ช่วงเวลาที่ดูจะเป็นปัญหาและสร้างความวิตกกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่เกี่ยวกับลูกน้อยได้มากที่สุดคือ ช่วงเวลาที่ลูกน้อยมีอาการเจ็บป่วย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรต้องมียาที่สามารถบรรเทาอาการของลูกน้อยในเบื้องต้นก่อนที่จะถึงมือคุณหมอ วันนี้เราจะมาสำรวจดูตู้ยาของลูกน้อยกันว่า ยาสำหรับเด็ก ที่ต้องมีไว้ติดบ้านมีอะไรกันบ้าง
- ยาแก้ไข้เด็ก ยาลดไข้สำหรับเด็กควรต้องเป็นยาชนิดน้ำคือ ยาน้ำลดไข้ พาราเซตามอล ซึ่งยานี้มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เพราะจัดอยู่ในกลุ่มยาสามัญประจำบ้านที่คุณพ่อคุณแม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาแผนปัจจุบัน หรืออาจจะในร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่ข้อสำคัญคือ ต้องใช้ในปริมาณที่กำหนดไว้ในฉลากยา ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย
- ยาทาผื่นทารก ผดผื่นบนผิวหนังของทารกที่พบบ่อยที่สุดคือ ผื่นผ้าอ้อม ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังของทารกเปียกชื้น หรือจากการหมักหมม มักพบได้บ่อยในทารกวัย 9 - 12 เดือน เพราะเป็นช่วงที่ทารกยังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง และเริ่มเปลี่ยนมารับประทานอาหารเด็กอ่อน ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของความเป็นกรดในอุจจาระ ยาที่ควรมีไว้ในตู้ยาประจำบ้านคือ ผลิตภัณฑ์เคลือบผิวทาบริเวณที่ใส่ผ้าอ้อม อาจจะเป็นชนิดครีมหรือน้ำมัน ที่มีส่วนผสมของ Zinc Oxide หรือ Petrolatum หรือ Dimethicone เพื่อเคลือบปกป้องผิวไม่ให้เกิดการระคายเคือง หรือสัมผัสกับสารเคมี และความชื้น รวมถึงช่วยลดลดการเสียดสีของผ้าอ้อม
- ยากันยุงเด็ก เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีติดบ้าน เพราะภัยร้ายที่มาจากยุงมาในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เป็นเม็ดผื่นคันบนผิวหนังไปจนถึงโรคร้ายต่าง ๆ ที่อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกซื้อยากันยุงสำหรับเด็กที่ปราศจากสารพิษอันตราย เช่น แอลกอฮอล์ สี หรือน้ำหอม ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบสเปรย์ โลชั่น และแบบครีม ที่เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสกัดจากธรรมชาติ หรือสารชีวสังเคราะห์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
- ยาแก้ท้องอืดทารก อาการท้องอืดเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น นมไม่ย่อย การดูดลมเข้าไปขณะกินนมแม่หรือขณะดูดนมจากขวด ทำให้มีแก๊สในกระเพาะอาหาร เป็นต้น คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกซื้อยาแก้ท้องอืดสำหรับทารกได้จากร้านขายยาแผนปัจจุบัน หรืออาจจะลองใช้ วิธีกดจุดไล่ลมในท้อง ด้วยการวางทารกในท่านอนหงายแล้วนวดบริเวณหน้าท้องเบา ๆ เริ่มจากด้านขวาไปยังด้านซ้าย หรืออุ้มทารกขึ้น ให้คางพักอยู่บริเวณไหล่ของแม่ แล้วใช้มือตบหลังทารกเบา ๆ
แต่หากสังเกตว่า อาการยังไม่บรรเทาลงหลังจากการใช้ยาในเบื้องต้น คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยของคุณไปพบแพทย์