ตู้เย็นเล็ก ก็เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก จะราคาแพงขนาดไหนก็ล้วนต้องมีอายุการใช้งานในตัวเองกันทั้งสิ้น ตู้เย็นขนาดเล็กเองก็เช่นกันย่อมจะมีขีดจำกัดความทนทาน และ การทำงานในประสิทธิภาพที่ดีในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น สำหรับคนที่อยู่หอพักหรือมีห้องพักส่วนตัวที่อาศัยอยู่แค่คนเดียว อาจจะกำลังคิดจะซื้อตู้เย็นขนาดมินิบาร์กันอยู่ เพราะด้วยขนาดกะทัดรัดตอบโจทย์เรื่องบริเวณพื้นที่ในการจัดวาง ซึ่งเชื่อเลยว่าคุณก็คงอยากรู้ว่าตู้เย็นขนาดมินิบาร์นั้นทนทานหรือไม่ และมีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อจะได้คำนวณรายจ่ายกับความคุ้มค่าได้ลงตัว ครั้งนี้เราจึงมีเรื่องราว ๆ ดี ๆ มาบอก
ตู้เย็นขนาดเล็กขนาดอาจมินิ แต่ความทนทานไม่มินิ
ก่อนเราจะไปดูว่าตู้เย็นมินิบาร์ทนทานแค่ไหน มีอายุการใช้งานเท่าไหร่ ขอให้คุณพิจารณาดูอายุเฉลี่ยของตู้เย็นขนาดใหญ่ที่ใช้กันในครัวเรือนทั่วไปก่อน เพื่อจะได้เห็นความไม่ธรรมดาของตู้เย็นมินิบาร์กัน ส่วนใหญ่แล้วตู้เย็นขนาดครัวเรือนทั่วไปอายุการใช้งานเฉลี่ยจะอยู่ที่ 13 ปี หากดูแลรักษาดี ๆ ก็อาจจะทนทานอยู่ได้นานกว่านั้นยืดเวลาออกไปถึง 20 ปีกันเลยทีเดียว ทีนี้มาดูตู้เย็นมินิบาร์กัน อายุการใช้และความทนทานของตู้เย็นขนาดเล็กแบบนี้เฉลี่ยจะอยู่ที่ 7 – 10 ปี ซึ่งถ้ามองค่าเฉลี่ยกันแบบนี้แล้วก็ถือว่าใกล้เคียงกับตู้เย็นขนาดใหญ่ไซส์ครัวเรือนเลย หรือจะเรียกว่าขนาดเล็กแต่แต่ประสิทธิภาพความทนทานนั้นไม่เล็กก็ได้เลยแหละ
สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องของอายุการใช้งานไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็คงจะเหมือน ๆ กัน คือ พฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งแต่ละบ้านแต่ละคนก็คงจะมีพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกันไป ใครที่ทำอาหารรับประทานเองบ่อย ๆ ก็คงจะต้องมีสิ่งของอาหารเครื่องดื่ม แช่ในตู้เย็นมากมาย จนบางทีก็แน่นเต็มตู้ ส่วนบางคนไม่ค่อยอยู่บ้านและรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ ตู้เย็นก็จะโล่ง ๆ ไม่มีอะไรแช่ แต่ไม่ว่าจะแน่นหรือโล่งก็ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของตู้เย็นทั้งสิ้น
พฤติกรรมที่ควรเลี่ยงในการใช้งาน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าพฤติกรรมการใช้งานส่งผลโดยตรงต่อความทนทานและอายุการใช้งานของตู้เย็น ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่า หากต้องการให้ ตู้เย็นขนาดเล็กมีความทนทานนานปี พฤติกรรมการใช้ใดที่ไม่ควรทำ
- ตั้งตู้เย็นชิดผนัง : ตู้เย็นทุกแบบไม่ว่าเล็กหรือใหญ่จะมีระบบระบายความร้อนอยู่ที่ด้านหลังคอมเพรสเซอร์ หากวางตู้เย็นชิดผนังเกินไปก็จะทำให้ตู้เย็นไม่สามารถระบายความร้อนได้ดี นั่นเท่ากับเร่งให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้น ระยะที่ควรตั้งห่างจากกำลังคือประมาณ 15 เซนติเมตร
- ตั้งค่าความเย็นสูงไป : บ้านเราเป็นเมืองร้อนบางทีก็ทำให้เราใจร้อนไปด้วย เวลาเอาอะไรมาแช่ในตู้เย็นก็อยากจะให้เย็นเร็ว ๆ จึงไปปรับอุณหภูมิในตู้เย็นโดยตั้งค่าความเย็นในระดับสูงสุด ซึ่งการทำแบบนี้ตู้เย็นจะต้องทำงานหนักขึ้น เท่ากับเป็นการเร่งให้ตู้เย็นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น อุณหภูมิที่พอเหมาะที่ควรตั้งไว้ก็คือ 0-4 องศาเซลเซียส
- แช่ของร้อน : พฤติกรรมนี้หลายคนเคยเผลอทำ ของที่ยังมีอุณหภูมิสูงหากนำไปแช่ในตู้เย็นทันที ตู้เย็นก็จะต้องเร่งปรับอุณหภูมิภายในเฉลี่ยให้เท่ากัน ก็เท่ากับเป็นการเร่งการทำงานของเครื่องและน้ำยาแอร์ แบบนี้เครื่องจึงเสื่อมเร็วขึ้น
แช่ของแน่นเกินไป : ตู้เย็นขนาดเล็กไม่เหมาะที่จะใช้แช่ของจำนวนมาก แช่มากไปเครื่องก็ทำงานหนักขึ้น- แช่ของน้อยเกินไป : ปล่อยตู้เย็นมินิบาร์โล่งเลยก็ไม่ดีเหมือนกัน เพราะเมื่อเราเปิดตู้เย็นแต่ละครั้งความร้อนจะเข้าไปในตู้เย็นได้มากขึ้น ก็ทำให้ตู้เย็นเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้
- เสียบปลั๊กร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น : แม้จะเป็นตู้เย็นขนาดเล็กก็ไม่ได้แปลว่าจะใช้ไฟน้อย ดังนั้น ควรแยกปลั๊กตู้เย็นออกมาเสียบที่เต้ารับเดี่ยว ๆ โดยเฉพาะจะดีที่สุด
ตู้เย็นเล็ก ถ้าใช้งานอย่างถูกต้อง ก็ต้องถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทนทานมากเลยทีเดียว สามารถที่จะใช้งานได้เป็น 10 ปี เหมือนกัน อีกทั้งยังช่วยเรื่องประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องพักได้ด้วย รู้แบบนี้แล้วใครที่กำลังคิดจะซื้อก็จัดไปเลย ขอแค่ใช้งานตามที่เราแนะนำมาก็มั่นใจได้เลยว่าทนทานคุ้มค่ากับราคาที่คุณต้องจ่ายไปแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
>>ตู้เย็นขนาดเล็กกินไฟฟ้าขนาดไหน ค่าไฟตู้เย็นเดือนคิดอย่างไร
>>ตู้เย็นขนาดเล็กแช่อะไรดี เคล็ด(ไม่)ลับใช้งานไม่เปลืองไฟ
>>ตู้เย็นขนาดเล็กกับนิยามเรื่องไซส์ ขนาดไหนถึงจัดว่าเป็นตู้เย็นมินิ
