
ปัญหาค่าไฟพุ่งกระฉูดได้กลายเป็นปัญหาระดับชาติอีกครั้ง หลังจากที่บิลค่าไฟเดือนเมษายนถูกส่งมาถึงบ้าน ซึ่งพบว่าค่าไฟแพงขึ้นกว่าปกติเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับหลาย ๆ เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงเพิ่มมาขนาดนี้ ทั้งๆที่ ใช้งานเท่าเดิม
โดยล่าสุด จากคำเรียกร้องของประชาชนให้ช่วยเหลือภาระค่าไฟ จึงได้มีการประชุมหารือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง1 อาทิ กระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าส่วนนครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เกิดเป็นมติส่วนลดค่าไฟสูงสุด 50% และขยายขอบเขตการใช้ไฟฟรีเมื่อตรงตามเงื่อนไข ซึ่ง ได้รับการอนุมัติ และมีผลทันที
มติใหม่ลดภาระค่าไฟ ใช้ฟรี และลดสูงสุด 50%
โดยเนื้อหาใจความของมติช่วยลดภาระค่าไฟนี้ใหม่นี้ได้แบ่งเงื่อนไขออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ ผู้ใช้ไฟไม่เกิน 150 หน่วย , ผู้ใช้ไฟไม่เกินหรือมากกว่า 800 หน่วย และ ผู้ใช้ไฟเกิน 3,000 หน่วย
ผู้ใช้ไฟไม่เกิน 150 หน่วย ใช้ฟรี
ต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าแบบบ้านอยู่อาศัย ที่มีขนาดมิเตอร์ 5 แอมป์ จะสามารถใช้ไฟได้ฟรีในรอบบิล มี.ค.-พ.ค.นี้ เมื่อใช้งานไม่เกิน 150 หน่วย (ขยายจากเดิมคือ 90 หน่วย)
ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 800 หน่วย จ่ายเท่าเดือน ก.พ. ถ้าเกิน 800 หน่วยรับส่วนลดส่วนเกิน 50%
ต้องเป็นผู้ใช้แบบบ้านอยู่อาศัยที่มีขนาดมิเตอร์มากกว่า 5 แอมป์ขึ้นไป และมีอัตราการใช้งานไฟในรอบบิลล่าสุดไม่เกิน 800 หน่วย จะได้รับสิทธิ์ให้จ่ายไฟได้เท่ากับหน่วยไฟของเดือนกุมภาพันธ์ แต่หากมีการใช้ไฟเกิน 800 หน่วย จะได้รับส่วนลดปริมาณไฟที่ใช้เกินได้ 50%
ตัวอย่าง เดือน ก.พ. 2563 ใช้ไฟไป 250 หน่วย เดือนมี.ค.(รอบบิลล่าสุด)ใช้ไฟไป 750 หน่วย ส่วนต่าง 500 หน่วยเราไม่ต้องจ่าย เราจ่ายแค่ค่าไฟ 250 หน่วยตามฐานของเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น
ยกเว้น ถ้าเดือนนี้เราใช้ไฟเกิน 800 หน่วย หน่วยที่เกินจากฐานของเดือน ก.พ. จะได้รับส่วนลด 50% เช่น เดือนก.พ.ใช้ไฟไป 250 หน่วย เดือนมี.ค.ใช้ไฟไป 1,000 หน่วย เท่ากับว่าเรามีส่วนเกินไป 750 หน่วย ส่วนต่างนี้แหละจะได้ส่วนลด 50% หรือเท่ากับ 375 หน่วย และเมื่อรวมกับฐานเดิมของเดือนก.พ. สรุปแล้วรอบบิลล่าสุดเราจะจ่ายแค่เพียง 250(ฐานเดือนก.พ.) + 375 (ส่วนเกินลด50%) = 625 หน่วยเท่านั้น
ผู้ใช้ไฟฟ้าเกิน 3,000 หน่วย รับส่วนลดค่าไฟส่วนเกิน 30%
ผู้ใช้แบบบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟเกิน 3,000 หน่วย จะได้รับส่วนลดค่าไฟที่เกินมาจากเดือน ก.พ. 30%
ตัวอย่าง เดือนก.พ.2563 ใช้ไฟฟ้าไป 1,500 หน่วย และรอบบิลล่าสุดใช้ไฟไป 3,500 หน่วย เท่ามีส่วนเกิน 2,000 หน่วย ซึ่งจะได้ส่วนลด 30% หรือ ลดไป 600 หน่วย เหลือส่วนเกินอยู่ที่ 1,400 หน่วย สรุปในรอบบิลล่าสุดคุณจะต้องจ่าย 1,500 (ฐานเดือนก.พ.) + 1,400 (ส่วนเกินหักส่วนลด 30%) = 2,900 หน่วย
อย่างไรก็ตามทั้ง 3 มติให้ความช่วยเหลือนี้ จะเริ่มต้นตั้งแต่เดือน มีนาคม – พฤษภาคม 2563 โดยจะทยอยคืนเงินให้ด้วยการหักเงินจากรอบบิลถัดไป
ทำไมค่าไฟแพงผิดปกติ แม้จะใช้เท่าเดิม
ปกติหากเราใช้งานเท่าเดิม ค่าไฟก็ไม่น่าจะเพิ่มได้มากขนาดนี้ จริงมั้ย? แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไปอย่างเรื่องการคำณวนค่าไฟที่เป็นอัตราก้าวหน้า เรื่องความร้อน หรือพฤติกรรมทั้งหลายที่อาจเผลอทำโดยไม่รู้ตัว ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้ค่าไฟของคุณพุ่งทะลุเพดานได้ทั้งนั้น และในบทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจไปด้วยกัน
ค่าไฟพุ่งเพราะอากาศร้อน
อากาศร้อน ถือเป็นตัวการใหญ่ที่ทำให้ค่าไฟพุ่งปรี๊ดได้อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยเฉพาะกับบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าทำความเย็น เช่น เครื่องปรับอากาศ (แอร์) ที่ใช้หลักการปรับอุณหภูมิในห้องให้ลดลงคงที่ตามที่เราตั้งไว้ ยิ่งวันไหนอากาศร้อนทะลุปรอท แอร์จะยิ่งทำงานหนัก
เมื่อแอร์ทำงานหนักขึ้น ปริมาณไฟที่ใช้จึงสูงขึ้น แม้จะเปิดในระยะเวลาเท่าเดิมกับเดือนที่แล้วก็ตาม นอกจากนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านอย่างตู้เย็น ที่ต้องรักษาความเย็นให้คงที่เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ค่าไฟสูงได้เช่นเดียวกัน
เพราะเป็นค่าไฟแบบอัตราก้าวหน้า
ก่อนอื่นต้องอธิบายเกี่ยวกับ อัตราค่าไฟฟ้า ที่ใช้ในประเทศไทยก่อน ทั้งของการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะเป็นแบบก้าวหน้า อัตราค่าไฟแบบก้าวหน้า ที่จะคิดตามเพดานหน่วยที่ใช้งาน หมายความว่ายิ่งถ้าจำนวนหน่วยไฟมากขึ้นค่าไฟ บาทต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได โดยจะเริ่มต้นที่หน่วยละ 2.3488 บาท และสูงสุดที่หน่วยละ 4.4217 บาท
กรณีมีหน่วยการใช้งานเกิน 150 หน่วยก็จะถูกคิดในอัตราหน่วยละ 3.2484 บาทเป็นต้นไป ในการคิดค่าไฟแบบอัตราก้าวหน้านี้ถูกนำมาใช้นานแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งนำมาใช้ และยิ่งไปกว่านั้นในการคำณวนค่าไฟแต่ละครั้งยังต้อง บวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% เข้าไปด้วย ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่าค่าไฟเพิ่มขึ้น
หากเพื่อนๆ อยากคำณวนค่าไฟ สามารถลองคำณวนได้จาก ที่นี่
ค่าไฟพุ่งเพราะสิ่งที่คุณทำไม่รู้ตัว
ครัวดูดไฟฟ้า
ช่วงนี้ทำงานอยู่บ้าน Work From Home กันเยอะ หลายคนเริ่มผันตัวกลายเป็นเชฟทำอาหาร ทำขนมทานเอง ซึ่งถ้าบ้านคุณเป็นเตาแก๊สก็คงไม่ต้องใส่ใจส่วนนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าบ้านใครใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หม้อไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า บอกเลยว่าพวกนี้กินไฟหนักอยู่ และเป็นสาเหตุที่ค่าไฟกระฉูดได้อย่างไม่รู้ตัว อีกทั้งบรรดา หม้อสุกี้/ชาบู เตาหมูกระทะ หรือเตาอบขนมที่ใช้ทีเกินครึ่งชั่วโมง
อัตราการใช้ไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้า 2,000 วัตต์ มีค่าประมาณ 2 หน่วยต่อชั่วโมง หากใช้งานวันละ 1 ชั่วโมงทั้งเดือนจะมีค่าไฟประมาณ 60 หน่วย
เปิดตู้เย็นบ่อย / ใส่ของตู้เย็นเยอะเกินไป
อยู่บ้าน หิวบ่อย เปิดตู้เย็นทุกชั่วโมง หรือตุนของจนแน่นเกินไป สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนัก และกินไฟมากขึ้นได้
ค่าไฟแพงเพราะความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่
สำหรับสาเหตุข้อสุดท้ายเป็นอาจเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ดังที่กำลังเป็นประเด็นถกเถียงอยู่ใน Pantip และ Twitter เมื่อมีผู้ใช้ไฟฟ้ารายหนึ่งโพสต์รูปแสดงตัวเลขหน่วยไฟที่ใช้ที่มิเตอร์ไฟ กับตัวเลขหน่วยที่แจ้งไว้ในใบเสร็จค่าไฟฟ้าที่ไม่ตรงกัน
โดยเกิดจากการจดมิเตอร์ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ ทำให้ตัวเลขหน่วยไฟที่แจ้งในบิลค่าไฟฟ้าสูงกว่าตัวเลขหน่วยไฟที่ใช้จริงตรงหน้าเครื่องมิเตอร์ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าในรอบบิลนั้นเพิ่มสูงขึ้น ในเบื้องต้นใครที่สงสัยว่าค่าไฟเราเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ ก็ควรตรวจสอบหน่วยไฟที่มิเตอร์ กับตัวเลขบนใบเสร็จค่าไฟว่าใกล้เคียงกันหรือไม่ด้วยนะ
สรุป
ปัญหาค่าไฟแพงช่วงเดือนเมษายน เป็นปัญหาที่ถูกพูดถึงกันเกือบทุกปี แต่ปีนี้ดันมาพร้อมกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด เลยส่งผลให้คนเดือดร้อนมากขึ้นกว่าเดิม โดยมติช่วยลดภาระค่าไฟที่กำลังจะถูกเสนอเข้าครม.ครั้งนี้ หากได้รับการอนุมัติจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายนี้ถ้าคุณลองดูเหตุผลว่าไมค่าไฟแพงที่กล่าวไปทั้งหมดแล้ว และยังรู้สึกว่าค่าไฟมันยังแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น คุณสามารถแจ้งเรื่องไปยังการไฟฟ้าที่คุณใช้ การไฟฟ้านครหลวง โทร 1130 หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร 1129 เพื่อให้ประสานงานตรวจสอบเพิ่มได้
ที่มาข่าว 1 กรุงเทพธุรกิจ