หน้าแรก คู่มือเลือกซื้อสินค้า วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เลือกยี่ห้อไหน? เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เลือกยี่ห้อไหน? เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศ เลือกแบบไหน ซื้ออย่างไร ราคาเท่าไหร่ ควรดูอะไรบ้าง

13678

วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เลือกยี่ห้อไหน? เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

เครื่องฟอกอากาศ Air Purifier เครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยกรองสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ในอากาศอย่างฝุ่นควัน หรือกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เพื่อให้อากาศสะอาดบริสุทธิ์นี้ กำลังเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่หลายพื้นที่กำลังได้รับผลกระทบ และด้วยการที่ฝุ่นเจ้าปัญหาดังกล่าว สามารถเล็ดลอดเข้ามาทำอันตรายได้ถึงภายในบ้าน ทำให้หลายคนเริ่มเกิดความกังวล และกำลังมองหาซื้อเครื่องฟอกอากาศดี ๆ สักเครื่องมาใช้เพื่อปกป้องตนเองและคนที่คุณรัก

แนะนำวิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสม

แต่ปัญหาหลักของการเลือกซื้อคือไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร เพราะว่าในตลาดก็มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อซะเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้ Priceza จึงขอมาแนะนำวิธีเลือก เครื่องฟอกอากาศ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ยี่ห้อไหนดีรุ่นไหนคุ้มที่นี่มีคำตอบ แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จัก และเข้าใจการทำงานของเครื่องฟอกอากาศให้มากขึ้นกันสักหน่อยดีกว่า

ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ

ช่วยลดความเสี่ยงของอันตรายจากภาวะปนเปื้อนในอากาศ

จากผลสำรวจของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐได้ประเมินไว้ ระบุว่าอากาศที่อยู่ในบ้านเรามีความสกปรกกว่าอากาศด้านนอกถึง 2 – 5 เท่าเลยทีเดียว และส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างฝุ่น PM 2.5 ที่เล็กกว่าเส้นผมถึง 25 เท่า, ละอองเกสร และเชื้อโรค ดังนั้นการมีเครื่องฟอกอากาศในบ้านจะทำให้คุณมั่นใจว่าคุณและครอบครัวจะปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อนเป็นอันตรายต่อสุขภาพเหล่านั้น

ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศ

ในเครื่องฟอกบางประเภทจะใช้แผ่นกรองที่สามารถดักจับและขจัดกลิ่นแปลกปลอมในอากาศ เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นสัตว์เลี้ยง กลิ่นอาหาร หรือกลิ่นสารเคมีอันตรายอย่างฟอร์มาดีไฮด์ที่มีกลิ่นฉุนและมักพบในอุตสาหกรรมไม้ เฟอร์นิเจอร์ เรซิน แลคเกอร์ หรือน้ำยาทาเล็บ เป็นต้น ได้

ลดความเสี่ยงจากสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ

สำหรับใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ คงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเป็นแน่ ถ้าเกิดอาการภูมิแพ้ที่เราพยายามกำราบแทบตายได้กำเริบขึ้นมา โดยเฉพาะอาการภูมิแพ้ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หอบ หืด ที่มีสาเหตุมาจาก จากสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ที่ลอยล่องอยู่ในอากาศ การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชั่นกรองสารก่อภูมิแพ้ อาทิ ละอองเกสร สารในขนสัตว์เลี้ยง ฝุ่น ฯลฯ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงอาการกำเริบได้นั่นเอง

หลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ

การฟอกอากาศ ของตัวเครื่องฟอกจะทำงานโดยการการดูดอากาศบริเวณโดยรอบเข้ามา แล้วกรองสิ่งที่ปนเปื้อน อนุภาคที่เป็นอันตรายและสิ่งแปลกปลอมในอากาศ ด้วยแผ่นกรองหลายประเภท จากนั้นก็จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์คืนกลับไปยังพื้นที่นั้น ๆ แต่ก็ยังมีเครื่องฟอกอากาศอีกหลายประเภทที่ใช้หลักการอื่น ๆ เช่น การปล่อยประจุลบไปดักจับอนุภาคอันตรายในอากาศ การใช้ก๊าซโอโซน หรือการใช้แสง UV เป็นต้น

