ทำไม ตู้เย็น Hitachi ถึงมีช่องฟรีซด้านบนกับล่าง และแตกต่างกันไหม

ตู้เย็น Hitachi จัดว่าเป็นหนึ่งในใจของใครหลายๆ คน มาเป็นเวลายาวนาน ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่ธรรมดา ตอบโจทย์การแช่สิ่งต่างๆ ได้ มากมายในแบบที่ไม่กินไฟ จึงทำให้หลายๆ ครอบครัว เลือกที่จะใช้ตู้เย็นจากแบรนด์นี้อย่างไม่ต้องสงสัย สำหรับใครที่กำลังจะซื้อตู้เย็นใหม่สักเครื่อง อาจจะมีความสงสัยว่าควรจะเลือกตู้เย็นจากแบรนด์ Hitachi แบบไหนดี เพราะปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบช่องแช่แข็งอยู่ด้านบน และตู้เย็นช่องแช่แข็งด้านล่าง ทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันอย่างไร และควรจะเลือกแบบไหนดี มาดูคำแนะนำกัน

ทำไมช่องแช่แข็งถึงมักตั้งอยู่บนสุดของตู้เย็น?

โดยทั่วไปแล้วไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นแบรนด์ Hitachi หรือตู้เย็นจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าไหนก็ตาม เราก็มักจะคุ้นตากับตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งที่อยู่ด้านบนกันมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นแบบ 1 ประตู หรือตู้เย็น 2 ประตูก็ตาม เหตุผลที่การดีไซน์ตู้เย็นโดยทั่วไปต้องให้ช่องแช่แข็งอยู่ด้านบนนั้น ก็เพราะว่าให้เป็นไปตามกฎธรรมชาติการเคลื่อนที่ของอากาศ เพราะปกติแล้วตามหลักกลศาสตร์การไหลของอากาศ อุณหภูมิที่ต่ำและอากาศเย็น มวลอากาศจะมีน้ำหนักมากกว่า อากาศที่อยู่ในอุณหภูมิที่สูง ทำให้อากาศเย็นหรือความเย็นมักจะไหลลงสู่เบื้องล่างเสมอ

ข้อควรรู้ : อากาศเย็นมักจะไหลลงต่ำและอากาศร้อนมักจะลอยขึ้นสูงนั่นเอง

ด้วยหลักการนี้การออกแบบช่องแช่แข็งของตู้เย็นจึงจะให้อยู่ในตำแหน่งด้านบนสุด เพื่อให้ความเย็นกระจายลงมาสู่ช่องแช่เย็นด้านล่าง ทำให้ตู้เย็นมีความเย็นที่ทั่วถึงกัน ช่องแช่ทุกสัดส่วนก็จะมีความเย็นกระจายไปทั่วๆ เป็นการลดการทำงานตัวทำความเย็น ช่วยให้ตู้เย็นไม่กินไฟมากจนเกินไปนั่นเอง

เหตุใดต้องมีตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งอยู่ด้านล่าง ตู้เย็น Hitachi Inverter

จากที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะทำให้เห็นว่าการที่ตู้เย็นแบบ 1 ประตู หรือตู้เย็น 2 ประตูทั่วไปนั้น จะมีช่องแช่แข็งอยู่ด้านบนเป็นการถูกต้องแล้ว แต่ทว่าในปัจจุบันกลับมีตู้เย็นช่องแช่แข็งด้านล่างออกมาวางจำหน่ายมากมาย หลายรุ่นก็น่าใช้แถมขายดีด้วย ทั้งๆ ที่ดูแล้วการออกแบบน่าจะไม่ถูกหลักสักเท่าไหร่ แม้แต่ตู้เย็นของ Hitachi เองก็มีหลายรุ่นเช่นกันที่มีดีไซน์ให้ช่องแช่แข็งไปอยู่ด้านล่างของตู้ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

ก็ต้องบอกว่าการดีไซน์แบบนี้มีจุดเริ่มต้นจากในประเทศฝั่งตะวันตก ทั้งในยุโรปและอเมริกา ซึ่งปกติแล้วจะมีอากาศที่เย็นกว่าทั้งฝั่งเอเชีย อีกทั้งวัฒนธรรมและอุปนิสัยของคนตะวันตก มักจะซื้อของกินของใช้ที่ละมากๆ ตุนเอาไว้ เพราะบางเมืองบางรัฐกว่าจะมาถึงร้านขายของได้ก็ต้องขับรถกันหลายกิโลเมตร ทำให้จำเป็นต้องซื้อแต่ละครั้งแบบตุนไว้ ด้วยการซื้อของจำนวนมากแบบนี้ พวกเขาจึงต้องมีตู้เย็นที่ใหญ่ไว้แช่ของ ขณะเดียวกันเมื่ออาหารของแห้งต่างๆ ต้องไปรวมกันอยู่ในตู้เย็นขนาดใหญ่ๆ ทีเดียว ก็จึงจะต้องมีการเปิด – ปิดตู้เย็นอยู่บ่อยๆ และที่ใช้ส่วนมากก็จะเป็นส่วนของช่องแช่เย็น ช่องแช่แข็งไม่ค่อยจะได้ใช้ นั่นจึงเป็นเหตุผลของการดีไซน์ ให้ช่องแช่แข็งต้องไปอยู่ข้างล่าง เพื่อความสะดวกในการใช้งานตู้เย็นนั่นเอง จะหยิบอาหารเครื่องดื่มอะไรก็ทำได้โดยไม่ต้องก้มให้ปวดหลัง ไม่ต้องนั่งยองๆ ให้เมื่อยขา

