
รอยแผลเป็นเป็นปัญหากวนใจที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากมี แต่ไม่ว่าคุณจะมีแผลเป็นจากสิว อุบัติเหตุ หรือการผ่าตัด ก็สามารถทำให้ผิวของคุณดูไม่เรียบเนียนและไม่สวยงามได้ รอยแผลเป็นเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาเพื่อทดแทนเนื้อเยื่อที่เสียหาย กระบวนการนี้อาจทำให้เกิดรอยนูน รอยแดง หรือรอยดำบนผิวหนัง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ แผลเป็นนูน เกิดจากเนื้อเยื่อแผลเป็นมีการสร้างมากขึ้นกว่าเนื้อเยื่อปกติ และแผลเป็นหลุม เกิดจากเนื้อเยื่อแผลเป็นมีการสร้างน้อยกว่าเนื้อเยื่อปกติ การรักษานั้นสามารถใช้ได้ตั้งแต่เลเซอร์ ผ่าตัด และการทาครีม ขึ้นอยู่กับขนาดของแผล ใครที่เพิ่งได้รับแผลมา และมองหาครีมป้องกัน หรือลดรอยแผลเป็น เราได้รวมรวบ 10 ครีมลดรอยแผลเป็นยี่ห้อต่างๆ ที่เขาว่าดี ว่าปังว่าไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ
ครีมลดรอยแผลเป็นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามส่วนผสมหลักที่ใช้ ได้แก่
- ครีมลดรอยแผลเป็นที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ (retinoid) กรดวิตามินเอเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และลดการอักเสบ ครีมลดรอยแผลประเภทนี้เหมาะสำหรับแผลเป็นทุกประเภท แต่อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้
- ครีมลดรอยแผลเป็นที่มีส่วนผสมของสารอื่นๆ สารอื่นๆ ที่มักพบในครีมลดรอยแผลเป็น ได้แก่ กรดไฮยาลูรอนิก (hyaluronic acid) ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว สารสกัดจากพืช เช่น ว่านหางจระเข้และวิตามินอี ที่ช่วยปลอบประโลมและลดการอักเสบ และสารกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
นอกจากนี้ ครีมลดรอยแผลยังสามารถแบ่งออกตามประเภทของแผลเป็นได้อีกด้วย เช่น
- ครีมลดรอยแผลเป็นจากสิว เหมาะสำหรับแผลเป็นจากสิวทุกประเภท
- ครีมลดรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด เหมาะสำหรับแผลเป็นนูนจากการผ่าตัด
- ครีมลดรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุ เหมาะสำหรับแผลเป็นทุกประเภท
การเลือกครีมลดรอยแผลเป็นควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ประเภทของแผลเป็น เลือกครีมลดรอยแผลแบบที่เหมาะกับประเภทของแผลเป็นของคุณ แผลเป็นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ แผลเป็นนูนและแผลเป็นหลุม ครีมลดรอยแผลบางชนิดเหมาะสำหรับแผลเป็นประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ
- สภาพผิว เลือกครีมลดรอยแผลแบบที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ ครีมลดรอยแผลบางชนิดอาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้ หากมีผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย ควรเลือกครีมลดรอยแผลที่อ่อนโยน
- ส่วนผสม เลือกครีมลดรอยแผลแบบที่มีส่วนประกอบที่เหมาะกับคุณ ส่วนผสมที่พบบ่อยในครีมลดรอยแผล ได้แก่ กรดวิตามินเอ กรดไฮยาลูรอนิก สารสกัดจากพืช และสารกันแดด
- ราคา เลือกครีมลดรอยแผลแบบที่ราคาเหมาะสมกับคุณ ครีมลดรอยแผลมีราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและยี่ห้อ
นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจพิจารณาเพิ่มเติม เช่น รีวิวจากผู้ใช้ คำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง เป็นต้น
10 ยางรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2023 รีดน้ำดี เบรกสั้น ยึดเกาะถนนแน่น
คำแนะนำของเราน่าเชื่อถือหรือไม่?
