สร้างแบรนด์ให้แกร่งในโลกออนไลน์

หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสินค้า นอกเหนือจากคุณภาพของสินค้าแล้ว ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับการเลือกแบรนด์มากขึ้น ไม่เพียงแค่เพราะความน่าเชื่อถือของแบรนด์ แต่เนื่องจากการเลือกแบรนด์นั้น เป็นการบ่งบอกถึงตัวตนหรือรสนิยมของผู้ใช้สินค้าอีกด้วย ดังนั้น ธุรกิจที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และสามารถสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ และรักษาฐานลูกค้าเก่าได้ด้วยเช่นกัน แล้วการสร้างแบรนด์สำหรับธุรกิจออนไลน์ต้องทำอย่างไร เราควรให้ความสำคัญกับสิ่งใดบ้าง ลองติดตามดูครับ

รู้จักแบรนด์

เช่นเดียวกับธุกิจอื่นๆ การสร้างแบรนด์สำหรับธุรกิจออนไลน์ต้องเริ่มจากความเข้าใจถึงตัวตนของแบรนด์ก่อน ลองให้คุณตั้งคำนิยาม 3 คำที่จะสื่อถึงแบรนด์ จากนั้น ลองถามคำถามเดียวกันกับคนรอบข้าง เพื่อดูว่าคำตอบที่ได้มีความใกล้เคียงกันกับสิ่งที่คุณตั้งใจไว้หรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ ก็เป็นไปได้ว่า แบรนด์ของคุณอาจจะยังมีตัวตนไม่ชัดเจนนัก หรือการสื่อสารเพื่อแสดงถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์อาจจะยังไม่ได้ประสิทธิภาพเพียงพอ

รู้จักลูกค้า

การเลือกโฟกัสเฉพาะกลุ่มจะทำให้เราสื่อสารได้ตรงจุด และสามารถดึงประสิทธิภาพในการสื่อสารได้มากกว่า นอกจากนั้นแล้ว การที่เรามีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ยังทำให้ธุรกิจสามาถวางแผนการสื่อสารได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น แทนที่จะบอกว่าเป็นแบรนด์เพื่อคนหนุ่มสาวทั่วไป เราอาจจะระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจนว่า เป็นสินค้าเพื่อผู้หญิงในวัยทำงานอายุเฉลี่ย 25-30 ปีในเขตกรุงเทพ ชอบออกกำลังกาย และเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่า ลูกค้าเรานั้นอยู่ที่ไหน มีความสนใจในเรื่องใดเป็นพิเศษ จะสามารถเข้าถึงได้อย่างไร และควรจะเลือกใช้ภาษาอย่างไรในการสื่อสาร เป็นต้น

สร้างตัวตน

หน้าเพจไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือมาร์เก็ตเพลสก็คือหน้าร้านของธุรกิจออนไลน์ นอกจากการตั้งอยู่บนพื้นฐานของระบบการใช้งานที่เสถียร รวดเร็ว มีระบบการจ่ายเงินที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยแล้ว การมีเว็บไซต์ที่สวยงาม มีความน่าเชื่อถือ ยังเป็นการสื่อถึงบุคลิกของแบรนด์ได้อีกทางหนึ่งด้วย การเลือกใช้สีสันของไอคอน โลโก้ ลักษณะตัวหนังสือ รูปแบบการจัดวาง และเนื้อหาบนเพจก็จะยิ่งช่วยย้ำถึงตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

เพิ่มเติมจากการมีหน้าเว็บไซต์ การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์เพื่อสร้างความรับรู้ให้กับผู้บริโภคก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ด้วยช่องทางออนไลน์ ธุรกิจมีสื่อหลากหลายมากขึ้นในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มคอมมูนิตี้ต่างๆที่สามารถเชื่อมโยงให้ผู้บริโภคเข้ามาถึงหน้าร้านค้าของเรา การแสดงความเห็น หรืออัพเดตความเคลื่อนไหวของแบรนด์ในที่ๆกลุ่มเป้าหมายอยู่ จึงเป็นโอกาสที่จะแสดงบุคลิกของแบรนด์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น หลายแบรนด์อาจจะใช้พลังการบอกต่อผ่านบล็อกเกอร์ หรือ Influencer คนดังในโลกออนไลน์ ในรูปแบบของการรีวิวสินค้า หรือการสร้างแคมเปญให้ลูกค้ามาช่วยกันเขียนรีวิวเพื่อสร้างคอมมูนิตี้ หรือชุมชนของแบรนด์ขึ้นมา

การบริหารประสบการณ์ลูกค้า

แบรนด์คือส่วนผสมทั้งหมดที่ลูกค้ารู้สึกต่อแบรนด์ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นตัวสินค้า รูปลักษณ์ การตลาด โดยการบริหารประสบการณ์ลูกค้า คือการออกแบบการให้บริการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในทุกๆจุดสัมผัส (Touchpoint) ซึ่งหมายถึงจุดในกระบวนการที่ลูกค้ามีแนวโน้มจะติดต่อกับแบรนด์ตั้งแต่ก่อนการตัดสินใจซื้อ กระบวนการซื้อ ไปจนหลังการซื้อ เช่น ก่อนการซื้อสินค้า หากลูกค้ามีคำถามเกี่ยวกับการใช้งาน จะสามารถติดต่อใคร ผ่านช่องทางใด และธุรกิจได้เตรียมการสำหรับการให้ข้อมูลไว้อย่างไร  ยิ่งระยะหลังมานี้ กระแสของ Omnichannel ที่กำลังมาแรงมากขึ้น การสร้างประสบการณ์การซื้อของลูกค้าทั้งจากโลกออนไลน์สู่ออฟไลน์ หรือจากออฟไลน์สู่ออนไลน์จะต้องทำอย่างเหมาะสม และครอบคลุมในทุกช่องทาง ทั้งแบรนด์ยังคงต้องรักษารูปลักษณ์ของแบรนด์บนโลกทั้งสองไว้อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งกระบวนการ

ใช้เทคโนโลยี

หลายประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีผ่านโลกอินเตอร์เน็ตเพื่อช่วยเสริมสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็ง ทั้งในด้านการปฏิบัติการรายวัน เช่น การให้บริการตอบลูกค้าตลอดเวลา (24×7) ผ่านระบบการสนทนาอัตโนมัติ (Chat bot) การใช้ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นเฉพาะราย หรือการเก็บสถิติการใช้งานของลูกค้า เช่น อัตราการเข้าชม จำนวนลูกค้าที่เลือกซื้อสินค้า จำนวนลูกค้าที่ซื้อสินค้าสำเร็จ รวมถึงข้อแนะนำและคำติชมของลูกค้า เพื่อปรับปรุงการจัดการด้านการตลาด หรือปรับปรุงสินค้าและบริการที่ยังเป็นจุดอ่อนอยู่ โดยข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถนำมาใช้วิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อการวางแผนธุรกิจและกลยุทธ์ระยะยาวให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย

จะเห็นว่า การสร้างแบรนด์ของธุรกิจออนไลน์ก็มีส่วนคล้ายกับธุรกิจออฟไลน์ แต่จะมีข้อได้เปรียบด้านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถใช้เทคโนโลยีที่ทำให้ธุรกิจสามารถเก็บ และนำข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อ เพื่อวางแผนในการรักษากลุ่มลูกค้าในระยะยาวได้สะดวก และรวดเร็วกว่า

สนใจเริ่มต้นขายของออนไลน์ โดยให้ Priceza เป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษา? สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อให้เราทราบว่าคุณต้องการให้เราช่วยในด้านไหนได้เลยค่ะ