หลายคนก็คงจะสงสัยว่า เมื่อช่องแช่แข็งไปอยู่ข้างล่างแล้วตู้เย็นจะเย็นทั่วถึงได้อย่างไร แบบนี้ระบบทำความเย็นก็จะต้องทำงานหนักขึ้นน่ะสิ อันที่จริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น คุณจะสังเกตได้ว่า ตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งอยู่ด้านล่างนั้น โดยมากแล้วจะเป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ เป็นสไตล์ตะวันตกและเหมาะกับบ้านใหญ่และครอบครัวใหญ่ ซึ่งขนาดของตู้เย็นที่ใหญ่ไม่ได้มีเอาไว้เพื่อการเก็บของแช่ได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ภายในระบบกลไกทำความเย็นยังเหลือพื้นที่มากพอที่จะใส่พัดลมเล็กๆ เข้าไปด้านในด้านในตรงช่องแช่แข็งที่อยู่ด้านล่างด้วย

ข้อควรรู้ : พัดลมที่เพิ่มเข้ามานี่เองเป็นกลไกสำคัญที่ทำหน้าที่พัดความเย็นจากช่องแช่แข็งด้านล่าง ให้ความเย็นกระจายไปทั่วทั้งตู้

นั่นหมายความว่า ตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งอยู่ด้านล่างก็จะมีระบบกระจายความเย็นอย่างทั่วถึงที่ทำงานได้ดีไม่แพ้ตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งอยู่ด้านบนนั่นเอง

การดูแลและการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น

หลังจากที่เราเลือกตู้เย็นได้ตามความต้องการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบช่องแช่แข็งด้านบน หรือช่องแช่แข็งด้านล่าง แน่นอนว่าการใช้งานต้องเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยไม่มีวันหยุด การดูแลตู้เย็นเพื่อให้ยืดอายุการใช้งานนั้น ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่ควรรู้

ควรดูแลคอยล์ให้สะอาด

คอยล์ในตู้เย็น คือการควบแน่นความร้อน ที่เกิดจากคอมเพรสเซอร์ พวกสิ่งสกปรกหรือความมันที่ก่อตัวอยู่ที่ด้านนอกจะลดการเปิดรับอากาศโดยรอบ ซึ่งอาจส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานล้มเหลวได้ เพราะฉะนั้นควรทำความสะอาดคอยล์และพัดลมทุกๆ 6 เดือน โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือแปรงปัดฝุ่น อย่าลืมปิดการทำงานของตู้เย็นก่อนที่จะเริ่มทำความสะอาด

ตรวจสอบสภาพของขอบยางประตู

เชื่อว่าหลายคนน่าจะไม่ได้สนใจขอบยางตรงประตูตู้เย็นกัน รอจนกระทั่งมันเสื่อมสภาพแล้วค่อยหาเปลี่ยน 

เราควรที่จะหมั่นทำความสะอาดขอบยางประตูตู้เย็นสักปีละ 2 ครั้ง  ตรวจดูว่าตู้เย็นสามารถปิดได้แน่นสนิทหรือไม่ เพราะถ้าประตูเริ่มหลวมและปิดไม่สนิท จะส่งผลให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เย็น ควรที่จะทำการเปลี่ยนยางประตูตู้เย็นใหม่ได้แล้ว

ตั้งค่าอุณหภูมิในตู้เย็นให้เหมาะสม

ตู้เย็นส่วนใหญ่ จะมีปุ่มสำหรับตั้งค่าอุณหภูมิอยู่ด้านในสุด  เราควรตั้งค่าให้อุณหภูมิอยู่ที่ 0-4 องศาเซลเซียส ถ้าเป็นช่องแช่แข็งให้ตั้งค่าให้อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศา ปุ่มตั้งค่าอุณหภูมิในตู้เย็นส่วนใหญ่จะเป็นเบอร์ ไม่ได้บอกเป็นอุณหภูมิ ซึ่งก็อาจจะมีทั้ง 1-5 หรือ 1-9  ก็ได้ ปกติแล้วตัวเลขยิ่งสูงจะยิ่งเย็น อาจปรับให้อยู่ระดับกลางๆ ไว้ก่อน แล้วค่อยๆ หรือทดลองปรับทีละเบอร์จนได้อุณหภูมิที่พอเหมาะ ถ้าแช่ของไว้ในตู้เย็นเยอะก็ควรที่จะปรับอุณหภูมิให้ต่ำกว่าปกติ เพราะการตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยให้อาหารสดใหม่ได้นาน และไม่กินไฟมาก

ตู้เย็นจากแบรนด์ Hitachi มีจำหน่ายทั้งแบบช่องแช่แข็งด้านบนและตู้เย็นช่องแช่แข็งด้านล่างให้คุณเลือกตามความต้องการของคุณ จากข้อมูลข้างต้นคงพอที่จะทำให้คุณรู้ความแตกต่างของทั้งสองแบบแล้ว และน่าจะเป็นข้อมูลที่ดีที่ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อตู้เย็นใหม่ให้เกิดความเหมาะสมกับการใช้งานได้มากขึ้น