Apple iPhone 11 Pro 512GB ไอโฟน 11 โปร

หลังจากที่ Apple เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดอย่าง iPhone 12 Series เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ราคา iPhone รุ่นเก่าหลายรุ่นปรับลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะ iPhone 11 Pro ราคา เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 35,900 บาท ลดลงมาเหลือ 30,900 บาท บาท แถมโอเปอเรเตอร์หลายค่ายยังมีโปรโมชันลดแลกแจกแถมกันเป็นว่าเล่น จนหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า iPhone 11 Pro ยังมีดีพอหลังจาก iPhone 12 Pro เปิดตัวหรือไม่ วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน 

เริ่มจากเราลองเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง iPhone 11 Pro กับ iPhone 12 Pro กันก่อน โดยความแตกต่างที่บ่งบอกความเป็นรุ่นเก่าและรุ่นใหม่คือ iPhone 12 Pro มาพร้อมกับการรองรับ 5G, การชาร์จไร้สาย MagSafe, กระจกหน้าจอ Ceramic Shield ที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดของ Apple เป็นต้น ส่วนสิ่งที่ทั้งสองรุ่นมีใกล้เคียงกันจนพอจะนำมาเปรียบเทียบกันได้มีค่อนข้างเยอะ เริ่มตั้งแต่ iPhone 11 Pro ใช้จอแสดงผลแบบ OLED (Super Retina XDR) ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซล ซึ่งใกล้เคียงกับของ iPhone 12 Pro ที่ใช้จอแสดงผลแบบเดียวกันเพียงแค่เพิ่มขนาดเป็น 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล ส่วนชิปประมวลผลแม้ว่า iPhone 12 Pro จะมาพร้อมชิปรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง A14 Bionic ที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร ซึ่งแรงกว่าชิปเซ็ต A13 Bionic ที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตรของ iPhone 11 Pro พอสมควร แต่ในมุมของการใช้งานทั่วไปแล้ว แทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเท่าไหร่นักเพราะขุมพลัง A13 Bionic ก็เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างไม่ติดขัดแล้ว รวมถึงเลนส์กล้องหลังที่ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์ไวด์, อัลตราไวด์ และเทเลโฟโต้ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากัน รวมถึงกล้องหน้าของทั้งสองรุ่นที่ใช้กล้อง TrueDepth เป็น FaceID สำหรับปลดล็อกเครื่องเช่นเดียวกัน แม้ว่าในส่วนกล้องหลังของ iPhone 12 Pro จะมาพร้อม LiDAR Scanner สุดล้ำที่ไม่มีอยู่ใน iPhone 11 Pro แต่สำหรับการถ่ายภาพทั่วไปที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพกล้องรุ่นล่าสุดแล้ว กล้องของ iPhone 11 Pro ก็ถือว่าเหลือเฟือ

เรียกได้ว่าเมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างโดยรวมของ iPhone 11 Pro และ iPhone 12 Pro แล้ว จะเห็นได้ว่า iPhone 12 Pro มีหลายจุดที่อัปเกรดขึ้นจากรุ่นเก่า ซึ่งหากมองในมุมสาวก iPhone แล้ว การได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของแบรนด์ที่ตัวเองหลงใหลก็ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ใส่ใจกับคำว่าใหม่ล่าสุด หรือไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่อยู่ใน iPhone 12 Series ขนาดนั้น iPhone 11 ก็ยังถือเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ หากดูจาก ราคาไอโฟนล่าสุด แล้ว เราจะเห็นว่า iPhone 11 Pro ราคา เริ่มต้นลดลงมาอยู่ที่ 30,900 บาท (128GB) ส่วน iPhone 12 Pro ราคาตามที่ประกาศล่าสุดอยู่ที่ 36,900 (128GB) ซึ่งมีส่วนต่างถึง 6,000 บาท การเลือกซื้อ iPhone 11 Pro ราคา ถูกกว่าแต่ยังทันสมัยอยู่ก็ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อยเหมือนกัน

สำหรับ iphone รุ่นล่าสุด จาก Apple ที่ทุกคนต้องรู้จักจะเป็นรุ่นไหนไปไม่ได้นอกจากเจเนอเรชันที่ 11 โดยหลายคนสงสัยว่าสรุปแล้วรุ่นไหนน่าใช้กว่ากัน โดยวันนี้เรามีจุดเด่นของ iphone 11 pro ที่มีมากกว่า iphone 11 มาให้คุณได้นำไปใช้ในการตัดสินใจก่อนสั่งซื้อของจริงมาใช้งาน เอาล่ะ ถ้าอยากรู้ว่ารุ่นนี้มีดีอะไร เรามาดูกันเลยดีกว่า
 

• หน้าจอที่ชัดกว่า

มาเริ่มต้นกันด้วยจอภาพ Super Retina XDR ของเจเนอเรชัน 11 pro ที่เพิ่มความคมชัดแจ๋วได้มากกว่าเจเนอเรชัน 11 ที่เป็นจอภาพแบบ Liquid Retina HD แม้ว่าจะเป็นหน้าจอที่ไม่ต่างกันมากแต่เมื่อใช้งานจริงแล้ว คนใช้งานจะรู้ดีว่ารุ่นไหนได้ใจมากกว่ากัน แล้วแน่นอนว่าจะต้องเป็นหน้าจอแบบ Super Retina XDR ของเจเนอเรชัน 11 pro อยู่แล้ว
 

• การสัมผัสที่คล่องมือมากกว่า

ดีไซน์แบบกระจกผิวด้านและสแตนเลสสตีลคือจุดเด่นของเจเนอเรชัน 11 pro ที่ทาง Apple ได้คงเอาไว้โดยจาก iphone x เองก็ได้ใช้ผิววัสดุแบบเดียวกัน ซึ่งหากเทียบกับเจเนอเรชัน 11 นั้นจะเป็นดีไซน์แบบกระจกและอลูมิเนียม ซึ่งเป็นเนื้อสัมผัสที่ให้ความลื่นและมีผิวมันเงา
 

• กล้องจุใจกว่า

สำหรับกล้องถ่ายรูปของ iphone ก็เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของยี่ห้ออยู่แล้ว โดยเจเนอเรชัน 11 pro มีเลนส์กล้อง 3 ตัว แบบอัลตร้าไวด์, ไวด์ และเทเลโฟโต้ ส่วนเจเนอเรชัน 11 ให้เลนส์กล้องมาแค่ 2 ตัว ซึ่งทั้ง 2 เจเนอเรชันนี้มีความละเอียดกล้องเท่ากันคือ 12MP ที่มาพร้อมกับโหมดกลางคืนให้เจ้าของเครื่องถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้สวยขึ้น
 

• แบตเตอรี่อึดกว่า

หมดห่วงเรื่องการชาร์จแบตบ่อย ๆ ของสาวก iphone ที่ชอบมีเสียงบ่นกันออกมาบ่อย ๆ เพราะเจเนอเรชัน 11 pro ใช้งานได้นานกว่า iPhone XS สูงสุด 4 ชั่วโมง แต่สำหรับ เจเนอเรชัน 11 ใช้งานได้นานกว่า iPhone XR สูงสุดแค่ 1 ชั่วโมง เท่านั้น ทำให้เจเนอเรชัน 11 pro ชนะ เจเนอเรชัน 11 ธรรมดาได้แบบขาดลอยกันไปเลย
 

• ได้ใจสายแอดแวนเจอร์มากกว่า

สำหรับใครที่เป็นสายลุยเจอแดดเจอฝนแล้วชอบถ่ายรูปใต้น้ำแล้วเป็นสาวก iphone อาจชอบเจเนอเรชัน 11 pro มากกว่า เพราะสามารถทนน้ำถึงระดับความลึก 4 เมตร แต่สำหรับเจเนอเรชัน 11 สามารถทนน้ำได้ที่ความลึก 2 เมตร เท่านั้น แต่ระยะเวลาที่ทนน้ำได้ในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที เท่ากัน

เป็นยังไงกันบ้างกับจุดเด่นของ iphone 11 pro ที่เจ้าของเครื่องจะได้มากกว่า iphone 11 ธรรมดา ๆ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเข้ามาเป็นสาวก iphone ลองดูจุดเด่นของ iphone รุ่นนี้ในแต่ละข้อดูนะว่าเหมาะกับการใช้งานของคุณมากน้อยแค่ไหน แล้วคุณจะได้ iphone 11 รุ่นที่เข้ากับคุณได้เป็นอย่างดีแน่นอน