
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563
สินเชื่อบัตรเครดิต
- ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำมาอยู่ที่ 5% (จากเดิม 10%) มีผลตั้งแต่รอบบิลของวันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี โดยเป็นมาตรการช่วยเหลือที่ให้สิทธิแก่ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภทและทุกรายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังธนาคารแต่อย่างใด
- กลุ่มลูกค้าบัตรเครดิตผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ที่มีอาชีพหรือทำงานในธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว สายการบิน และอาชีพในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จากการที่รัฐบาลประกาศให้หยุดบริการชั่วคราว หรือลูกค้าที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท/เดือน สามารถขอรับความช่วยเหลือปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ เป็นคงเหลือที่ 12% โดยลูกค้าแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ประเภทเงินกู้ (Installment Loan)
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยลูกค้าแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อที่อยู่อาศัย (วงเงินขณะอนุมัติไม่เกิน 3 ล้านบาท)
- พักชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งจะพิจารณาปรับดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามสถานการณ์ เพื่อช่วยลดความกังวลใจ โดยลูกค้าแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อธุรกิจ SME (วงเงินขณะอนุมัติไม่เกิน 20 ล้านบาท)
- ขอพักชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งจะพิจารณาปรับดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามสถานการณ์ เพื่อช่วยลดความกังวลใจ โดยลูกค้าแจ้งความประสงค์มายังช่องทางของธนาคาร
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มกราคม 2563 และลูกหนี้ค้างชำระ (NPL) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562
สินเชื่อธุรกิจ
- สินเชื่อเดิมที่มีกับธนาคาร พักชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
- การปรับลดอัตราดอกเบี้ย การยกเว้นดอกเบี้ยผิดนัด และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
- ให้สินเชื่อเพิ่ม
- ลูกหนี้ SMEs สนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมตามโครงการ “สินเชื่อบัวหลวง SME บรรเทาทุกข์จากภาวะเศรษฐกิจ” เพื่อช่วยเหลือด้านเงินทุนและเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการที่ธุรกิจได้รับผลกระทบ วงเงินต่อรายสูงสุด 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR-1% ต่อปี หรือพิจารณาผ่อนผันตามความเหมาะสมแต่ละกรณี
- สำหรับลูกหนี้รายใหญ่พิจารณาสินเชื่อเพิ่มตามความเหมาะสมเป็นรายกรณี
ลูกหนี้รายย่อย (สินเชื่อบัตรเครดิต)
- ผ่อนผันลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติร้อยละ 50
- ผ่อนผันลดจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือไม่เกินร้อยละ 10
- ผ่อนผันลดอัตราดอกเบี่ยลงจากอัตราปกติร้อยละ 50 ไม่เกินเดือนธันวาคม 2564
- ผ่อนผันให้ไม่ต้องผ่อนชำระหนี้ตามยอดเรียกเก็บไม่เกิน 3 รอบบัญชี
- ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ผ่อนผันให้ปลอดการชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
- ปรับยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 40% ไม่เกิน 24 เดือน
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ระยะเวลาหนึ่ง
- ผ่อนผันยกเว้นดอกเบี้ยผิดนัด
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563
สินเชื่อบัตรเครดิต
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำให้แก่ลูกหนี้ทุกราย โดยลูกหนี้ไม่ต้องติดต่อธนาคาร จากเดิม 10% เป็นดังนี้ ชำระขั้นต่ำ 5% ปี 2563-2564
- ชำระขั้นต่ำ 8% ปี 2565 ชำระขั้นต่ำ 10% ตามเดิม ปี 2566
สินเชื่อบุคคล
- สินเชื่อบัตรเครดิต/บัตรเงินด่วน Cash Xpress พักชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย ถึงธันวาคม 2563 ยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
- สินเชื่อเงินด่วน XPress Loan พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี ยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อบ้าน
- พักชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย สูงสุด 12 เดือน หรือ ลดยอดผ่อนต่องวด 50% สูงสุด 12 เดือน ยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อรถยนต์ KLeasing
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี ยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อธุรกิจ K SME
- พักชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย เป็นเวลา 1 ปี
- ขอวงเงินสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
1. โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) : วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 20 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อน 5 ปี ใน 2 ปีแรก
ดอกเบี้ยคงที่ 2% และจ่ายแต่ดอกเบี้ย
2. โครงการ SME สร้างไทย โดยมี บสย. ค้ำประกัน : วงเงินสูงสุด 30 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 7 ปี
ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ค้างชำระ (NPL) สามารถติดต่อธนาคารเพิ่มเติม
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563สินเชื่อบัตรเครดิต
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำให้กับลูกค้าทุกท่านจากเดิม 10% อัตโนมัติ ให้เป็น 5% ในปี 2563 และ 2564 เป็น 8% ในปี 2565 และเป็น 10% ในปี 2566 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป ไม่ต้องแจ้งความจำนงมาที่ธนาคาร
สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Speedy Loan)*
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน
สินเชื่อรถยนต์ (วงเงินไม่เกิน 250,000 บาท)*
- เลื่อนชำระค่างวดเป็นเวลา 3 เดือน
สินเชื่อบ้าน (วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท)*
- พักชำระเงินต้นเป็นเวลา 4 เดือน ติดต่อยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย (SME) (วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท)*
- พักชำระเงินต้นเป็นระยะเวลา 4 เดือน
*มาตรการสินเชื่อดังกล่าว ลูกค้าสามารถติดต่อยื่นคำร้องได้ผ่านช่องทางธนาคารมาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มกราคม 2563 และลูกหนี้ค้างชำระ (NPL) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562สินเชื่อธุรกิจ
- พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน
- ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 12 เดือน
- ขยายระยะเวลาวงเงินหมุนเวียน (P/N, T/R, P/C) สูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อรถยนต์: พักชำระค่างวดสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ทุกประเภท และสินเชื่อหมุนเวียน Speedy Cash : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อส่วนบุคคล Speedy Cash : พักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อบ้าน : พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย (SME) (ยอดสินเชื่ิอไม่เกิน 75 ล้านบาท) : พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน และ ขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มสภาพคล่องโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี อัตราดอกเบี้ยต่ำ 2% เป็นเวลา 2 ปี
โดยลูกค้าที่ประสงค์จะพักชำระหนี้สามารถติดต่อ
ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์
สาขาทั่วประเทศ
Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง : 0 2777 7777
internet banking : SCB EASY Net
mobile banking : SCB EASY App
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563 สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด
- ลูกค้าสินเชื่อทุกราย (สินเชื่อ Smart money/อเนกประสงค์ 5 Plus) เลื่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน กรณี ลูกค้าที่มีรายได้ลดลง พักชำระเงินต้น สูงสุด 12 เดือน
- ลูกหนี้ที่ประสงค์จะขอ พักชำระเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ย สามารถติดต่อ ยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อบ้าน
- ลูกค้าทุกราย (วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท) ที่ประสงค์จะขอ พักชำระเงินต้นเป็นเวลา 3 เดือน หรือ กรณีลูกค้าที่มีรายได้ลดลง พักชำระเงินต้น สูงสุด 12 เดือน สามารถติดต่อยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย (SME)
- ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจรายย่อย (SME) ที่อยู่ภายใต้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 20 ล้านบาท ที่ประสงค์จะขอพักชำระเงินต้นเป็นระยะเวลา 3 เดือน สามารถติดต่อยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มกราคม 2563 และลูกหนี้ค้างชำระ (NPL) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562
ลูกค้าธุรกิจที่มีรายได้ลดลง
- พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน
- ขยายระยะเวลาวงเงินหมุนเวียน (P/N, T/R, P/C) สูงสุด 6 เดือน
มาตรการเพิ่มเติม
สินเชื่อกรุงไทย ต้านภัยโควิด-19 ให้สินเชื่อเพิ่มดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 2 คงที่ 2 ปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท
ฟรีค่าธรรมเนียม โอน รับ จ่าย 1 ปี