เครื่องฟอกอากาศมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

โดยทั่วไปเราสามารถจำแนกประเภทของเครื่องฟอกอากาศได้จากหลายบริบท ทั้งเรื่องระบบการกรอง ชนิดของแผ่นกรอง คุณสมบัติ และลักษณะการใช้งาน เช่น เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรอง เครื่องฟอกด้วยประจุลบ หรือเครื่องฟอกแบบพกพา ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนขอแบ่งออกใหญ่ ๆ เป็น 3 ประเภท ดังนี้

เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองเป็นหลัก Filtration Air Purifier

เครื่องฟอกอากาศชนิดนี้จะอาศัยการดูดอากาศโดยรอบเข้ามาผ่าน แผ่นกรองอากาศ หลากชนิด เช่น แผ่นกรองแอคทิเวเทตคาร์บอน Activated Carbon ที่มีคุณสมบัติดักจับและดูซับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ทั้งหลายแหล่ได้ และแผ่นกรองที่เรียกว่าได้เป็นมาตรฐานของเครื่องปรับอากาศส่วนใหญ่ในตลาดก็คือ แผ่นกรอง HEPA (High-efficiency particulate air)* ที่ผลิตจากเส้นใยแก้วไฟเบอร์กลาสขนาดเล็กมาก ๆ มาถักทอเรียงตัวกัน มีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ถึง 85 – 99.99% ขึ้นอยู่กับคลาสของแผ่นกรองตามมาตรฐาน EN-1822 ของยุโรป

ประเภท แผ่นกรองอากาศ เครื่องฟอกอากาศ

แล้วอะไรบ้างที่เจ้าแผ่นนี้สามารถกรองได้ คำตอบคือสามารถกรองฝุ่นได้แทบทุกชนิด ไม่เว้น PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหา ละอองเกสรดอกไม้ กรองสปอร์เชื้อรา แบคทีเรีย เชื้อโรค และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้ ถือว่าเป็นหัวใจหลักของเครื่องกรองอากาศในยุคนี้เลยก็ว่าได้ อายุการใช้งานแผ่นกรองจะอยู่ราว ๆ 6 – 12 เดือนขึ้นอยู่กับการความถี่ใช้งาน และควรหมั่นดูแลความสะอาดนำมาปัดฝุ่น หรือเปลี่ยนใหม่ตามรอบอายุการใช้งานที่แต่ละยี่ห้อระบุไว้ในคู่มือการใช้ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการการฟอกอากาศ เช่น dyson pure cool link ที่เป็นทั้งพัดลมและเครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศ-ใช้แผ่นกรอง-HEPA

เครื่องฟอกอากาศแบบผสมผสาน Integrated Air Purifier

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้เครื่องฟอกอากาศหนึ่งตัวสามารถใช้ระบบการกรองอากาศได้หลายระบบ ซึ่งเครื่องฟอกอากาศแบบผสมผสานนี้ เป็นการประยุกต์เอาเทคโนโลยีการฟอกอากาศแบบอื่น ๆ มาผสมผสานกับการใช้แผ่นกรองเพื่อช่วยให้ฟอกอากาศมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม เช่น

  • การใช้ Negative Ionization เข้ามาช่วย

Negative Ionization คือเทคโนโลยีที่อาศัยหลักไฟฟ้าสถิตย์ ในการปล่อยประจุไอออนลบออกไปในอากาศ แล้วให้ไปจับตัวกับประจุบวกของพวกอนุภาคต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายจำพวก ฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ เชื้อรา เชื้อโรคต่าง ๆ ให้ตกลงสู่พื้น รวมไปถึงยังสามารถยับยั้งและฆ่าเชื้อไวรัสบางชนิดได้อีกด้วย เช่น เครื่องฟอกอากาศ Sharp ทุกรุ่น

วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศ ที่ใช้ Negative Ionization

  • การใช้แสง UV ในการกรองกำจัดเชื้อโรค

เป็นการอาศัยรังสีอัตราไวโอเล็ต หรือรังสี UV มาทำลายพวกเชื้อโรค แบคทีเรีย จุลินทรีย์ต่าง ๆ โดยคลื่นแสงจะทะลุทะลวงเข้าสู่ DNA ของเชื้อเหล่านั้นทำให้พวกมันตาย เช่น เครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น AC-2103 , เครื่องฟอกอากาศ Bionaire รุ่น BAP9900UV-CN , เครื่องฟอกอากาศ Sun-Pure 3in1

