New Normal ธุรกิจท่องเที่ยวไทยหลังโควิด19 จะเป็นอย่างไร?

ณ เวลานี้ การใช้ชีวิตปกติแบบเดิมของเราได้เปลี่ยนเป็นการใช้ชีวิตปกติแบบใหม่ หรือที่เรียกว่า New Normal ที่เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากโควิด-19 มากที่สุด การปรับเปลี่ยนนี้รวมไปถึงการใช้ชีวิตทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่กิจกรรมที่ให้ความบันเทิงและความผ่อนคลายในชีวิตอย่าง การท่องเที่ยว

การระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวไทยหยุดชะงักไปนานหลายเดือน ซึ่งทำส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก ประเทศขาดรายได้มหาศาล ผู้คนตกงานมากมาย และยังไม่สามารถวางใจในการเดินทางไปไหนมาไหนได้เหมือนก่อนเกิดโรคระบาด คนไม่ออกไปเที่ยวเพราะไม่มีรายได้ อีกทั้งการเดินทางข้ามประเทศก็ยังไม่ปลอดภัยเท่าที่ควรจนกว่าจะมีมาตรการที่รัดกุม จึงทำให้การท่องเที่ยวยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน

ศูนย์วิจัยกสิกร ได้คาดการณ์ว่าในช่วงปี 2563 ที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ประเทศไทยสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวไปราว 1.69 ล้านบาท และคาดว่าสถาณการณ์การท่องเที่ยวคงฟื้นตัวได้ยาก แม้ในปี 2564 อาจจะฟื้นกลับขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็ยังไม่เป็นปกติเหมือนก่อนเกิดโรคระบาด จึงเป็นเรื่องท้าทายของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวไทยอย่างมาก ที่ต้องพาตัวเองให้รอดในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้

เทรนด์การท่องเที่ยวหลัง COVID-19

• เที่ยวใกล้บ้าน/ในประเทศ เนื่องจากพรมแดนประเทศยังไม่เปิด วัคซีนก็ยังไม่มี อีกทั้งหลายๆ ประเทศยังเกิดการระบาดของโควิด-19 อยู่ ประกอบกับการเดินทางที่ทำให้เกิดความเสี่ยง แม้คนจะอยากเที่ยวแต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็เบื่อการอยู่บ้านเต็มที ทางออกที่ดูจะปลอดภัยที่่สุดจึงเป็นการเที่ยวใกล้บ้าน ในท้องถิ่น ในจังหวัด หรือในประเทศ ไปในสถานที่ที่รู้สึกปลอดภัย อย่างน้อยก็อยู่ในบ้านตัวเอง สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องพบปะคนจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้เทรนด์การเที่ยวเมืองรองได้รับความนิยมมากขึ้น เป็นโอกาสดีของสถานประกอบการท่องเที่ยวในท้องถิ่น
• ที่พักแบบวิลล่า/รีสอร์ท จะได้รับความนิยมมากขึ้น สิ่งที่คนกังวลในการท่องเที่ยวมากที่สุดในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นการที่ต้องเจอกับคนเยอะๆ เพราะสิ่งที่ทุกคนต้องการ คือ การพบปะกับคนแปลกหน้าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ที่พักแบบบ้านแยกเดี่ยวจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ เช่น รีสอร์ท บับเบิ้ลโฮเทล รถบ้าน เพราะให้ทั้งความเป็นส่วนตัว มีระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเท ทำให้ที่พักแบบอาคารอย่างโรงแรมอาจราคาลดลง เพราะคนเบื่อที่จะอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมหลังจากกักตัวเองมานานแล้ว
• เกิดการท่องเที่ยวแบบโร้ดทริปมากขึ้น เนื่องจากการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะยังมีความเสี่ยง นักท่องเที่ยวจึงเลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวกันมากขึ้น การเที่ยวแบบโร้ดทริปจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมตามไปด้วย ประกอบกับข้อดีของโร้ดทริปที่มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนแผนการเที่ยวได้ หากสถานที่ใดคนเยอะก็เลือกไปที่อื่นได้เพราะมีรถเป็นของตัวเอง ทำให้ช่วงเวลานี้การเที่ยวแบบโร้ดทริปปลอดภัยและสร้างความสบายใจได้มากกว่า
• การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ/พื้นที่เปิด ทะเลและป่าเขาลำเนาไพร จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษหลังจากที่ผู้คนต้องกักตัวให้ห่างจากโรคระบาดด้วยการเก็บตัวในอาคารมาเป็นเวลานาน การท่องเที่ยวพร้อมกิจกรรมเดินป่า ปีนเขา ล่องเรือ เที่ยวฟาร์ม กางเต็นท์ รวมถึงที่พักใกล้ชิดธรรมชาติ จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผ่อนคลายจิตใจได้ดี
• ทัวร์กลุ่มใหญ่หลบไป ทัวร์กรุ๊ปเล็กกำลังมา บริษัททัวร์ดูเหมือนจะต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในสถาณการณ์นี้ เพราะคงยากที่จะให้คนวางใจในการเที่ยวแบบกลุ่มใหญ่ คนเยอะได้อีก ทางเลือกคือ จัดแผนการท่องเที่ยวแบบกลุ่มเล็กๆ มีระยะห่างในระหว่างการเดินทาง การพัก การเที่ยว ไม่ต้องใกล้ชิดกันมากเกินไป ซึ่งหากบริษัททัวร์สามารถทำได้ เชื่อว่าจะมีคนสนใจไม่น้อย เพราะยังมีคนที่อยากเที่ยวแต่ไม่รู้จะวางแผนอย่างไร อยากใช้บริการของบริษัทพาทัวร์อยู่อีกเยอะ

