ในส่วนของวิธีการเลือกซื้อFlashdrive นอกจากต้องคำนึงถึงเรื่องของราคาแล้ว ยังต้องพิจารณาสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ประกอบ
- ความจุที่ต้องการใช้ โดยการเริ่มจากพิจารณาก่อนว่า คุณต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด และจะนำปใช้เก็บข้อมูลประเภทใด ถ้าเก็บข้อมูลทั่วไปหรือไฟล์รูปภาพที่ไม่เยอะมาก สามารถเลือกซื้อแบบความจุที่ 8 – 16 GB ก็เพียงพอ ซึ่งบางรุ่นมีราคาไม่ถึง 100 บาทด้วยซ้ำ แต่ถ้าต้องการเก็บไฟล์ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ เช่น ไฟล์วีดีโอ หรือไฟล์หนังสือมาก ๆ ก็ควรเลือกความจุขนาด 16 GB ขึ้นไปได้เลย
- พอร์ตการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ถ้าหากเลือกใช้แบบที่มีความจุไม่เกิน 16 GB จะเลือกใช้พอร์ต USB 2.0 ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอุปกรณ์มีความจุมากกว่า 16 GB ขึ้นไป ขอแนะนำให้เลือกพอร์ต USB 3.0 เพราะพอร์ต USB 3.0 จะโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วทันใจกว่ามากพอสมควร
- การรับประกันของสินค้าหลังการขาย ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเช่นเดียวกัน ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีการประกันตลอดอายุการใช้งานเป็นหลัก เพราะด้วยลักษณะการใช้งานมักมีการดึงเข้าออกบ่อย ๆ หากสินค้าคุณภาพต่ำก็จะพังเสียหายได้ง่าย จุดนี้เองที่การรับประกันจะช่วยเหลือคุณได้
- รูปร่างก็เป็นสิ่งสำคัญ แน่นอนว่านี่คือของใช้งานส่วนตัวของเรา ก็ต้องเลือกซื้อให้ถูกใจเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ด้วยเหมือนกัน ในปัจจุบันมีการออกแบบออกมาหลายรูปแบบมาก ตั้งแต่ขนาดปกติความยาวประมาณ 2 นิ้ว ไปจนถึงขนาดเล็กจิ๋วประมาณเหรียญ 50 สตางค์เท่านั้น
ด้วยการใช้งานที่ง่าย ปัจจุบัน Flashdrive กลายเป็นอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าคนในยุค 4.0 ต้องมีติดตัวไว้สำหรับใช้งาน เรามั่นใจว่าอย่างน้อย ๆ ทุกคนต้องมีสัก 1 ชิ้นแน่นอน โดยจุดประสงค์หลัก ๆ ก็มักจะไว้เก็บไฟล์ข้อมูลที่มีความสำคัญ ทำให้เกิดความสะดวกในการใช้ชีวิตมากขึ้น สามารถเปิดดูข้อมูลที่สำคัญได้ทุกที่ทุกเวลา
คำค้นหายอดนิยมในหมวดหมู่นี้: โน๊ตบุ๊ค , คอมพิวเตอร์ , จอคอมพิวเตอร์ , Ram , การ์ดจอ , เมนบอร์ด , เมาส์ , Printer , Scanner , External Harddisk