เครื่องฟอกอากาศ-ใช้แสง-UV-ultraviolet

เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา Portable Air Purifier

เป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก สามารถพกพาไปใช้นอกบ้านได้ เหมาะสมกับพื้นที่ ๆ ไม่กว้างมาก เช่น เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ที่ใช้ไฟจากอะแดปเตอร์ที่ต่อเข้ากับที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ เช่น Sharp รุ่น IG-DC2B , Xiaomi MiJia Car Air Purifier, Philips GoPure Slimline 230 เป็นต้น

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ เหล่านี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในรถยนต์โดยเฉพาะ มีคุณสมบัติฟอกอากาศเทียบเท่าตัวใหญ่ๆ แต่มีข้อจำกัดในเรื่องคุณสมบัติขอบเขตในการฟอกอากาศในไม่กว้างนักประมาณ 4 – 10 ตารางเมตร  แล้วด้วยขนาดที่เล็กเลยทำให้มันมีราคาไม่แพงมากเริ่มต้นที่พันนิด ๆ ไปจนถึง 20,000 บาท

เครื่องฟอกอากาศต่างกับเครื่องปรับอากาศ (แอร์) อย่างไร

ในยุคปัจจุบันเครื่องปรับอากาศ หรือที่เรียกกันติดปากว่า แอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหน้าที่หลักในการปรับอุหภูมิในอากาศให้เย็นลงตามความต้องการ และช่วยควบคุมความชื้นในอากาศได้  ส่วน “เครื่องฟอกอากาศ” เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหน้าที่หลักในการฟอกอากาศให้สะอาด แม้ว่าหลาย ๆ แบรนด์ จะใส่ระบบฟอกอากาศ Purifier System เข้าไปเป็นฟังก์ชั่นเสริมให้ จนสามารถพูดได้ว่าเราสามารถใช้แอร์ฟอกอากาศได้ อย่างไรก็ตามหากเทียบกันในเรื่องประสิทธิภาพการฟอกอากาศ ตัวเครื่องฟอกที่สร้างมาเพื่อการใช้งานอย่างเฉพาะเจาะจงจะทำงานได้ดีกว่าจ้า

วิธีการซื้อเครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศสักตัวให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถูกใจผู้ใช้ และให้พอดีกับห้องที่จะติดตั้ง มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง 5 อย่างดังนี้

1. เช็คปัญหาที่ต้องการแก้ไข (ฟังก์ชั่นการใช้งาน)

อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นว่า เครื่องฟอกอากาศแต่ประเภทแต่ละรุ่นนั้นมีความเหมาะสมต่อการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรตอบคำถามให้ได้ก่อนเลยคือ เราต้องการจะซื้อมาเพื่ออะไร และต้องการให้มันช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ ต้องการป้องกันฝุ่น กำจัดกลิ่น ฆ่าเชื้อโรค ฯลฯ

นอกจากนี้ในเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ ๆ ก็ได้เพิ่มฟังก์ชั่นเสริมอื่น ๆ ให้ทำอะไรได้มากกว่าเก่า และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น ฟีเจอร์ดักจับยุง ฟีเจอร์ลดหรือเพิ่มความชื้น ฟีเจอร์หน้าจอสัมผัส และฟีเจอร์เชื่อมต่อและควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นต้น

2. ตรวจสอบขนาดพื้นที่ของห้องที่ต้องการใช้

สิ่งสำคัญอันดับต่อมาคือเรื่องขนาดของห้อง เนื่องจากเครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่นจะมีสเปคระบุขนาดห้องที่รองรับไว้ หากห้องที่จะนำเครื่องไปติดตั้งมีพื้นที่มากกว่าสเปคที่ตัวเครื่องรองรับ จะทำให้ประสิทธิภาพการฟอกอากาศทำงานได้ไม่เต็มที่

3. งบประมาณ ราคาและความหายากของแผ่นกรองอากาศ

เครื่องฟอกอากาศที่วางขายบ้านเรา เอาแบบแบรนด์ที่มีการประกันมาตรฐาน จะมีราคาอยู่ในช่วงประมาณ 3 พัน ไปจนถึงหลายหมื่นบาท แต่มิใช่แค่ว่าซื้อเครื่องอย่างเดียวแล้วใช้ได้ไปตลอดกาล เนื่องจากชิ้นส่วนหนึ่งของเครื่องอย่าง “แผ่นกรองอากาศ” เป็นสิ่งมีอายุการใช้งานที่จำกัด ส่วนใหญ่เมื่อมันเสื่อมจะต้องซื้อใหม่ และเจ้าแผ่นกรองนี้แหละที่อาจทำให้คุณต้องเสียเงินมากขึ้น อีกทั้งแผ่นกรองอากาศที่รองรับในบางรุ่นหายากประหนึ่งแรร์ไอเทมต้องสั่งจากต่างประเทศ บวกลบค่าขนส่งดีไม่ดี ๆ ราคาอาจเท่าค่าเครื่องเลยก็ได้

4. การรับประกันและบริการหลังการขาย

ไม่ว่าจะแบรนด์ใดก็ตาม ไม่มีสินค้าใดที่ทั้งล็อตจะผลิตออกมาสมบูรณ์ 100% ทุกชิ้น และถ้าเราเกิดดวงไม่ดีเป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายที่ได้ของมีปัญหา หากมีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดี จะทำให้คุณอุ่นใจ ส่งเคลมได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องมากระวนกระวายให้เสียสุขภาพจิต โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นแบรนด์ใหญ่ ๆ จะมีศูนย์ซ่อมค่อนข้างเยอะคอยอำนวยความสะดวกกรณีเกิดปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

5.กำลังไฟ การประหยัดไฟ

เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป การเลือกซื้อจะต้องคำนึงกำลังไฟฟ้าที่จะส่งผลต่อค่าไฟ ยิ่งมีจำนวนวัตต์มาก ก็จะยิ่งกินไฟมาก ไม่ต้องถึงกับต้องมีป้ายประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะว่ากำลังไฟของเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก – กลาง จะอยู่ราว ๆ 29 – 50 วัตต์ พอ ๆ กับพัดลมตั้งโต๊ะขนาดกลาง 1 ตัว และบางรุ่นจะมีโหมดประหยัดพลังงานมาให้ด้วย

Tips : นอกจากนี้การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอาจจะต้องดูเรื่อง ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) ที่จะบอกอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ต่อ 1 นาที ยิ่งเยอะยิ่งมีประสิทธิภาพฟอกได้เร็ว มีหน่วยเป็น ลูกบาศก์เมตร/นาที หรือ ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง

ซื้อเครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 ยี่ห้อไหนดี

ในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศสักตัวให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถูกใจผู้ใช้ และให้พอดีกับห้องที่จะติดตั้ง มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง 5 อย่างดังนี้

แบรนด์เครื่องฟอกอากาศที่วางขายในตลาดมีเยอะมาก ทั้งแบรนด์จีน แบรนด์ญี่ปุ่น หรือแบรนด์ฝั่งยุโรป ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีราคา ข้อดีข้อ และเสียแตกต่างกันไป

จากการ รีวิวเครื่องฟอกอากาศ ของผู้ใช้บนเว็บไซต์ Priceza.com ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่าเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศจากยี่ห้อ sharpxiaomi, hitachi , hatari และ Toshiba ตามลำดับ

Smarthome รุ่น AP-180UV

เครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชั่นฆ่าเชื้อโรค ตัวแสงสามารถกำจัดเชื้อโรคยูวี ตัวเครื่องฟอกอากาศเหมาะสำหรับการวางไว้ที่บ้าน หรือสำนักงาน หน้าจอตัวเครื่องฟอกแสดงค่าอากาศ และระดับฝุ่นละออง 2.5 ไมครอน ตัวเครื่องฟอกไม่มีเสียงดังรบกวนเวลานอน

เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศ

Panasonic รุ่น F-GPT01A

เครื่องฟอกอากาศพานาโซนิค ระบบ nanoe™ มอบอากาศสดชื่นให้คุณ และคนในครอบครัว เครื่องฟอกอากาศมีประสิทธิภาพในการยับยั้งไวรัส และแบคทีเรีย เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่, เอสเชอริเชีย โคไล และสตาฟิโลค็อกคัส ออเรียส ได้สูงสุด 99.99%

เครื่องฟอกอากาศ

OTTO รุ่น PA-555

เครื่องฟอกอากาศที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับค่าฝุ่น และยังสามารถตรวจจับค่าอากาศอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน และยังมีไส้กรองไอออนเพื่อลดกลิ่น, แบคทีเรีย อากาศสารปนเปื้อนและกรองฝุ่นละออง PM2.5 ให้อากาศสะอาดและสดชื่น

เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศ

BWELL รุ่น CF-8400

เครื่องฟอกอากาศที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องการความอ่อนโยน โดยเฉพาะทารก เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ เพราะตัว BWELL CF-8400 เป็นเครื่องฟอกอกาศที่ไม่มีอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดฝุ่นดำ และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อปอด ตัวเครื่องสามารถตั้งเวลา เปิด-ปิด ได้ตั้งแต่ 2 – 8 ชั่วโมง

เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศ

Xiaomi Mi Air Purifier 3C

เครื่องฟอกอากาศที่เปลี่ยนอากาศภายในบ้านของคุณให้บริสุทธิ์สดชื่นเป็นมิตรต่อร่างกาย ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา สามารถกรองได้แบบ 360 องศา ตัวเครื่องสามารถเชื่อต่อผ่าน Wifi และสามารถสั่งการใช้งานผ่านโทรศัพท์ได้ และตัวเครื่องยังสามารถเข้าสู่โหมด Sleep เพื่อลดความดังของเสียงไม่รบกวนเวลานอนของคุณแน่นอน

เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศ

BWELL รุ่น CF-8005

เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ รุ่น CF-8005 เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เป็นมิตรต่อสุขภาพผู้ใช้งาน เหมาะกับห้องขนาด 10-20 ตารางเมตร สามารถกรองฝุ่น กลิ่น ก๊าซพิษ และแบคทีเรีย ใช้งานได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง

เครื่องฟอกอากาศ

Daikin รุ่น MC55UVM6

เครื่องฟอกอากาศระบบแอคทีฟพลาสม่าและสตรีมเมอร์ ฟอกอากาศทั้งภายนอกเครื่อง ด้วยเทคโนโลยีปล่อยประจุ Active Plasma Ion ซึ่งมีความเข้มข้นของประจุสูงถึง 25,000 ไอออนต่อลูกบาศก์เซนติเมตร และฟอกอากาศภายในเครื่องด้วย Streamer ยับยั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่น พร้อมฟิลเตอร์ HEPA แบบไฟฟ้าสถิต ยับยั้งฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97%

เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศ

Hitachi EP-A3000

เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองเอป้า (EPA Filter) ที่ช่วยดักฝุ่นละอองอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงช่วยจำกัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงช่วยดักจับเกสรดอกไม้หากคุณ และคนในครอบครัวแพ้เกสรดอกไม้

เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศ

Levoit Core P350 Pet

เครื่องฟอกอากาศสูตร ARC ของตัวกรองถ่านกัมมันต์ดูดซับกลิ่น และสลายกลิ่น ตัวเครื่องสามารถดูดซับกลิ่นสัตว์เลี้ยง และย่อยสลายทางเคมีเพื่อหลีกเลี่ยงมลภาวะ และยังมีเทคโนโลยี QuietKEAP รักษาระดับเสียงให้ต่ำถึง 24dB

เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศ

Hatari รุ่น HT-AP12

เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบไอโอไนเซอร์ ปล่อยประจุไอออนลบ เพื่อดักจับฝุ่นละอองในอากาศ ช่วยเพิ่มอากาศให้สดชื่น ตัวเครื่องสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคเพื่อให้อากาศในบ้านปลอดโปร่ง และสามารถควบคุมเครื่องได้ด้วยระบบสัมผัส และรีโมทคอนโทรล

เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศ

แหล่งซื้อเครื่องฟอกอากาศ

เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อเครื่องฟอกอากาศได้ที่ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือปัจจุบันเพื่อน ๆ สามารถช้อป เครื่องฟอกอากาศออนไลน์ ให้ไปส่งที่บ้านแบบสบายๆ เพียงแค่จิ้ม ๆ คลิก ๆ ไม่กี่ครั้งได้เลย แต่ช่วงนี้เครื่องฟอกอากาศเกือบทุกยี่ห้อ เกือบทุกรุ่นกำลังขาดตลาด อาจจะต้องรอผู้ผลิตกันสักหน่อยนึงเน้อ

เครื่องฟอกอากาศ เสียวหมี่ Xiaomi รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ ฟิลลิปส์ Philips รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ โตชิบ้า Toshiba รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ ชาร์ป Sharp รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ ไดสัน dyson รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ ฮิตาริ Hitari รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ ฮิตาชิ Hitachi รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ ไดกิ้น Daikin รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ อิเล็คโทรลักซ์ Elextrolux รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ บีเวลล์ Bwell รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ รีแมกซ์ Remax รีวิว
เครื่องฟอกอากาศ ไบโอแนร์ Bionaire รีวิว

ข้อควรระวัง : ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ เช่น ร้านค้า Official ต่าง ๆ หรือเลือกจากร้านค้าที่ได้รับการรีวิวจากผู้ที่ซื้อสินค้าจริงในแง่บวกเยอะ ๆ เป็นต้น

วิธีทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศ การดูแลให้มีอายุการใช้งานนานขึ้น

วิธีการดูแลทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศโดยส่วนใหญ่ เกือบทุกรุ่นทุกยี่ห้อ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การดูแลตัวเครื่อง และการทำความสะอาดแผ่นกรอง

การดูแลทำความสะอาดตัวเครื่องฟอกอากาศ

ในขั้นแรกให้ดูเรื่องตำแหน่งการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ที่ควรติดตั้งในที่ ๆ มั่นคง ไม่เสี่ยงต่อการเตะล้ม และไม่ควรติดตั้งในบริเวณที่แสงแดดส่องถึง เนื่องจากแสงแดดอาจจะทำให้สีของตัวเครื่องเปลี่ยนไปได้ จากนั้นก็เริ่มทำความสะอาดโดยปิดเครื่องและถอดปลั๊กให้เรียบร้อย แล้วหาผ้าชุบน้ำเปล่าบิดหมาด ๆ แล้วนำมาเช็ดบริเวณโดยรอบเครื่องฟอกอากาศ สายไฟ ตะแกรงดูดอากาศ

การดูแลทำความสะอาดแผ่นกรอง

แผ่นกรองอากาศของแต่ละรุ่น จะมีวิธีทำความสะอาดแตกต่างกัน ในส่วนนี้สามารถดูข้อมูลได้จากคู่มือการใช้งานของเครื่องฟอกอากาศ แต่ส่วนมากสามารถทำความสะอาดได้ด้วยการนำมาปัด หรือนำไปล้างน้ำเปล่า ซึ่งมีวิธีดังต่อไปนี้

  1. ปิดเครื่องและถอดปลั๊กให้เรียบร้อย
  2. ถอดตะแกรงของเครื่องฟอกอากาศออก
  3. แกะแผ่นกรองอากาศ / ไส้กรองอากาศ ออกมา
  4. นำไปปัดฝุ่นหรือสิ่งที่เกาะอยู่กับตัวแผ่น หรือนำไปล้างด้วยน้ำเปล่า เท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำยาหรือผลิตภัณฑ์ซักฟอกใด ๆ เพราะมันอาจทำให้ประสิทธิภาพการกรองเสื่อมลงได้
  5. นำไปผึ่งให้แห้ง แล้วนำมาประกอบกลับให้เรียบร้อย

บทสรุป

โดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่าความจำเป็นในการซื้อ เครื่องฟอกอากาศ สักตัวนั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ผู้ใช้กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งจะมีแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนซื้อมาเพราะกังวลใจเพราะตนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยฝุ่น PM 2.5 บางคนซื้อเพราะว่าอยากเอามาฟอกกลิ่นที่เป็นปัญหากวนใจ หรือผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ / ภูมิแพ้บางคนอาจจะซื้อมาไว้ลดความเสี่ยงในการกำเริบขอโรค เป็นต้นครับ ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่มลพิษในอากาศมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเป็นไปได้การมีเครื่องฟอกอากาศไว้ในบ้าน ก็จะทำให้อุ่นใจ ปลอดภัยหายใจและสะดวกกว่าการที่ไม่มีอย่างแน่นอน แล้วถ้าเป็นไปได้ไม่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณก็ควรมีติดบ้านไว้สักเครื่องครับผม

สิ่งที่มองไม่เห็น อาจไม่ได้แปลว่ามันไม่มี อากาศที่เราสูดดมเข้าไปทุกวัน เราแทบจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันสะอาดแค่ไหน มีอะไรซ่อนเร้นเป็นระเบิดเวลารอวันประทุสุขภาพของเราได้ อะไรป้องกันได้ ลดความเสี่ยงได้ ป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าการแก้ไข Priceza หวังว่าบทความนี้ จะสามารถช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศได้เหมาะสมมากขึ้นนะ