ในปัจจุบันนั้นหลัก ๆ แล้วมี 3 แบบด้วยกัน คือ
1.สาย Lightning : สายชาร์จแบบนี้จะอยู่ในตระกูล iPhone จะมีตั้งแต่ iPhone 5 ขึ้นไป และ อุปกรณ์ตระกูล i ทั้งหลายในปัจจุบันอย่าง iPod Touch และ iPad ก็จะเป็นสายแบบนี้ทั้งสิ้น
2.สาย Micro USB : สายลักษณะนี้จะมีอยู่ในโทรศัพท์ฝั่ง Android และรวมไปถึงพวก Windows Phone ด้วย
3.สาย USB-C : สายลักษณะนี้ก็เช่นกันจะมีอยู่ในโทรศัพท์ฝั่ง Android แต่ประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลและการชาร์จไฟจะทำได้เร็วกว่า สายประเภทที่ 2 โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่และรุ่นเรือธงต่าง ๆ มักจะใช้สายแบบนี้กันหมดแล้ว
การรู้จักประเภทของสายก็จะช่วยให้เราทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า ควรเลือกซื้ออย่างไร ซื้อประเภทไหน แต่ทั้งนี้การจะตัดสินใจซื้อสายชาร์จ ยี่ห้อไหนดีนั้นจะพิจารณาแต่เพียงยี่ห้อแบรนด์ของโทรศัพท์และประเภทของสายเท่านั้นยังไม่เพียงพอ สิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาประกอบไปด้วยก็คือ สมาร์ทโฟนของคุณรองรับระบบการชาร์จนั้น ๆ หรือไม่
อย่างโทรศัพท์ของค่าย iPhone นั้นแทบจะทั้งหมดไม่รองรับระบบ Fast Charge เลย โดยที่ทาง Apple เพิ่งจะมีการมาเปลี่ยนแปลงกันตอนที่ iPhone 8 Plus และ iPhone X ออกมานี่เอง ฉะนั้น ถ้าคุณใช้โทรศัพท์ iPhone ที่รุ่นต่ำกว่า iPhone 8 ลงไปก็ต้องทำใจ และไม่ควรเลือกซื้อ
สายชาร์จที่มีระบบ Fast Charge เพราะถ้าคุณฝืนเลือกโทรศัพท์ของคุณอาจระเบิดได้ และก็เช่นกันแม้ว่าโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของคุณจะเป็นระบบ Android ก็ใช่ว่าทุกรุ่นจะรองรับการชาร์จแบบ Fast Charge
วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าโทรศัพท์รุ่นไหนที่รองรับ Fast Charge ก็ให้ดูที่สายหลักที่มากับเครื่องตอนซื้อ ถ้าเครื่องให้สาย USB-C มาด้วยก็เท่ากับว่าเครื่องนั้นรองรับระบบ Fast Charge หรือจะดูที่ตัวเครื่องโดยตรงเลยก็ได้ว่า ช่องเสียบรองรับ USB-C หรือไม่ สำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้สาย Micro USB ก็มีบางรุ่นเหมือนกันที่รองรับการชาร์จแบบเร่งด่วน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรุ่นเรือธงที่ราคาสูง ถ้าคุณพิจารณาได้ดังนี้ คุณก็จะสามารถเลือกซื้อสายได้ตรงความต้องการและตรงใจที่สุดแล้ว