จอโปรเจคเตอร์

เมื่อเรากล่าวถึงจอ Projector เชื่อว่าความคิดของคนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงจอผ้าขาว ๆ ขนาดใหญ่ที่ตั้งไว้ในห้องประชุม แน่นอนนั่นเป็นภาพที่เราคุ้นตา แต่เวลาเราต้องไปเลือกซื้อคุณถึงจะรู้ว่า แท้จริงแล้วจอ Projector มีให้เลือกหลากหลายแบบไม่ได้เป็นแค่จอขาว ๆ อย่างที่เราเห็นแค่นั้น มีหลายประเภทพอ ๆ กับตัวเครื่องฉายโปรเจคเตอร์เลยทีเดียว ซึ่งจอรับภาพนี้แบ่งออกเป็นหลายประเภทดังนี้

• จอโปรเจคเตอร์แบบมือดึง แบบนี้น่าจะเป็นรูปแบบที่คุ้นตามากที่สุด ลักษณะจะเหมือนม่าน ต้องใช้มือดึงเชือกเพื่อปลดตัวจอลงมา และเวลาจะเก็บก็ต้องใช้มือกระตุกเชือกเช่นกัน จอแบบนี้มีขนาดให้เลือกหลายขนาดมีตั้งแต่ 50 – 150 นิ้ว ข้อดีของจอแบบนี้คือ ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย ส่วนข้อเสียก็คือ อุปกรณ์โปรเจคเตอร์บางชิ้นอาจจะชำรุดได้ง่าย เนื่องจากต้องมีการดึงเข้าดึงออกอยู่บ่อย ๆ ทำให้อุปกรณ์บางชิ้นอาจหักหรืองอได้
• จอแบบที่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า ตัวรูปร่างของจอก็จะเหมือนกับแบบแรก แต่ระบบการเปิดใช้งานและการเก็บนั้นจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีสวิตช์ และรีโมทช่วยในการควบคุม ตัวระบบมอเตอร์ที่ใช้ก็จะมีแยกย่อยออกไปอีกเป็น synchronize motor และ Tubular motor ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งานของแต่ละคน จอแบบนี้จะเป็นจอขนาดใหญ่มีขนาดตั้งแต่ 70 – 400 นิ้วเลยทีเดียว ข้อดีก็คือเรื่องของความสะดวกจัดเก็บง่าย ส่วนข้อเสียคือ ราคาสูง
• จอแบบมอเตอร์ไฟฟ้ามีลวดขึงตึง จอ Projector แบบนี้จะคล้ายกับแบบก่อนหน้า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเหมือนกัน แต่จะมีการเพิ่มลวดในการขึงเนื้อผ้าให้ตึงขึ้น ทำให้จอไม่สั่นไหวง่าย จอแบบนี้จะมีขนาดตั้งแต่ 70 – 120 นิ้ว ข้อดีคือสะดวกง่ายต่อการจัดเก็บ เคลื่อนย้ายสะดวก ข้อเสียคือราคาสูง และมีอุปกรณ์บางชิ้นแตกหักง่าย

อย่างที่ทราบกันวิธีการทำงานของการฉายภาพต่าง ๆ จะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อยู่ 2 ชิ้น นั่นคือตัวเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ กับ ส่วนที่เป็นจอ Projector ในส่วนที่เป็นตัวเครื่องฉายโปรเจคเตอร์นั้นก็จะทำการประมวลผลข้อมูลที่รับมาและฉายแสงส่องไปยังส่วนที่เป็นจอรับภาพ ซึ่งส่วนที่เป็นจอรับภาพนี้วัสดุพื้นผิวก็จะเป็นผ้า ซึ่งเนื้อผ้าที่นำมาใช้ทำก็จะมีหลายแบบด้วยกัน แบ่งได้ดังนี้

• matt white จะเป็นจอที่ใช้เนื้อผ้าที่การเคลือบสารพิเศษ ที่ช่วยทำให้แสงที่ได้รับมาเกิดการกระจายตัวออก ซึ่งถ้าเทียบกับการฉายภาพจากเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ไปยังผนังปูนสีขาวเปล่า ๆ แล้ว การฉายภาพใส่จอแบบนี้จะดีกว่าหลายเท่า ภาพที่ได้จะชัดเจนและคมกว่ากันมาก
• HD fabric เนื้อผ้าที่ใช้ทำจะมีการเคลือบสารพิเศษแบบเดียวกันกับจอแบบแรก แต่คุณภาพของสารและวิธีการเคลือบจะละเอียดและพิถีพิถันกว่า จึงทำให้คุณภาพของผ้าแบบนี้สูงกว่าแบบแรก การกระจายแสงและช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับภาพที่ฉายมาก็ดีกว่า และแน่นอนว่าราคาก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย
• USA fiber glass เนื้อผ้าแบบนี้คุณภาพสูงที่สุดในการใช้ทำจอโปรเจคเตอร์ ทั้งสารที่ใช้เคลือบเนื้อผ้า และวิธีการเคลือบมีความละเอียดมากกว่า 2 แบบแรก ทำให้เรื่องการรับภาพทำได้ดีมากยิ่งขึ้น และเรื่องของราคาแบบนี้ก็จะราคาสูงที่สุด

คุณจะเห็นว่าเนื้อผ้าที่ใช้ทำจอรับภาพ จะมีการแบ่งเกรดและระดับของคุณภาพกันไป การรู้ระดับของเนื้อผ้าก็จะยิ่งช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นและตรงใจมากขึ้น หากอยากได้จอโปรเจคเตอร์ดี ๆ สำหรับงาน presentation ในบริษัท แวะมาช้อปออนไลน์กับสินค้าที่คุณต้องการนี้ได้ที่ Priceza เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ ที่รวบรวมสินค้ามากมายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ไว้ที่นี่ที่เดียว

คำค้นหายอดนิยมในหมวดหมู่นี้ : โปรเจคเตอร์ , Android Box , เครื่องเล่น DVD , เครื่องเล่น Mp3