วิธีดูว่า รองเท้า Vans เป็นของแท้หรือของปลอม 2022

หากเอ่ยชื่อ รองเท้า Vans เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ด้วยรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ รองเท้ามีสีสัน ลวดลาย และมีลูกเล่นแพรวพราวน่าสะสม ไปจนถึงคุณภาพสินค้าอันดีเยี่ยมทนทานแม้ใช้งานอย่างหนัก รองเท้า Vans จึงครองใจผู้หลงใหลสตรีทแฟชั่นทั่วโลกอยู่ไม่น้อย จนเกิดสินค้าเทียบแท้มากมายขายปะปนให้คนซื้อต้องหวั่นใจ เพราะนอกจากจะเสียเงินและเสียรู้แล้ว ยังต้องมาเสียความรู้สึกอีกด้วย ทว่าถึง Vans ของปลอมจะระบาดเกลื่อนกลาดเพียงใด แต่รองเท้าแบรนด์แท้ย่อมต้องมีจุดเทียบให้สังเกตถึงความแตกต่าง

ตามมาดูกันเลยดีกว่ารองเท้า Vans แท้มีจุดสังเกตตรงไหนกันบ้าง

บาร์โค้ด

จุดแรกที่คนเล่นรองเท้าควรดูคือ ป้ายบาร์โค้ดข้างกล่อง โดยป้ายที่ถูกต้องจะระบุรายละเอียดชัดเจนถึงชื่อรุ่น ตารางเทียบไซซ์ สีรองเท้า รหัสสินค้า ประเทศผู้ผลิต ซึ่งสามารถใช้แอปพลิเคชั่นสแกนบาร์โค้ดดูได้ หากปรากฏสินค้าที่ตรงกันเป็นอันมั่นใจได้ในขั้นต้นว่าสินค้ามีแนวโน้มเป็นของจริง

กล่อง

แม้กล่องรองเท้าแต่ละรุ่นอาจมีสีและรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้าง แต่กล่อง Vans ของแท้ฝากล่องจะมีลิ้นที่ยื่นจากด้านบนสำหรับเสียบในช่องรอยกรีดด้านข้างเพื่อความแน่นหนา และมีช่องสำหรับสอดนิ้วเพื่อให้เปิด – ปิดฝากล่องได้อย่างสะดวก รวมถึงมีสติ๊กเกอร์เล็กๆ พิมพ์รหัส QC pass และรหัสประเทศที่ผลิตแปะไว้ที่ฝากล่องด้านในด้วย

พลาสติกห่อรองเท้า

เมื่อเปิดกล่องออกมา สิ่งแรกที่ต้องพบคือ พลาสติกสีขาวพิมพ์โลโก้ Vans ที่ห่อมากับรองเท้าทุกครั้ง ที่สำคัญแผ่นพลาสติกห่อต้องเป็นสีขาวขุ่นจนเกือบทึบ และมีตัวหนังสือระบุว่าผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 100 % แตกต่างกับของปลอมที่ไม่มีพลาสติกมาให้ หากมีก็จะเป็นพลาสติกสีขาวใส สามารถมองทะลุได้ทันที

การเดินตะเข็บ

Vans ส่วนมากมักเดินตะเข็บคู่ขนานกันอย่างเรียบร้อย ไม่โย้เย้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหัวรองเท้าหรือด้านข้างรองเท้า และจะไม่มีการเดินเข็มทับรอยเดิมหรือเดินด้าย 2 เส้นใดๆ ทั้งสิ้น

ตำแหน่งโลโก้

โลโก้ที่ตัวรองเท้ามีทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ โลโก้ที่ป้ายด้านข้างรองเท้า โลโก้ที่ป้ายยางด้านหลังตรงขอบรองเท้า และโลโก้ที่ปั๊มตรงพื้นรองเท้าด้านใน หากจุดใดจุดหนึ่งหายไปจากนี้ฟันธงได้เลยว่าเป็น Vans ปลอมแน่นอน!

