หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า เคล็ดลับการเลือกซื้อ เครื่องอบผ้า มีวิธีใช้ยังไง? นานหรือไม่กว่าผ้าจะแห้ง?

เคล็ดลับการเลือกซื้อ เครื่องอบผ้า มีวิธีใช้ยังไง? นานหรือไม่กว่าผ้าจะแห้ง?

24785
เคล็ดลับการใช้เครื่องอบผ้า ต้องใช้ยังไง?

เครื่องสำหรับอบผ้า เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในการซักผ้า เพราะช่วยอบให้ผ้าแห้งได้โดยไม่ต้องใช้เวลาตากนาน และสามารถทำให้ผ้าแห้งได้แม้ไม่มีแดด เนื่องจากในการซักผ้านั้น เครื่องซักผ้าจะทำหน้าที่ให้แค่การปั่นหมาดและต้องนำเสื้อผ้าออกไปตากแดดต่อผ้าถึงจะแห้ง คนที่ไม่สะดวกการซักผ้าลักษณะนี้จึงมองหาตัวช่วยใหม่ที่ช่วยให้การซักผ้าเสร็จเร็วขึ้น ใครที่อยากรู้ว่าเครื่องอบใช้งานยังไง? เรามีคำตอบดีๆ พร้อมวิธีการใช้งาน และเคล็ดลับการอบผ้าให้แห้งเร็วมาฝากกัน

5 เคล็ดลับก่อนเลือกซื้อเครื่องอบผ้า

ปัจจุบันเครื่องอบผ้ามีหลายรุ่นและหลายยี่ห้อ มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เลือกใช้งานกันมากมาย วันนี้จึงมี 5 เคล็ดลับดีๆ ในการเลือกซื้อเครื่องอบผ้ามาฝากกัน โดยสามารถพิจารณาก่อนเลือกซื้อจากเรื่องต่างๆ ได้ดังนี้

1. ดูเรื่องพื้นที่ตั้งวางของเครื่องอบผ้า

พื้นที่ในการวางเครื่องอบผ้านั้น ให้เช็คก่อนว่าพื้นที่จะวางนั้น จะต้องมีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป และควรมีอากาศถ่ายเทที่ดี เพราะเครื่องอบผ้าอาจมีความร้อนในการทำงาน แต่ถ้าจะเลือกใช้เป็นเครื่องซักผ้าที่เป็นเครื่องอบผ้าในตัว จะช่วยประหยัดพื้นที่ตั้งวางได้ แต่เครื่องซักผ้าที่เป็นเครื่องอบผ้าในตัวอาจมีราคาแพงและใช้งานได้ไม่ดีเท่าเครื่องอบผ้าโดยตรง

2. ดูฟังก์ชั่นการทำงานของเครื่องอบผ้า

ปัจจุบันมีผู้ผลิตเครื่องอบผ้าขึ้นมามากมาย ทำให้เครื่องอบผ้ามีหลายรุ่น และแต่ละยี่ห้อก็มีฟังก์ชั่นในการใช้งานที่ต่างกันออกไป การจะเลือกซื้อนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ว่า ต้องการเครื่องอบผ้าแบบไหน เลือกให้เหมาะกับความต้องการมากที่สุด เพราะฟังก์ชั่นที่มีในเครื่องอบผ้านั้นมีทั้งโหมดถนอมเนื้อผ้า, เซ็นเซอร์ตรวจจับความชื้น, โหมดทำงานอย่างรวดเร็ว, ฟังก์ชั่นการทำงานตามประเภทของเนื้อผ้า เป็นต้น

3. ดูเรื่องระบบเซ็นเซอร์

เครื่องอบผ้าที่มีเซ็นเซอร์นั้นราคาก็จะแพงกว่าแบบธรรมดาพอสมควร การที่เราจะใช้งานนำผ้าเข้าไปอบในเครื่องแล้วผ้าจะแห้งดีไหม ระบบเซ็นเซอร์ที่ดีจะเป็นตัวช่วยคอยตรวจสอบว่าผ้าแห้งหรือยังและหยุดการทำงานอัตโนมัติซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลาแล้วก็ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ด้วย 

4. ดูงบประมาณ

เรื่องราคาของเครื่องอบผ้าก็สำคัญ การวางแผนตั้งงบประมาณเอาไว้เบื้องต้น จะช่วยให้เลือกซื้อเครื่องอบผ้าได้ตรงกับความต้องการมากขึ้น จากนั้นค่อยเปรียบเทียบรุ่นต่างๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกัน เพราะเครื่องอบผ้ามีหลาก หลายแบบ หลายราคา

5. รับประกันสินค้า

เรื่องสุดท้าย ให้ดูว่าเครื่องอบผ้าที่จะเลือกซื้อนั้น มีเงื่อนไขและระยะเวลาในการรับประกันสินค้าไหม ซึ่งถ้ามีการรับประกัน ก็จะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างอุ่นใจมากขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะอบผ้าแห้ง

เครื่องสำหรับอบผ้า สามารถอบผ้าได้หลายระดับ โดยเลือกได้เลยว่าต้องการอบในระดับไหน เช่น อบหมาดหรืออบแห้ง ซึ่งในการอบหมาดนั้นก็จะเลือกได้อีกว่าอบหมาดระดับไหน หมาดปานกลางหรือหมาดมาก ส่วนการอบแห้งหมายถึงการอบผ้าให้แห้งแบบพร้อมสวมใส่ คืออบเสร็จก็สามารถนำออกมาใส่ได้เลย ส่วนเวลาการอบผ้าให้แห้งนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของผ้าและอุณหภูมิ โดยทั่วไปแล้วการอบผ้าให้แห้งจะใช้เวลาประมาณ 40 นาทีสำหรับผ้าทั่วไปหรือผ้าที่มีเนื้อบาง เช่น ผ้าคอตตอน ผ้าสลาฟ ผ้าเรย่อน ผ้าไหมยุโรป ผ้าซาติน ฯลฯ ส่วนผ้าที่มีเนื้อหนาอย่างผ้ายีนส์ ผ้ามอสเครป ผ้าแคนวาส ผ้ากำมะหยี่ ฯลฯ ที่ใช้เวลานานในทำให้ผ้าแห้งโดยอยู่ที่ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง

