
ก่อนหน้านี้เราเคย รีวิว Oppo F11 อดีตรุ่นยอดนิยมที่ยังคงมีสเปกครบเครื่องใช้ได้ดีงานปี 2020 กันมาแล้ว วันนี้เราจะขยับไปรีวิวที่พี่ใหญ่ของซีรีส์ Oppo F11 Pro กล้องหน้าป็อปอัพสุดเท่ว่ายังคงน่าสนใจในปี 2020 หรือไม่ เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ ที่กำลังจะซื้อได้ตัดสินใจกันง่ายขึ้น
Oppo F11 กับ Oppo F11 Pro ต่างกันอย่างไร
ก่อนจะไปดูเหตุผลที่ Oppo F11 Pro ยังคงน่าสนใจในปีนี้ ผู้เขียนเชื่อว่าหลายคนยังอาจไม่ทราบว่า เจ้ารุ่น Pro กับรุ่นธรรมดามีอะไรแตกต่างกันบ้าง เผื่อบางคนงบไม่ถึงรุ่น Pro หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามา อาจจะซื้อรุ่นธรรมดามาใช้แทนก็เพียงพอ และประหยัดเงินได้มากขึ้น ซึ่งมีจุดต่างกันเพียง 4 จุดเท่านั้น
หน้าจอ : ทั้งสองรุ่นมีขนาดหน้าจอเท่ากันคือ 6.53 นิ้ว ต่างกันตรงดีไซน์ที่ F11 จะมีติ่ง ส่วน F11 Pro จะไร้ติ่งและขอบล่างบางกว่านิดนึง
บอดี้และสีสัน : บอดี้ของทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันที่สีฝาหลัง และ F11 หนักกว่าเล็กน้อย
กล้อง : ตัว Pro จะมีชิ้นเลนส์ที่เยอะกว่า และเซ็นเซอร์รับแสงใหญ่กว่า ทำให้การถ่ายในที่แสงน้อยทำได้ดีกว่า รวมถึงกล้องหน้าที่เซ็นเซอร์ใหญ่กว่า
แบตเตอรี่ : F11 แบตมากกว่า F11 Pro เล็กน้อย
สเปก Oppo F11 Pro
ขนาด | 161.3 × 76.1 × 8.8 มม. |
น้ำหนัก | 190ก. |
หน้าจอ | ขนาด 6.5 นิ้ว LCD IPS FullHD+ 2340x1080p Fullview Display ไร้ขอบ |
ชิปเซ็ต | MTK Helio P70 2.1 GHz |
ระบบปฏิบัติการ | Android 9.0 Pie + ColorOS 6 (สามารถอัปเกรดเป็น Android 10 + ColorOS 7 ได้ ) |
RAM | 6 GB |
ความจุ | 64/128 GB เพิ่ม SD Card ได้ |
กล้องหน้า | ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล |
กล้องหลัง | 2 ตัวประกอบด้วย
|
แบตเตอรี่ | ความจุ 4,000 mAh พร้อม รองรับระบบชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 |
การเชื่อมต่อ | USB 2.0 , Bluetooth 4.2, WiFi Dual 2.4/5.0GHz, รองรับ 2 ซิมแบบ Hybrid |
สี | Aurora Green, Thunder Black, Waterfall Grey |
ราคาเปิดตัว | 11,990 บาท (6/128GB) |
ราคาดีที่สุดบน Priceza | 8,990 บาท <คลิกเพื่อดูราคาล่าสุด> |
บอดี้สวย ฝาหลังไล่สีดูดีสุดๆ
แรกพบที่ได้จับครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ทีมงานรู้สึกถึงความสวยงามในการออกแบบสีของฝาหลังที่ไล่โทนได้อย่างดูดีที่ไม่มากเกินไป และด้วยการตัดขอบเครื่องโค้งทำให้จับถือกระชับมือโอเคเลย โดยตัวเครื่องประกอบด้วย 3 สีคือ สีน้ำเงิน(อมม่วง), สีเขียว(อมดำ) และสีเทา(อมม่วง)
จอกว้างเต็มตาไร้ติ่งจอ
ใครที่รำคาญติ่งจอ มือถือออปโป้รุ่นนี้จะตอบโจทย์มากเพราะว่าได้ย้ายกล้องหน้าไปทำเป็นป็อปอัพ ทำให้ไร้ Notch ที่รกสายตา ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าจอที่มากขึ้นถึง 6.5 นิ้ว ในขนาดตัวเครื่องที่เท่าเดิม โดยจอเป็นแบบ LCD IPS (ไม่ใช่ OLED) ความละเอียด Full HD+ ก็เพียงพอต่อการใช้งานดูหนัง เล่นเกมต่าง ๆ ในปีนี้
ประมวลผลกำลังดี โซเชียลลื่น เกมไม่กระตุก
RAM 6 GB ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป Helio P70 ทำให้การใช้งานทั่วไป เปิดแอป เล่นโซเชียลไม่มีปัญหา ลื่นตอบสนองได้ดี ส่วนเรื่องความสะดวกสบายก็มีการสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และการสแกนใบหน้ามาช่วยด้วย แต่ในการเล่นเกมที่มีกราฟิกสูงอาจจะมีกระตุกเมื่อปรับ Ultra Setting

กล้องหลัง 48 MP ถ่ายกลางคืนดีมาก กลางวันเลิศ
กล้องหลังคู่ของมือถือOppo รุ่นนี้ Oppo F11 Pro ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 และ 8 ล้านพิกเซล มีคุณภาพอยู่ในระดับค่อนข้างดี ให้สีสันที่ค่อนข้างตรง (White Balance มีเพี้ยนนิดหน่อย) แต่ความพิเศษของรุ่นนี้คือการถ่ายภาพแสงน้อยที่ทำได้ดี ใครชอบถ่ายกลางคืนไว้ใจได้เลย และแน่นอนการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอก็ทำได้
กล้องเซลฟี่บิวตี้ปังถ่ายหน้าสดก็รอด
ถ้าพูดถึงโหมดบิวตี้ มือถือ Oppo คือผู้นำที่บุกเบิกในยุคแรก ๆ และพัฒนาต่อยอดมาเรื่อย ๆ จนถึงใน F11 Pro ที่ AI Beauty 2.0 ที่ไม่ต้องแต่งหน้าก็สวยใสได้ บิวต์อินมาในกล้องหน้า Rising Popup ดูนำสมัย
นอกจากนี้ตัวเครื่องมีระบบเก็บกล้องป็อปอัพอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบการหล่นหรือไปชันกับวัตถุเพื่อป้องกันความเสียหาย พร้อมรองรับการใช้งานขึ้น-ลงต่อเนื่องไปถึง 6 ปี (เมื่อเปิดวันละ 100 ครั้ง)
จุดสังเกตที่ควรนำมาพิจารณา
- พอร์ตเชื่อมต่อยังเป็น USB 2.0 ค่อนข้างเก่า
- แม้จะปิด Beauty Mode ในกล้อง ตัวเครื่องจะมีความบิวตี้มาให้แล้วนิดๆ
- หน้าจอแบบ LCD ธรรมดาไม่ใช่ OLED
- Bluetooth เวอร์ชั่นเก่า 4.2
- กล้องหลังไม่มีเลนส์ Ultra-wide
ซื้อ Oppo F11 Pro ที่ไหนดี ราคาดีสุด
จากการสำรวจร้านค้าออนไลน์อัพเดตล่าสุด พบว่า Oppo F11 Pro ราคา 8,990 บาท คือราคาดีที่สุด ซึ่งขายบน Shopee
สรุป
ตามความเห็นของทีมงาน Oppo F11 Pro ยังคงมีสเปกที่ยังใช้งานได้ดีในปี 2020 แต่ในมุมมองด้านราคาที่ผ่านมาปีนึง ผู้เขียนมองว่าในงบเท่ากันสามารถซื้อมือถือใหม่ในสเปคที่ดีกว่าได้อีกหลายรุ่น เช่น Oppo Reno 2F ราคาดีทีุ่สด 8,590 บาท ที่ได้หน้าจอ AMOLED, RAM เพิ่มมาถึง 8GB มีเลนส์ Ultra-wide ไว้ใช้ถ่ายมุมกว้างพิเศษ และการสแกนลายนิ้วมือใต้จอได้นั่นเอง
ขอบคุณรูปภาพจาก Oppo Thailand