ครีมลดรอยแผลเป็นแต่ละยี่ห้อที่เราแนะนำเราเริ่มต้นจากการสำราวจท้องตลาดทั้งหน้าร้านและออนไลน์ รวมไปถึงสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อรุ่นที่น่าสนใจ และร้านที่น่าเชื่อถือ จากนั้นกองบรรณาธิการของเราได้คัดเลือกยี่ห้อครีมลดรอยแผลเป็นที่ได้รับความนิยมในปี 2023 เพื่อคัดเลือกรุ่นที่ดีที่สุดมาทำการวิเคราะห์คุณสมบัติและแนะนำผ่านบทความนี้ และทำการขออนุญาตนำคลิปวิดิโอรีวิวยี่ห้อครีมลดรอยแผลเป็นที่ผู้เชี่ยวชาญเลือกใช้มาประกอบบทความ เพื่อให้ข้อมูลในการช่วยตัดสินใจของผู้อ่าน พร้อมส่งให้ผู้เชี่ยวชาญยืนยันและตรวจสอบข้อมูลของบทความทั้งหมด จากนั้นจึงให้กองบรรณาธิการแก้ไขหากพบเนื้อหาหากพบข้อมูลที่ผิดพลาด
จากบทความแนะนำ 10 ครีมลดรอยแผลเป็น ลดรอยสิว แผลเลเซอร์ ผ่าตัด รักษาจุดด่างดำแบบเห็นผล! กองบรรณาธิการของเราได้ทำการคัดเลือกรุ่นที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 20 รายการ ตัวอย่างเช่น
ครีมลดรอยแผลเป็น Puricas Plus Advanced Dragon’s Blood C&E Scar Gel | ครีมลดรอยแผลเป็น Bio-Oil |
ครีมลดรอยแผลเป็น Smooth E Cream | ครีมลดรอยแผลเป็น Mederma Intense Gel |
ครีมลดรอยแผลเป็น Dermatix Ultra Gel | ครีมลดรอยแผลเป็น Provamed Scarzone ultra |
ครีมลดรอยแผลเป็น Mederma PM Intensive Overnight Scar Cream | ครีมลดรอยแผลเป็น Hiluron Plus |
ครีมลดรอยแผลเป็น Hiruscar Silicone Pro | ครีมลดรอยแผลเป็น Smooth E Plus Scar Cream |
ครีมลดรอยแผลเป็น Provamed Scar Silicone | ครีมลดรอยแผลเป็น Astalift Pro-Collagen Scar Gel |
ครีมลดรอยแผลเป็น Puricas Dragon’s Blood Scar Gel | ครีมลดรอยแผลเป็น Cicaplast Baume B5 |
ครีมลดรอยแผลเป็น Eucerin Spotless Brightening Spot Corrector | ครีมลดรอยแผลเป็น Bepanthen |
ครีมลดรอยแผลเป็น SkinRx Lab Medecera Cream | ครีมลดรอยแผลเป็น Snail White Scar Serum |
ครีมลดรอยแผลเป็น Cybele Scagel | ครีมลดรอยแผลเป็น Tea Tree Oil |
บทส่งท้าย
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนควรช้ครีมลดรอยแผลเป็นควรทาเป็นประจำทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน รอยแผลเป็นเป็นเหมือนรอยสักที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณ แต่บางครั้งก็อาจทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดแผลเป็น ทุกครั้งที่มีแผลควรดูแลแผลให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลกับแสงแดด และทาครีมลดรอยแผลเป็นทันทีเมื่อแผนตกสะเก็ด และควรทาอย่างต่อเนื่องจนกว่ารอยแผลจะจางลง กรณีแผลลึก แผลนูนมากๆ อาจจะต้องพบแพทย์เพื่อศัลยกรรมตกแต่งบาดแผลเพิ่มเติมด้วย