
จากข้อมูลของ Emarsys (ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การตลาด)และ GoodData (บริษัทซอฟต์แวร์ในสหรัฐอเมริกา) แสดงให้เห็นว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ 10 เมษายน รายได้จากอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และยังมีอีกหลายประเทศที่มีการเติบโตของอีคอมเมิร์ซสูง
เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่านาทีนี้เป็นเวลาของอีคอมเมิร์ซธุรกิจที่มีร้านค้าออนไลน์อยู่แล้วจึงค่อนข้างจะได้เปรียบ เพราะฉะนั้นหากธุรกิจของคุณยังไม่ได้เริ่มเข้าสู่โลกออนไลน์ ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสม ส่วนร้านที่มีอยู่แล้วก็เป็นโอกาสที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อที่ดีให้กับลูกค้ายิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยการที่ต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงร้านเพื่อให้เท่าทันสถาณการณ์ จึงอาจทำให้ต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้าหรือ Customer-acquisition (ค่าใช้จ่ายที่ทำให้ได้ลูกค้ารายใหม่มาหนึ่งราย) เพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้ ร้านออนไลน์จึงต้องมีกลยุทธ์เพื่อรักษาลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้า เพื่อให้ร้านดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
หัวข้อแนะนำที่น่าสนใจ เลือกอ่านได้เลย
ร้านค้าออนไลน์จะเข้าถึงลูกค้าใหม่ได้อย่างไร
ประสบการณ์การใช้งานหน้าเว็บฯ หรือเพจในโซเชียลต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพราะฉะนั้นหากต้องการให้ลูกค้ากดซื้อมากขึ้น อันดับแรกคือต้องปรับปรุงหน้าร้านให้ดูดี ใช้งานง่าย และรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง ได้แก่ การใช้ calls-to-action (ปุ่ม, ป้ายแบนเนอร์ หรือกราฟิก บนเว็บไซต์ที่ให้ผู้ใช้คลิกไปสู่หน้าอื่นที่อยากให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เข้าไปดู) ถูกตำแหน่งแล้วหรือยัง? มีการเน้นและอธิบายถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์หรือไม่? เว็บไซต์ใช้เวลาโหลดนานเกินไปหรือไม่? ข้อสุดท้ายนี้สำคัญมาก เพราะแม้ดูเหมือนเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่จากรายงานการวิเคราะห์ของ Neil Patel (ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์และมีชื่อเสียงด้านการตลาดแบบดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง) พบว่า ร้อยละ 40 ของผู้ใช้เว็บฯ กดออกจากเว็บไซต์ที่ใช้เวลาโหลดนานกว่า 3 วินาที
ปรับกลยุทธ์การตลาด
การปรับกลยุทธ์การตลาดก็สำคัญในช่วงนี้เช่นกัน การเพิ่มยอดขายจากลูกค้าเดิมให้เพิ่มจากที่เคยซื้อในอดีตและสร้างความคุ้นเคยต่อแบรนด์ให้กับลูกค้ามากขึ้นมีความสำคัญยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
การตลาดโซเชียลมีเดียและการตลาดผ่านอีเมลสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ เพราะโซเชียลมีเดียนั้นทำให้แบรนด์หรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ดูจับต้องได้มากขึ้น เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคย ใช้งานกันอยู่เป็นประจำ อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับร้านได้สะดวก สร้างความรู้สึกไว้วางใจ ส่วนอีเมล์ก็เป็นการช่วยกระตุ้นความอยากซื้อให้มากขึ้นด้วยข้อเสนอพิเศษต่างๆ
รู้เท่าทันพฤติกรรมผู้บริโภค
แม้ตอนนี้หลายคนกำลังลดการใช้จ่าย แต่เกือบทุกคนยังคงต้องซื้อของใช้จำเป็นเพื่อใช้ในขณะกักตัวอยู่ที่บ้าน จึงไม่น่าแปลกใจที่อาหารและของใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ มียอดขายออนไลน์เติบโตมากที่สุด อ้างอิงได้จากการวิเคราะห์ของ eMarketer (บริษัทวิจัยตลาด) ที่พบว่า การค้าปลีกออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 183 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนมีนาคม 2020 เมื่อเทียบกับช่วงเวลานี้ในปีก่อน ดังนั้นร้านค้าต่างๆ จึงไม่เพียงแค่เดินหน้าเข้าสู่โลกออนไลน์ แต่ต้องรู้ด้วยว่าตอนนี้ผู้บริโภคต้องการอะไรในปัจจุบัน ต้องบอกให้ได้ว่าสินค้าของคุณ ให้อะไรที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าสะดวก มีชีวิตดีขึ้น ผ่อนคลายขึ้น หรือมีความบันเทิงขึ้นได้อย่างไรในสถาณการณ์ตึงเครียดเช่นนี้
ตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
แม้แต่แบรนด์ที่แข็งแกร่งในโลกออนไลน์ก็อาจมีความเสี่ยงได้ในช่วงเวลานี้ โดยนักวิเคราะห์ Oscar Orozco ได้เตือนไว้ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า แม้ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น แต่แบรนด์หรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรเตรียมตัวรับมือกับความยากลำบากในอนาคตข้างหน้าไว้ด้วย เพราะพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคจะเปลี่ยนจาก Nice-To-Have products (ผลิตภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นต้องมีแต่มีได้ก็ดี) เป็น Must-Have products (สินค้าจำเป็น) เพราะเมื่อการระบาดยืดเยื้อกินเวลานาน ผลกระทบก็มากขึ้น รายได้ของผู้คนก็น้อยลง กำลังซื้อก็ลดลงตามไปด้วย คนจึงเลือกซื้อแต่ของจำเป็นจริงๆมากกว่า
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งคือ ผู้ผลิตและค้าปลีกสินค้าหลายรายหันมาทำสินค้าจำเป็นเพื่อสุขอนามัย เช่น หน้ากากอนามัย พัดลมระบายอากาศ เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์กันมากมาย คนก็ซื้อกักตุนจนขาดตลาด ทำให้หลายคนเห็นช่องทางสร้างรายได้จากสินค้าเหล่านี้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะขายไม่ได้ตามที่คาดหวังด้วย เพราะมีคู่แข่งในท้องตลาดมากมายอยู่แล้ว ทั้งเจ้าเดิม และรายใหม่
ขณะนี้เป็นช่วงเวลาของความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับการค้าปลีก และยิ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าอีคอมเมิร์ซสำคัญเพียงใด โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤติ แบรนด์ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าออนไลน์จะสามารถสร้างรายได้ได้ดีกว่า ดังนั้นอย่าเพิ่งท้อถอย ถึงแม้ตอนนี้หลายคนจะเพิ่งเริ่มต้น แต่อย่ากลัวว่าจะตามคนอื่นไม่ทัน เพราะในเวลานี้หลายๆ ธุรกิจก็แทบจะนับหนึ่งใหม่เหมือนๆ กันหมด เพราะฉะนั้นจงพยายามพัฒนาและปรับปรุงช่องทางขายออนไลน์ให้ดีที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
Source: Entrepreneur
สนใจเริ่มต้นขายของออนไลน์ โดยให้ Priceza เป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษา? สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อให้เราทราบว่าคุณต้องการให้เราช่วยในด้านไหนได้เลยค่ะ