การปรับตัวธุรกิจท่องเที่ยวแบบ New Normal

• เคร่งครัดเรื่องสุขอนามัย ปัจจัยสำคัญที่สุดในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คือ การทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัยห่างไกลจากโรค เพราะฉะนั้นการรักษาสุขอนามัยจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในธุรกิจท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนส่ง สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร บริการกิจกรรมต่างๆ เพราะไม่ใช่แค่ต้องสะอาด แต่ต้องปลอดภัย ปราศจากเชื้อโควิด-19 ด้วย
• จำกัดจำนวน ลดความเสี่ยง รถโดยสาร สถานที่ท่องเที่ยว หรือที่พักจะเปิดรับนักท่องเที่ยวตามจำนวนที่ต้องการเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เพราะคนยิ่งมาก ระยะห่างยิ่งน้อย ความเสี่ยงยิ่งสูงตามไปด้วย ผู้ประกอบการต่างๆ จึงจำเป็นต้องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทาง เข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ หรือเข้าพักในปริมาณที่สามารถจัดการให้มีระยะห่างทางสังคมที่ปลอดภัย
• ใช้เทคโนโลยีช่วยลดการสัมผัส หนึ่งในการแพร่ฯและรับเชื้อโรคคือการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นคนสัมผัสคน หรือคนสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโรคปะปน ดังนั้นควรให้เกิดการสัมผัสน้อยที่สุดตั้งแต่การเดินทางไปจนถึงที่พัก ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างๆ จึงควรใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ตั้งแต่การจองออนไลน์และตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (ในปัจจุบันใช้กันมากขึ้นแล้ว), ใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาด, ใช้ระบบคำสั่งเสียงแทนการสัมผัสในห้องพัก เช่น สั่งเปิด-ปิดไฟ เครื่องเสียง หรือเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
• จับมือกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องดึงดูดนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวน้อยลง โอกาสมีรายได้ของธุรกิจท่องเที่ยวก็น้อยเช่นกัน ผู้ประกอบการอาจจะต้องหันมาพิจารณาการร่วมมือกันเพื่อให้อยู่รอด เช่น โรงแรมกับสายการบินหรือผู้ให้บริการรถโดยสาร ร่วมกันทำแพ็คเกจการเดินทาง+ที่พัก, ร้านอาหารจับมือกับที่พักทำโปรโมชั่น เป็นต้น ซึ่งบริการเป็นแพ็คเกจแบบนี้มีมานานแล้ว แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ยิ่งร่วมมือกันมากขึ้นก็จะยิ่งส่งผลดี

ในตอนนี้การท่องเที่ยวแบบ New Normal อาจใหม่สำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ แต่อย่างไรก็ต้องพยายามเพราะตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด โลกเราก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตอนนี้คือต้องให้ New Normal  กลายเป็นปกตินิสัย จนเป็น Normal

Source: Kasikorn Mgronline Thaigov Brandequity

สนใจเริ่มต้นขายของออนไลน์ โดยให้ Priceza เป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษา? สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อให้เราทราบว่าคุณต้องการให้เราช่วยในด้านไหนได้เลยค่ะ