มือถือราคาไม่เกิน3000บาท ในช่วงปีที่ผ่านมาในปัจจุบัน มีสเปคดีขึ้นจากในอดีตเยอะมาก สามารถทำอะไรได้หลากหลายแทบไม่ต่างจากรุ่นต่ำหมื่นอื่นๆ เพียงแค่มีบางฟังก์ชั่นที่ถูกลดสเปคหรือตัดออกไป ก็แหมราคาเท่านี้จะทำให้ได้เหมือนเจ้าพวกนั้นก็คงไม่ได้ แต่ในการใช้งานพื้นฐานทั่วไปนับว่าคุ้มค่าสมราคามาก ซึ่งวันนี้เรารวบรวม 10 สมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 3,000 บาท ฟังก์ชั่นครบ ๆ น่าใช้อัพเดตปี 2019 มาแนะนำให้เพื่อน ๆ แล้วจ้า
1. iPhone 5S 16GB
อาจจะดูเก่าไปหน่อย แต่ขึ้นชื่อว่า ไอโฟน ยังไงก็ไว้ใจได้ ด้วยระบบ iOS ที่รีดเร้นประสิทธิภาพเครื่องให้ใช้งานได้ในสมัยนี้อย่างสบาย ๆ แล้วยิ่ง Apple ปล่อยอัพเดต iOS 12 ตัวใหม่ ช่วยคืนชีพ iPhone 5s ให้ลื่นขึ้นมากๆ ทำให้ทั้งการใช้งานพื้นฐาน ความปลอดภัยสแกนลายนิ้วมือ Touch ID หรือกล้องถ่ายภาพของไอโฟน 5 เอส ที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปในปี 2019 อยู่ โดยเฉพาะการเล่นเกมที่ทำได้ดีที่สุดในบรรดามือถือราคาไม่เกิน3000บาทอีกด้วย
(หมายเหตุ ราคานี้ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องมือสองคุณภาพดี เครื่อง Referbished หรือเป็นเครื่องติดโปรกับค่ายมือถือ)
2. Samsung A2 Core 8GB
Galaxy A2 Core เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นลับตัวล่าสุดของซัมซุงที่มีราคาถูกที่สุด ณ ขณะนี้ แม้ไม่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย แต่ก็มีการวางขายพร้อมรับประกันศูนย์ 1 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วบนร้านค้าออนไลน์ต่างๆ มาพร้อม ชิป Exynos 7870 1.6GHz RAM 1 GB และระบบปฏิบัติการ Android Pie 9.0 Go Edition ที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่กินสเปค ความจุตัวเครื่อง 8 GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุดถึง 256 GB และแบต 2,600 mAh เพียงพอต่อการใช้งาน มีกล้องหน้าและหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
3. Xiaomi Redmi Go 8GB
สมาร์ทโฟนจาก Xiaomi ที่เน้นใช้งานทั่วไปมีจุดเด่นด้วยการทำงานผ่านระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo (Go Edition) เวอร์ชั่นพิเศษที่ทำออกมาเพื่อให้เจ้าตัวเล็กนี้ลื่นไหลกว่าเดิม ขับเคลื่อนบนหน่วยประมวลผล Snapdragon 425 Quad Core, RAM 1GB มีหน่วยความจำภายใน 8GB (เพิ่มได้สูงสุด 128GB ผ่าน MicroSD) และแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างอึด 3,000 mAh ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป หรือพกพาเป็นเครื่องที่สองได้แล้ว
4. Xiaomi Redmi 6A 16GB
จุดเด่นแรกนั้น ไปเริ่มดูกันที่หน้าจอแสดงผลที่กว้างกว่า 5.45 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด 1440×720 พิกเซล ทั้งใหญ่ทั้งสีสันสวยงาม เหนือหน้าจอมีไฟแจ้งเตือนสถานะอยู่มุมซ้ายสุด ถัดจากไฟแจ้งเตือนจะเป็นกล้องหน้าที่มาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ตรงกลางเป็นช่องลำโพงสำหรับการสนทนา และขวาสุดเป็นช่องเซ็นเซอร์ ยังไม่พอเพราะเขามีกล้องหลังที่ความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล ซึ่งก็ให้ภาพที่ละเอียดสวยงามได้ในช่วงกลางวัน หรือมีแสงจัด ๆ พร้อมกันนี้ก็มีไฟแฟลชอยู่ข้างขวาของกล้อง รวมถึงด้านล่างสุดของด้านหลังจะมีช่องลำโพงเสียงให้อีกด้วย
5. Wiko View Max 16GB
สมาร์ทโฟนจอ 6 นิ้ว (5.99 นิ้ว) ในราคาสุดคุ้ม ตอบโจทย์ทุกการใช้งานพื้นฐาน มาพร้อมชิปประมวลผลความเร็ว 1.3GHz รองรับ 4G ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 8.1 (Oreo) ช่วยอำนวยความสะดวกมากมาย ใช้แอปพลิเคชั่นได้พร้อมกันถึง 2 หน้าจอ RAM 2 GB ความจุตัวเครื่อง 16 GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 128 GB เรื่องกล้องให้มาเป็นกล้องหลังความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล และฟังก์ชั่นเสริมการเซลฟีให้โดดเด่นด้วย Display Flash ช่วยให้ใบหน้าสว่างเนียนเป็นธรรมชาติในกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังรองรับการปลดล็อคด้วยใบหน้าและสแกนลายนิ้วมืออีกด้วย แต่ที่ว้าวสุดคือ แบตเตอรี่ขนาดมหึมา 4000 mAH!
6. Nokia 2.1 2018 8GB
หากลองสำรวจตัวเครื่องจะพบว่าโนเกียรุ่นนี้มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว โดดเด่นด้วยโลโก้ Nokia มุมบนขวา พร้อมกับลำโพงคู่กระหึ่ม ตัวเครื่องรันบนชิป Snapdragon 425 ที่สามารถแสดงการใช้งานที่ลื่นไหลบน Android 9 Go Edition ได้เป็นอย่างดี และมาพร้อมกับกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มันเหมือนกับมือถือโนเกียที่ดูคลาสสิคมากทีเดียว ทั้งนี้เครื่องนี้ยังมากับกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และมี LED Flash ที่สำคัญคือเรื่องแบตที่อึดตัวแม่ถึง 4,000 mAH
7. Huawei Y5 Prime 2018 16GB
รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอแสดงผล IPS ขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1440x720px) ปลดล็อคด้วยใบหน้าได้ ขับเคลื่อนด้วยชิป CPU MTK MT6739 เร็ว 1.5GHz บน Android 8.1 มาพร้อม RAM 2 GB เล่นเกมได้ และหน่วยความจำตัวเครื่อง 16 GB เพิ่มการ์ดได้อีก 256GB ในส่วนของกล้องหลังมีความละเอียดมาให้ที่ 13 ล้านพิกเซล (Autofocus) F/2,0 + แฟลช และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ทำให้เข้าถึงประสบการณ์การถ่ายภาพแบบ Perfect Selife รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ 2 ซิม (Microsim) และยังรองรับระบบ 4G LTE แบบ (Dual-Standby) และให้แบตเตอรี่ความจุมาขนาด 3,020 mAh อึดถึกหมดวันสบาย ๆ
8. Moto C 4G 16GB
สมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปที่จะพาไปส่องคือ Moto C 4G มาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด WVGA LCD (584×480) ทั้งยังยกระดับการทำงานอย่างลื่นไหลด้วยขุมพลัง MediaTek MT6580m 32-bit quad-core 1.3 GHz processor พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ทำให้คุณใช้งานได้อย่างคล่องมือ ท่องโลกอินเตอร์เน็ตได้สนุก ไร้ขีดจำกัด หากลองเทียบความคุ้มค่ากับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่ราคาใกล้เคียงกัน รุ่นนี้นับเป็นอีกตัวที่น่าจับตามองมากๆ แต่เวลาซื้อต้องดูดีๆ นะเพราะว่ารุ่นนี้จะแบ่งออกเป็น 2 โมเดลคือ 1.โมเดลที่ล็อคซิมใช้ได้เฉพาะ Truemove-H กับ 2.โมเดลที่ใส่ได้กับซิมทุกเครือข่ายจ้า
9. Meizu M5C 16GB
มือถือจอ HD ขนาด 5 นิ้ว สามารถลดความสว่างหน้าจอได้น้อยสุด 5.5nit ทำให้ไม่แยงตาเมื่อใช้งานในที่มืด รองรับ 4G ขับเคลื่อนด้วยชิป Mediatek MT6737 1.3 GHz RAM 2 GB บน Android 6.0 หน่วยความจำเครื่อง 16GB ใส่การ์ดได้อีก 128GB กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 3,000 mAh มีเซ็นเซอร์ Gyroscope และสามารถสแกนลายนิ้วมือด้านหน้าได้
10. HAIXU V20 16GB
HAIXU (ไฮซู) อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนที่แสนไม่คุ้นหู แต่มีศูนย์ในไทย โดดเด่นด้วยดีไซน์ฝาหลังไล่สีดูแพง และหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาทุกรุ่นที่แนะนำไป ขนาด 6.3 นิ้วแบบหยดน้ำ IPS HD+ รันบน Android 7.0 ผสานกับ RAM 2 GB ความจุภายใน 16 GB เพิ่มการ์ดได้อีก 128GB ประมวลผลจากชิป MTK6580 ความเร็ว 1.3 GHz ได้กล้องหลังคู่ 13+5 ล้านพิกเซล กล้องเซลฟี่ 5 ล้านพิกเซลพร้อมบิวตี้โหมดเสริมความฟรุ้งฟริ้ง แบตอึด 3,800 mAh เล่น ROV ได้สบาย ๆ
มือถือราคาไม่เกิน 3000 บาท ส่วนใหญ่จะมีความจุเริ่มต้นที่ 8 – 16 GB เท่านั้น และมี RAM เพียง 1 – 2 GB ถึงจะดูน้อย แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีคุณสมบัติในการใช้งานที่น่าสนใจ ซึ่งเมื่อดูจากราคาแล้ว ถือว่าคุ้มค่า ซื้อเอาไปฝากผู้หลักผู้ใหญ่เป็นของขวัญ หรือใช้เป็นเครื่องสำรองก็ดูเหมาะเอามาก ๆ เลยล่ะจ้า