอยู่ในตัวนี้ นอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วนั้น ยังเคลือบด้วยสาร Aqua Rasin ที่ช่วยลดการสะสมฝุ่น แบคทีเรีย และเชื้อราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งระบบทำความสะอาดยังเป็นแบบอัตโนมัติ จึงช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสดชื่นได้มากกว่าเคย พร้อมประหยัดค่าไฟได้มากกว่ารุ่นธรรมดากว่า 30% เลยทีเดียวด้วย

5. XPower
นอกจากจะประหยัดไฟได้มากกว่ารุ่นธรรมดาถึง 30% แล้วนั้น เจ้าตัวนี้ยังได้รับการออกแบบสไตล์โมเดิร์นที่เหมาะกับทุกสไตล์การตกแต่งห้องได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่รักความเป็นสงบ ไม่ชอบฟังเสียงแอร์กำลังทำงาน เจ้าตัวนี้ต้องเรียกได้ว่าตอบโจทย์มากๆ อย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้เป็นบรรดาแอร์ carrier inverter 5 รุ่น ที่ทางเราได้คัดมาเป็นอย่างดีแล้วว่า สวยทั้งรูป เด่นในเรื่องคุณภาพ ซื้อแล้วต้องหลงรักหัวปักหัวปำ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดไฟ ตอบโจทย์ชีวิตเศรษฐกิจขาลงได้เป็นอย่างดีแล้วนั้น แอร์ Carrier ทั้ง 5 ตัวนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยกำจัดฝุ่นอันเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่งอีกด้วย บอกเลยว่าเลือกเอาไว้ติดตั่งภายในบ้านสักตัว ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน