หน้าแรก ไลฟ์สไตล์ 5 เหตุผล คุมอาหารออกกำลังกายแล้ว แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลดสักที?

5 เหตุผล คุมอาหารออกกำลังกายแล้ว แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลดสักที?

3963
น้ำหนักนิ่ง

เรื่องที่ทำให้คนที่กำลัง ลดน้ำหนัก ท้อใจจนแทบจะเลิกลดไปเลยก็คือ ไม่ว่าจะพยายามควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหักโหมแค่ไหนน้ำหนักก็แทบไม่ลดลงเลย โดยสิ่งที่ทำให้เพื่อนๆ ที่พยายามคุมอาหารและออกกำลัง แต่ยังไม่ผอมสักที มันคืออะไรกันนะ สำหรับใครที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้อยู่ ลองมาดูคำตอบกันเลย

5 เหตุผล คุมอาหารออกกำลังกายแล้ว แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลดสักที?

1. ลดน้ำหนัก โดยการอดอาหารมากเกินไป

การอดอาหารเพื่อต้องการให้น้ำหนักลดลง โดยงดมื้อใดมื้อหนึ่งของวันหรือหลายมื้ออาจจะทำให้น้ำหนักลดลงเร็วในช่วงวันแรก ๆ แต่ในระยะยาวแล้วน้ำหนักจะไม่ลดลงอีกหรือลดได้ช้ามาก เพราะเมื่อร่างกายได้รับอาหารน้อย จะเกิดปฏิกิริยาอัตโนมัติของร่างกาย ที่สั่งให้เผาผลาญพลังงานให้น้อยที่สุด เพื่อกักตุนไว้ยามจำเป็นเหมือนร่างกายเข้าสู่ภาวะสงคราม ทำให้ร่างกายเผาผลาญน้อยน้ำหนักจึงไม่ลดแถมยังทรมานและเสี่ยงต่อโรคกระเพาะ เป็นลมเพราะหมดแรง หรือหงุดหงิดง่าย รวมทั้งยังกลายเป็นโรคขาดสารอาหารด้วย

2. ลดสัดส่วนอาหารไม่ถูก

การเลือกรับประทานอาหารในช่วงลดน้ำหนักและออกกำลังกายอย่างหนัก ไม่ใช่แค่การลดปริมาณแล้วจะเลือกรับประทานอะไรก็ได้ ประเภทอาหารที่รับประทานนั้นสำคัญพอ ๆ กับปริมาณอาหาร ในช่วงที่ร่างกายออกกำลังอย่างหนักสิ่งที่ร่างกายต้องการมากที่สุดคือโปรตีนเพื่อนำไปสร้างกล้ามเนื้อและให้พลังงาน คาร์โบไฮเดรตก็ยังมีความจำเป็น แม้จะอยู่ในสัดส่วนไม่มาก การลดสัดส่วนอาหารในช่วงลดน้ำหนัก จึงต้องลดอย่างสมดุลและคงสารอาหารที่ร่างกายต้องการไว้ด้วย

3. ออกกำลังกายน้อยเกินไป

คนจำนวนมากที่กำลังลดความอ้วนเลือกใช้เวลามาก ๆ ไปกับการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง บางคนออกกำลังครั้งละ 1 ชั่วโมง แต่น้ำหนักและสัดส่วนกลับไม่ลดลง เวลาในการออกกำลังกายไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าน้ำหนักจะลดหรือเราจะเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้มาก แต่การออกกำลังกายจะทำให้น้ำหนักลดได้ ต้องดูว่าเราออกกำลังกายน้อยเกินกว่าร่างกายของเราต้องการหรือไม่ ออกกำลังกายที่เพียงพอก็คือ ควรออกกำลังในแต่ละท่าทางหรือแต่ละประเภทให้เกิดขีดความสารมารถของตัวเองไปสักหน่อยหนึ่ง เช่นจากเคยวิ่ง 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง แล้วรู้สึกว่ายังไม่เหนื่อย ก็ให้ลองเพิ่มระยะทางและระยะเวลาวิ่ง เพื่อให้รู้สึกว่าเหนื่อยจริงๆ เป็นต้น เพราะนั่นหมายถึงเรากำลังเค้นพลังงานในส่วนที่ร่างกายกักตุนและหวงเอาว้มาใช้นั่นเอง

4. ออกกำลังกายผิดวิธี

วิธีออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วนและสัดส่วนไม่ใช่แค่การเข้ายิมแล้วจะออกกำลังด้วยเครื่องตัวไหนก่อนหรือหลังก็ได้ แม้แต่การทำกิจกรรมออกกำลังแบบชอบเท่านั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูก แต่การออกกำลังเพื่อลดน้ำหนักนั้น มีวิธีการที่ถูกต้องอยู่ คือ เมื่อเข้ายิม สิ่งแรกที่ควรเล่นคือเวท เริ่มจากเบาไปหาหนัก หลังจากเล่นเวทแล้วจึงต่อด้วยคาดิโอ สองอย่างนี้ไม่ควรทำสลับกันเด็ดขาด เพราะแทบจะเรียกว่าออกกำลังกายเสียเปล่าก็ว่าได้ การเต้นตามคลาสต่างๆ อาจจะทำให้เกิดความสนุกและออกกำลังกายได้นาน แต่ถ้าท่าทางการเต้นไม่ช่วยเผาผลาญพลังงานมากพอ หรือเต้นไม่เต็มที่ก็เหมือนกับการออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรง แต่น้ำหนักจะลดลงได้ช้ากว่าการออกกำลังกายด้วยท่าทาง หรือประเภทที่ถูกต้องจริงๆ สำหรับการลดน้ำหนัก

5. พักผ่อนไม่เพียงพอ

หลายคนคิดว่าการอดนอนหรือนอนน้อยคงจะทำให้ผอมซูบและน้ำหนักลดลงเร็วขึ้น ในช่วงที่ลดความอ้วนจึงนอนน้อยไปด้วย ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจการนอนน้อยกลับเป็นผลเสียที่ทำให้น้ำหนักไม่ลดลงหรือลดยากกว่าที่ควรจะเป็น นั่นเป็นเพราะความลับของฮอร์โมนที่มีชื่อว่า เลปติน เจ้าเลปตินเป็นฮร์โมนที่มักจะหลั่งออกมาเมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้เกิดความหิวและเลปติน ก็เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากเซลล์ไขมัน เวลาที่เราตื่นขณะที่ร่างกายต้องการนอนหลับร่างกายจะคิดว่าเราต้องการพลังงานเพิ่มมากกว่าเดิม ทำให้เกิดความหิวและกินมากขึ้นด้วย การพักผ่อนเพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวันจะช่วยทำให้ระบบในร่างกายควบคุมความสมดุลของน้ำตาล และลดระดับของไขมันในร่างกายลงได้ การนอนเป็นเวลาและเพียงพอในระยะยาว จึงเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลกว่า

บทส่งท้าย

เมื่อทราบถึงสาเหตุของการพยายาม “ลดน้ำหนัก” แต่ไม่เป็นผลกันแบบนี้แล้ว เพื่อนๆ ก็คงจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือความเข้าใจเกี่ยวกับการลดน้ำหนักที่ผิดออกไปได้ เพราะเมื่อทำได้ถูกต้องตามหลักการแล้ว ไม่นานผลลัพธ์จากการพยายามก็จะสำเร็จอย่างแน่นอน

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