
สำหรับภาพรวมตลาดค้าปลีกในปี 2024 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของการบริโภคภาคเอกชน อีกทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่เริ่มด่าเนินการในปี 2024 (เช่น Easy E-Receipt)
รวมถึง Digital Wallet ที่คาดว่าจะมีในปีนี้ ในระยะกลาง คาดว่าตลาดยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยภายในประเทศ เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่า และปัจจัยจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศมากขึ้น โดยข้อมูลนี้ คุณชญานิศ สมสุข นักวิเคราะห์, ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ได้เปิดเผยและเป็นวิทยากรในงาน “Priceza Thailand E-Commerce Trends 2024” สำหรับดัชนี้มูลค่าค้าปลีกไทยเมื่อนำมาเปรียบเทียบระหว่าง Store-base Retailing และ Non-store Retailing พบว่า ช่องทาง Non-Store ที่รวมธุรกิจ E-Commerce และเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในกลุ่มนี้ ยังคงเติบโต จากการที่ผู้ประกอบการปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และ คาดว่าสัดส่วนยอดขายจาก E-Commerce ในตลาดค้าปลีกจะอยู่ที่ราว 22% ใน ปี 2024 ความท้าทายของผู้ประกอบการค้าปลีกในปีนี้ นั่นก็คือราคาสินค้ายังอยู่ในระดับสูง ฉุดรั้งกำลังซื้อของผู้บริโภค และความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐในการกระตุ้นเศรฐกิจ
หัวข้อแนะนำที่น่าสนใจ เลือกอ่านได้เลย
ปีนี้ค้าปลีกเติบโตต่อเนื่อง
คาดว่าจะมีมูลค่าการเติบโตราว 12%
โดยเฉพาะ E-Commerce
ที่มีสัดส่วน Non-Store มากที่สุด
ปัจจัยเรื่องราคา และความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐ
ตัวแปรความท้าทายของผู้ประกอบการปี 2024
แม้ว่าธุรกิจค้าส่งค้าปลีกมีโอกาสเพิ่มยอดขายต่อเนื่องจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่กล่าวมาข้างต้น แต่ก็ยังต้องระวังในเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอจากราคาสินค้าและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงอยู่ที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของตลาด (Downside Risks) รวม
“ปัจจัยการเติบโตธุรกิจค้าปลีกการแข่งขันที่รุนแรงใน Segment เดียวกัน
และการเพิ่มอัตราค่าจ้างทำให้กระทบต้นทุนการผลิต คือความท้าทายของผู้ประกอบการปี 2024″
ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซปี 2024
ทิศทางปรับแผนธุรกิจ Omni-Channel
และ Social Commerce รับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล
มูลค่าตลาด E-Commerce เติบโตต่อเนื่องจากแรงส่งจากช่วงโควิด คาดว่าในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว และเมื่อเรานำสัดส่วนมูลค่า E-Commerce ต่อมูลค่าตลาดค้าปลีกในปีนี้อยู่ที่ 21.5% เราจะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ตั้งแต่ปี 2019 คาดการณ์ว่าในปี 2027 จะมีสัดส่วนมูลค่าที่เติบโตขึ้น 23.4% ในส่วนของช่องทางส่วนแบ่งตลาดแม้ E-Marketplate ยังครองส่วนแบ่งช่องทางที่มีมูลค่ามากที่สุดแต่จะเห็นว่าค่อยๆลดลง เพราะช่องทางอื่นๆเข้ามามีบทบาทสูงขึ้นโดยเฉพาะช่องทาง Omni-Channel ที่น่าจับตาในปีนี้ อีกหนึ่งช่องทางที่มาแรงไม่แพ้กันคือ Social Commerce ที่เข้ามามีบทบาทกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซมากขึ้นที่ผสมผสานระหว่าง E-Marketplate และ Social Commerce ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น จะเห็นได้จากสัดส่วนมูลค่า Social Commerce ต่อมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซคิดเป็นสัดส่วน 11.5% และคาดการณ์จะเพิ่มเป็น 15.1% ต่อสัดส่วนมูลค่า E-Commerce ทั้งหมด
“สัดส่วนมูลค่าตลาด E-Commerce ต่อมูลค่าค่าปลีกโต 21.5%
ธุรกิจปรับแผน Omni-Channel และ Social Commerce รับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล”
ทิศทางและแนวโน้มพฤติกรรมของนักช้อปไทยในปี 2024
ผลสำรวจจาก SCB EIC Consumer Survey ช่องทางที่นักช้อปไทยเลือกใช้ในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ช่องทางใดมากที่สุด พบว่าทุกเจนเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทาง E-Marketplace มากที่สุด ในสัดส่วน 54% หากแบ่งตาม Genneration ออกมาจะเห็นได้ว่า Gen Z นิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน Social Commerce อยู่ที่ 43.8% พอๆกับที่เลือกซื้อบน E-Marketplace อยู่ที่ 40.6% ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“E-Marketplace ยังคงครองใจนักช้อปทุกวัย
ในขณะที่นักช้อปรุ่นใหม่นิยมช้อป ผ่าน Social Commerce มากขึ้นเรื่อยๆ”
ปัจจัยและเหตุผลในการเลือกซื้อสินค้าของนักช้อปไทยที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ
จากผลสำรวจปัจจัยที่มีผลต่อการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุด พบว่าปัจจัยด้านราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากที่สุด นักช้อปไทยจะพิจารณาว่าสินค้าที่จะซื้อนั้นมีราคาถูกกว่าร้านค้าออนไลน์ร้านอื่นหรือไม่ และหากร้านนั้นมีโปรโมชั่นส่งสินค้าฟรี จะมีแนวโน้มให้พวกเขาจะซื้อสินค้าจำนวนชิ้นเพิ่มขึ้น สำหรับภาพรวมของช่องทางการชำระเงิน อันดับ 1 ที่ผู้บริโภคไทยเลือกจ่ายนั่นก็คือบัตรเครดิต อยู่ที่ 47% และการโอนเงินไม่ว่าจะผ่านบัญชีธนาคารของร้าน, Promtpay หรือ QR Code ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 คือ 23% และการชำระเงินปลายทางเป็นอันดับที่ 3 อยู่ที่ 21% หากแบ่งตามเจนแล้วจะพบว่าตัวเลือกการชำระเงินโดยใช้บัตรเครดิตจะได้รับความนิยมจากวัยทำงานนั่นคือ Gen Y เป็นหลักด้วยสัดส่วน 53.3% ในขณะที่วัยรุ่นหรือชาว Gen Z ใช้การโอนเงินมากที่สุด 50.0% ในส่วนของกลุ่มผู้สูงวัยแน่นอนว่า COD หรือการชำระเงินปลายทางเป็นที่นิยมสูงที่สุดของผู้บริโภคกลุ่มนี้ หากผู้ประกอบการมีลูกค้ากลุ่มวัยทำงานขึ้นไปนั้นสามารถทำโปรโมชั่น หรือสิทธิพิเศษต่างๆร่วมกับธนาคารได้เพื่อสนับสนุนการขายได้มากขึ้น
“นักช้อปเลือกซื้อสินค้ากับร้านที่ราคาถูกว่า หากมีจัดส่งฟรี จะช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าเพิ่ม”
ความท้าทายที่ผู้ประกอบการอาจเผชิญ และวิธีการรับมือในภาคธุรกิจในปี 2024
1. การแข่งขันที่มากขึ้น
ผู้ประกอบการต่างเข้าสู่ตลาด E-commerce ทําให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง ผู้ประกอบการ จึงต้องอาศัยกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถอยู่รอดในภาวะแข่งขันสูง
แนะผู้ประกอบการ : ศึกษากลยุทธ์ของผู้เล่นในตลาดเพื่อ set position ตัวเอง
2. ความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงขึ้น
ทางเลือกที่มากขึ้น ทําให้ความคาดหวังมากขึ้น เช่น ค่าแนะนําเฉพาะบุคคล การจัดส่งที่รวดเร็ว ตัวเลือก การทําระเงิน หากผู้ประกอบการไม่สามารถ ตอบสนองความต้องการได้ ลูกค้าอาจเลือกชื่อ สินค้าจากที่อื่นได้
แนะผู้ประกอบการ : ปรับปรุง user experience, customer service, loyalty program, ใช้ data analytics
3. การมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่น้อยเกินไป
การให้ข้อมูลและการให้ลูกค้ามีส่วนร่วมจะต้องมี ความพอดี ถ้ามากเกินไปลูกค้าจะอึดอัด รวมไปถึง การให้ลูกค้ามีส่วนร่วม หากน้อยเกินไป ก็จะไม่ได้ ข้อมูล แต่หากมากเกินไปจะทําให้ลูกค้ารู้สึกถูกโจมตี
แนะผู้ประกอบการ : Segment กลุ่มลูกค้าที่มีลักษณะคล้าย ๆ กัน สร้างข้อความและค่าแนะน่าที่ปรับให้เหมาะสมกับ แต่ละกลุ่ม รวมถึงท่าแคมเปญการตลาดผ่าน อีเมลหรือการแจ้งเตือนพ่านแอปพลิเคชัน
4. Low Conversion Rates
การโน้มน้าวให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าที่ร้านค้า ท่ามกลางร้านค้ามากมายในโลกออนไลน์เป็น เรื่องที่ท้าทาย ดังนั้น การทําให้ผู้บริโภครู้สึก เหมือนได้รับข้อเสนอที่พิเศษเป็นสิ่งที่ร้านค้าควร ให้ความใส่ใจ
แนะผู้ประกอบการ : friendly-checkout รวมถึงข้อเสนอพิเศษ นอกเหนือจากการจัดส่งฟรี
5. Cart Abandonment
จากพลสํารวจของ FinancesOnline พบว่า 59.2-79.8% ของนักช้อปละทิ้งตะกร้า สินค้าออนไลน์ ซึ่งสาเหตุอาจมากจาก ค่าจัดส่งที่สูง กระบวนการทําระเงินที่ซับซ้อน หรืออาจจะขาดความไว้วางใจในการร้านค้า
แนะผู้ประกอบการ : ลดขั้นตอนในการชำระเงิน รวมไปถึงการทําแคมเปญที่ชื่อสัตย์
6.ขั้นตอนการ Return และ Refund ที่ยุ่งยาก
หากการคืนสินค้าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำาหรับลูกค้า แนวโน้มการกลับมาซื้อสินค้าก็จะลดลง ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องรับมือกับขั้นตอนนี้ อย่างชาญฉลาด
แนะผู้ประกอบการ : ทําหนดนโยบายที่ชัดเจน ตอบกลับลูกค้าในทันที รวมไปถึงการให้ส่วนลด/loyalty program เพื่อยังคงความน่าเชื่อถือของร้านค้า
เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนท่านสามารถดาวน์โหลด Slide ชุดนี้เก็บไว้ใช้อ้างอิง
โดยสแกน QR Code หรือคลิกที่รูป