พื้นด้านในรองเท้า

Vans แท้พื้นรองเท้าด้านในจะถูกทากาวติดไว้อย่างแข็งแรง โลโก้ที่ปั๊มไว้ยังต้องคมชัด ไม่ซีด สามารถอ่านตัวอักษร R เล็กๆ ที่อยู่ในวงกลมเทรดมาร์คได้อย่างชัดเจน สวยคม ไม่เบลอ จุดสังเกตสำคัญคือ ตัว V ของโลโก้ที่พื้นรองเท้าทั้งสองข้างต้องหันไปทางซ้ายหรือทางหัวรองเท้าเสมอ ต่างจากของปลอมที่มักปั๊มกลับด้านและไม่คมชัด

พื้นด้านใต้รองเท้า

รองเท้าแวนส์แท้ จะมีพื้นด้านใต้รองเท้าที่มีสี่เหลี่ยมด้านขนานและมีรูปเพชรซ้อนกันอยู่ ให้สังเกตุว่าจะมีสี่เหลี่ยมด้านขนานข้างหนึ่ง ที่มีตัวอักษรรหัสประเทศ 3 ตัว และรหัสประเทศจะต้องประกอบด้วยตัวหนังสือ 3 ตัวที่สอดคล้องกันกับรหัสบนสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่ด้านในของกล่องด้วย

ลิ้นรองเท้า

เหมือนดังเช่นรองเท้าแบรนด์เนมทั่วไป Vans จะสกรีนรายละเอียดรองเท้าทั้งขนาดเทียบเป็นเซนติเมตรและประเทศที่ผลิตไว้ด้านในลิ้นรองเท้า ซึ่งลิ้นด้านในมักจะมีสีเดียวกับตัวรองเท้าหรือสีขาว

น้ำหนัก

Vans ของแท้จะมีน้ำหนักอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่เบาจนดูบอบบาง ตามแบบฉบับรองเท้าสำหรับเล่นสเก็ตบอร์ดนั่นเอง

ขอบรองเท้า

ขอบยางใน Vans ของแท้จะมีความยืดหยุ่นค่อนข้างดี สามารถงอพับส่วนหัวรองเท้าไปจรดท้ายรองเท้าได้โดยขอบยางไม่ปริออกจากเนื้อผ้า และแม้จะใช้ยางที่มีคุณภาพยืดหยุ่นสูง แต่ขอบยางกลับมีความอยู่ทรงและรับแรงกดได้ดี สามารถทดสอบโดยลองบีบขอบข้างซ้ายขวาเข้าหากัน Vans ของแท้จะมีความแข็ง กดแล้วทรงรองเท้าไม่ยวบเช่นของปลอม

พื้นยาง

พื้นยางของ Vans จะเป็นเหลืองอมน้ำตาลคล้ายยางรัด เนื้อยางมีความยืดหยุ่น เหนียว สามารถเกาะพื้นได้เป็นอย่างดี และต้องมีตัวอักษรเล็กๆ พิมพ์นูนจากดอกยางลายข้าวหลามตัด ซึ่งตรงกับรหัสที่ป้ายบาร์โค้ดและตรงกับสติ๊กเกอร์ QC Pass ด้านในฝากล่อง

ราคา

รองเท้าแวนส์แท้เกือบทุกคู่นั้น ส่วนใหญ่จะมีราคาอย่างต่ำ 40 ดอลลาร์ขึ้นไป หากใครขายรองเท้าแวนส์คู่ใหม่ในราคาต่ำกว่านี้ อาจเป็นรองเท้าแวนส์ของปลอมได้

ตัวแทนจำหน่าย

หากจำเป็นต้องการซื้อรองเท้าจากร้านค้าจากอินเทอร์เน็ต ให้อ่านความคิดเห็นที่มีต่อผู้ขายร้านนั้นๆ ว่าส่วนใหญ่คอมเม้นจากลูกค้าดีหรือไม่ ดูข้อมูลจนแน่ใจว่าตัวแทนจำหน่ายเจ้านั้นมีข้อมูลติดต่อไว้บนเว็บไซด์ด้วย แต่ถ้าร้านค้านั้นไม่ยอมให้เบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่ร้านไว้ ร้านพวกนั้นอาจขายของปลอมก็เป็นไปได้

รู้วิธีเช็กรองเท้าของแท้ไปแล้ว อย่าลืมนำไปใช้ตรวจดูรายละเอียดต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ ทางที่ดีเราแนะนำให้ซื้อรองเท้ากับช็อปหรือตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ นอกจากจะทำให้ได้รับสินค้าดีมีคุณภาพแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนแบรนด์รองเท้าที่เราชื่นชอบให้มีกำลังใจในการผลิตสินค้าสวยๆ ดีๆ ออกมาให้เราชื่นชมอีกนั่นเอง