ทั้งนี้ ลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบการรายย่อย
– ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รถเช่า ร้านขายของฝากของที่ระลึก
– ต้องถูกพักงานหรือเลิกจ้าง ถึงจะได้รับความช่วยเหลือทันที
– กรณีอื่น ๆ แล้วแต่ทางธนาคารพิจารณา
สินเชื่อธนาคารกรุงศรี (สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล และ สินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย)
- พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
- ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
- พักชำระหนี้เงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
เงื่อนไขในการอนุมัติโครงการ:
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (COVID-19)
- ธนาคารพิจารณามาตรการช่วยเหลือตามผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ แล้วแต่กรณี
- ไม่เป็นสินเชื่อค้างชำระเกิน 90 วัน, ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือไม่เป็นสินเชื่อในกระบวนการทางกฎหมาย ก่อน 1 มกราคม 2563
- ลูกค้าสามารถยื่นคำขอได้ไม่เกิน 31 ธันวาคม 2563
สินเชื่อยานยนต์ กรุงศรี ออโต้
- รถจักรยานยนต์: พักชำระค่างวดสูงสุดระยะเวลา 5 เดือน
- รถยนต์: พักชำระค่างวดสูงสุดระยะเวลา 6 เดือน
- ปรับโครงสร้างหนี้ ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ และลดค่างวด
สำหรับลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต กรุงศรี คอนซูเมอร์
- สินเชื่อส่วนบุคคล จากเดิม 5% เหลือ 3% ตามรอบบัญชีตั้งแต่ 18 มีนาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2564
- บัตรเครดิตจากเดิม 10% เหลือ 5% ตามรอบบัญชีตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 – 31 ธันวาคม 2564
มาตรการที่ 2 – พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ เป็นรายกรณี ให้แก่
- กลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางตรง อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม การบิน และธุรกิจบริการอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เป็นต้น
- กลุ่มลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบทางอ้อม
ลูกค้าสามารถลงทะเบียนกับกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งแต่ 15 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563
สินเชื่อธุรกิจ
- เป็นลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจ (ยกเว้น Business Banking) ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งทางตรงหรือทางอ้อมจากภาวะเศรษฐกิจ
- ไม่มีสถานะเป็นลูกหนี้ NPL
- ไม่ใช่ลูกหนี้ทุจริตหรืออยู่ในระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย ไม่มีรายชื่ออยู่ใน Blacklist หรือ Business Fraud
- ลดอัตราดอกเบี้ยได้สูงสุดไม่เกิน 2% จากอัตราดอกเบี้ยเดิม เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน
- ยอดหนี้ค้างชำระก่อนลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้โครงการ สามารถชำระในช่วงท้ายของสัญญาได้
- ผ่อนปรนการชำระเงินต้น เป็นระยะเวลารวมไม่เกิน 12 เดือน
- ลดจำนวนเงินผ่อนชำระ เป็นระยะเวลารวมไม่เกิน 12 เดือน
- ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ เป็นระยะเวลารวมไม่เกิน 12 เดือน
- การขยายอายุสัญญาสำหรับวงเงินที่ค้ำประกันโดย บสย. ภายในกรอบอายุของ บสย. โครงการนั้นๆ
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติ พร้อมทั้ง ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมพิธีการสินเชื่อ
- การขยายวันครบกำหนดชำระ ขยายได้ครั้งละไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันครบกำหนดชำระเดิม ไม่เกินอายุเดิมของธุรกรรม
- การปรับวงเงินจากระยะสั้นเป็นสินเชื่อระยะยาว ไม่เกิน 12 เดือน
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติ พร้อมทั้ง ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมพิธีการสินเชื่อ
สิ้นสุดระยะเวลาของโครงการ : ธันวาคม 2564
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้ และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563
สินเชื่อบัตรเครดิตยูโอบี
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำให้กับลูกค้าทุกท่าน จากเดิม 10% โดยอัตโนมัติให้เป็น 5% จนถึงสิ้นปี 2564 เป็น 8% ในปี 2565 และเป็น 10% ในปี 2566 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป ลูกค้าบัตรเครดิตไม่ต้องแจ้งความจำนงมาที่ธนาคาร
สินเชื่อบัตรเครดิตยูโอบีแคชพลัส
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 2.5% โดยอัตโนมัติ จนถึงสิ้นปี 2565 และเป็น 5% ในปี 2566 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป ลูกค้าบัตรเครดิตไม่ต้องแจ้งความจำนงมาที่ธนาคาร
สินเชื่อบ้าน
- ลูกค้าสิ้นเชื่อบ้านขอลดค่างวดผ่อนชำระ สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
- ขยายระยะเวลากู้
สินเชื่อธุรกิจลูกค้าเอสเอ็มอี
- ปรับลดจำนวนผ่อนชำระค่างวด และขยายระยะเวลาออกไปสูงสุด 12 เดือน หรือพักชำระหนี้เงินต้น (Grace Period) สูงสุด 12 เดือน
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563
สินเชื่อบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำให้กับลูกค้าจากเดิม 10% เป็น 5% หรือ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน ให้ลูกค้าทุกรายโดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มกราคม 2563 และลูกหนี้ค้างชำระ (NPL) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562
ลูกหนี้รายย่อย
- สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ธนชาต DRIVE : พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 96 งวด เมื่อครบกำหนดพักชำระหนี้
- สินเชื่อเล่มแลกเงิน : พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 60 วัน
- สินเชื่อบ้านธนชาต : พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
- สินเชื่อบุคคลธาต : พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
ลูกหนี้ธุรกิจ
- สินเชื่อ SMEs รายย่อย
- Term Loan : พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน
- O/D : ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.5% จากสัญญาเดิม ระยะเวลา 3 เดือน (ยกเว้น O/D ที่มีเงินฝากเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน)
- สินเชื่อลูกค้ารายใหญ่
- Term Loan : พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน หรือขยายระยะเวลาเงินกู้สูงสุด 6 เดือน
- Short term loan (Working Capital & Trade Finance) : ขยายระยะเวลาชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563
สินเชื่อบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระบตรเครดิตทีเอ็มบี จาก 10% เป็น 5% บัตรกดเงินสด Ready Cash จาก 5% เป็น 3% ให้ลูกค้าทุกราย โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มกราคม 2563 และลูกหนี้ค้างชำระ (NPL) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562
ลูกหนี้รายย่อย
- สินเชื่อบ้าน : พักชำระหนี้ (เงินต้นและดอกเบี้ย) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือนและเมื่อครบกำหนดให้กลับมาชำระหนี้ตามปกติ
- สินเชื่อส่วนบุคคล : พักชำระหนี้ (เงินต้นและดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม (ถ้ามี)) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือนและเมื่อครบกำหนดให้กลับมาชำระหนี้ตามปกติ / ขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้เพิ่มขึ้นอีก 3 เดือน หรือจนกว่าจะชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) ครบถ้วน
ลูกหนี้ธุรกิจ
- พักชำระหนี้เงินต้นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน และขยายเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 6 เดือน
- วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (O/D) ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.5% จากสัญญาสินเชื่อปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
มาตรการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิต และสินเชื่อบัตรเงินสด
- ไม่เป็นหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน
- บัตรเครดิต ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ ลดเหลือ 5%
- สินเชื่อบัตรเงินสด ลดเหลือ 3% (ระยะเวลา 1 มีนาคม – 31 ธันวาคม 2563)
- โครงการ Refinance ลูกหนี้ดี สินเชื่อบัตรเครดิต โดยรวมหนี้ตั้งแต่ 1 สถาบันการเงินขึ้นไป ให้มารวมหนี้ไว้ที่ธนาคารออมสิน โดยลูกค้าต้องมีประวัติการชำระหนี้ดีย้อนหลัง 12 เดือน และไม่มีประวัติการผ่อนชำระล่าช้ามากกว่า 30 วัน โดยมีอัตราดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ย 8.5% – 10.5% ต่อปี วงเงินสูงสุด 100,000 บาท ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 4 ปี (ระยะเวลาโครงการ 1 มีนาคม – 30 มิถุนายน 2563)
- ลูกค้าที่ค้างชำระ เปลี่ยนหนี้บัตรเครดิต และบัตรเงินสดเป็นเงินกู้ที่มีระยะเวลาผ่อนชำระ และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 8.5% – 10.5% ระยะเวลาผ่อน 4 ปี (ระยะเวลาลงทะเบียน 16 มีนาคม 2563 – 30 มิถุนายน 2563)
มาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย/ สินเชื่อบุคคล/ สินเชื่อ SMEs/ สินเชื่อธุรกิจ
- พักเงินต้น 2 ปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน 50% – 100%
- ขยายระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี และ Cash back 20 % ให้แก่ลูกหนี้ที่ชำระดอกเบี้ย 100% เมื่อชำระหนี้ได้ตามสัญญาทุก 6 เดือน เป็นเวลา 1 ปี
ทั้งนี้ เมื่อคืนเงิน (Cash back) แล้วดอกเบี้ยที่ธนาคารได้รับชำระ ต้องไม่ต่ำกว่า 4% ต่อปี (ระยะเวลาลงทะเบียน 16 มีนาคม 2563 – 30 มิถุนายน 2563) - ให้ลูกค้าเดิมกู้วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน ดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ต่อเดือน (Flat rate) ปลอดชำระ 6 เดือน ชำระคืนเงินกู้ ไม่เกิน 5 ปี (ระยะเวลา 16 มีนาคม 2563 – 31 ตุลาคม 2563)
มาตรการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19)
- วงเงินสูงสุด 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุด 3 ปี โดยเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาผ่อนชำระคืนแล้วต้องไม่เกิน 65 ปี ใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์เป็นหลักประกัน
มาตรการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มี อาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19)
- วงเงินสูงสุด 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.10% ต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุด 2 ปี ปลอดชำระเงินงวด 6 งวดแรก โดยเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาผ่อนชำระคืนแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี ไม่ต้องใช้หลักประกัน
โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
- วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี (คงที่ 2 ปี) ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุดไม่เกิน 10 ปี สามารถใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มาร่วมค้ำประกันได้
ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ
มาตรการที่ 1 : สำหรับลูกค้าของธนาคารที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สถานะบัญชีปกติ ไม่อยู่ในสถานะกฎหมาย
- พักชำระเงินต้นระยะเวลา 3 เดือน โดยจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน
- ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563
มาตรการที่ 2 : สำหรับลูกค้าของธนาคารทั้งที่มีสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL
- พักชำระเงินต้นระยะเวลา 1 ปี โดยจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน
- เมื่อครบกำหนดระยะเวลาพักชำระเงินต้นแล้ว สามารถขอขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเพิ่มได้อีก สูงสุดไม่เกิน 10 ปี
- ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 เมษายน 2563
มาตรการที่ 3 : สำหรับลูกค้าของธนาคารทั้งที่มีสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL
- พักชำระเงินต้นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน
- ลูกค้าต้องนำส่งหลักฐานที่สะท้อนให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบให้รายได้ลดลง
- ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 เมษายน 2563
มาตรการที่ 4 : สำหรับลูกหนี้ NPL หรืออยู่ในสถานะกฎหมาย
- ลดดอกเบี้ยเหลือ 3.9% ต่อปี จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย 6 เดือน
- ลูกค้าที่ขอใช้มาตรการนี้ ต้องเคยชำระเงินงวดอย่างน้อย 1 งวด ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
- เมื่อสมัครใช้มาตรการและชำระเงินงวดล่าสุดแล้ว ธนาคารจะอนุมัติให้เข้ามาตรการในวันถัดไปและแจ้งเงินงวดใหม่ที่ต้องชำระใน 6 เดือนถัดไปให้ทราบ
- ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 เมษายน 2563
มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย (สงครามการค้า ภัยแล้ง และจาก COVID-19)
- กรณีอยู่ระหว่างใช้อัตราดอกเบี้ยตามโปรโมชั่น ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน ยื่นคำขอภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563
- กรณีพ้นระยะการใช้อัตราดอกเบี้ยตามโปรโมชั่น ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน แบ่งเป็น
- กลุ่มลูกค้ารายย่อย/สวัสดิการ ใช้อัตราดอกเบี้ย MRR-1.25% ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
- กลุ่มลูกค้าแฟลต ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR-1.25% ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
- ยื่นคำขอภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563
ผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน โดยลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1.00% ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน ยื่นคำขอภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย
สนใจเริ่มต้นขายของออนไลน์ โดยให้ Priceza เป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษา? สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อให้เราทราบว่าคุณต้องการให้เราช่วยในด้านไหนได้เลยค่ะ