 

เครื่องอบผ้า, เครื่องอบผ้าใช้ยังไง

 

การทำให้ผ้าแห้งเร็ว ควรเลือกผ้าชนิดเดียวกันอบพร้อมกัน เช่น เลือกผ้าที่มีเนื้อบางเหมือนกันอบพร้อมกันก่อน 1 รอบ เพื่อให้ผ้าแห้งพร้อมกันและใช้เวลาไม่นาน เพราะแค่ประมาณ 40 นาทีผ้าก็แห้งพร้อมใส่แล้ว และจึงค่อยนำผ้าเนื้อหนาลงไปอบพร้อมกันอีกรอบ หากต้องการอบผ้าเนื้อหนาแบบอบหมาด จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่หากเป็นผ้ายีนส์จะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง – 2 ชั่วโมง ในการอบให้แห้ง หากใครซักผ้ากลางวันแล้วสามารถนำไปตากแดดต่อได้แนะนำให้อบหมาดแล้วนำไปตากแดดต่อ แต่หากซักผ้ากลางคืนแนะนำให้อบแห้งสนิทไปเลย เพราะผ้าเนื้อหนาจะแห้งยากในเวลากลางคืนและมีโอกาสมีกลิ่นอับ

เทคนิคการอบผ้าให้แห้งเร็ว ไม่ยับ และน่าใส่ โดยเครื่องอบผ้า

เครื่องสำหรับอบผ้า สามารถอบผ้าให้แห้งและเรียบได้โดยไม่ต้องรีด เป็นข้อดีที่ทำให้หลายคนหันมาใช้ โดยมีเทคนิคในการอบผ้าที่น่าสนใจ ดังนี้

  • ใส่ผ้าชนิดเดียวกัน ควรแยกผ้าที่มีเนื้อเดียวกันอบด้วยกัน และไม่ควรนำเสื้อผ้าที่มีเครื่องประดับลงไปอบ เช่น เสื้อผ้าที่ประดับด้วยไข่มุก สร้อย ลูกปัด ฯลฯ เพราะอาจทำให้เครื่องประดับหลุดและไปเกี่ยวเนื้อผ้าของเสื้อผ้าตัวอื่นจนเกิดความเสียหายได้ หากเป็นเสื้อผ้าที่มีเครื่องประดับแนะนำให้ซักมือและไม่ควรนำเข้าอบเพื่อช่วยยืดอายุการใช้
  • ไม่ใส่ผ้าเยอะจนเกินไป ควรใส่ผ้าในปริมาณที่พอดี ไม่อัดผ้าแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้ผ้าแห้งไม่ทั่วถึงและจะทำให้ผ้ายับเนื่องจากไม่มีพื้นที่ในการเหวี่ยง ควรใส่ผ้า 10 – 15 ชิ้นต่อการอบหนึ่งครั้ง หากเป็นผ้าชิ้นใหญ่หรือมีเนื้อผ้าหนาไม่ควรเกิน 10 ชิ้น หรือใส่ไม่เกินปริมาณที่ตัวเครื่องสามารถจุได้
  • อบให้แห้งพอดี ไม่หมาด หากต้องการให้ผ้าเรียบโดยไม่ต้องรีดควรอบให้แห้งพอดีแบบไม่หมาด เพราะไอร้อนจะช่วยให้ผ้าเรียบได้โดยที่ไม่ต้องนำมารีดอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าแต่ละชนิดด้วย
  • ใช้ตู้อบแบบแขวน การใช้ตู้อบแบบแขวนจะช่วยให้ผ้าเรียบได้มากกว่าการอบแบบเครื่อง เพราะเสื้อผ้าถูกแขวนไว้อย่างระเรียบ ไม่ทับกัน เมื่อถูกไอร้อนจึงมีโอกาสที่จะเรียบสูง
  • สบัดและแขวนในที่โล่งหลังอบเสร็จ หลังอบเสร็จแล้วควรนำออกมาสบัดและนำใส่ไม้แขวนไว้ เพื่อให้เนื้อผ้าทิ้งตัวและมีอากาศถ่ายเทก่อนจึงนำเข้าตู้เสื้อผ้า วิธีนี้จะช่วยให้ผ้าไม่ยับและคงกลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ได้นาน ไม่ควรนำผ้าที่อบแห้งแล้วใส่รวมกันไว้ในตะกร้า เพราะจะทำให้ผ้ายับและอาจทำให้ผ้าบางตัวที่ยังไม่แห้งสนิทส่งกลิ่นอับได้

บทส่งท้าย

เครื่องสำหรับอบผ้า ใช้เวลาไม่นานในการอบผ้าให้แห้งหากมีการอบอย่างถูกวิธี หากใครสนใจอยากลองใช้งานก็อย่าลืมเลือกให้ตรงกับการใช้งาน และควรเลือกเครื่องที่มีระบบตัดความร้อนอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะนอกจากจะช่วยให้ผ้าไม่ไหม้แล้วยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ด้วย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง