
พฤติกรรมของผู้บริโภค (Consumer Behavior) นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจอย่างมาก ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างด้วยกัน เราจึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลและรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเป้าหมาย (Target Market) ของเราให้ลึกซึ้งขึ้น เพื่อที่จะสามารถปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินธุรกิจ กลยุทธ์ทางการตลาด ให้ตอบโจทย์ความความหวังและสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคได้มากที่สุด
เพื่อจะทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดของเราได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นเรามาอัปเดตเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภคแต่ละเจนจากข้อมูลของ TCDC ในรายงาน “เจาะเทรนด์โลก 2023” โดยเราได้สรุปเนื้อหาที่เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจ แบรนด์ หรือนักการตลาดได้ไปใช้เพื่อปรับแผนและวางกลยุทธ์ทั้งในด้านการตลาด และการบริการ ที่จะช่วยให้เข้าใจระบบนิเวศทางอารมณ์ (Emotional Ecosystem) ของแต่ละเจนที่จะสามารถสื่อสารด้วยความเข้าใจถึงสภาวะอารมณ์ที่ลึกซึ้งขึ้นตามแต่ละเจน ไปดูกันเลย!
หัวข้อแนะนำที่น่าสนใจ เลือกอ่านได้เลย
BABY BOOMER ปี 1946-1964
รุ่น Baby Boomer คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1946 ถึงประมาณปี 1964 คนกลุ่มนี้อายุอยู่ระหว่าง 59 – 77 ปี
พฤติกรรมของผู้บริโภคของชาว “เบบี้บูมเมอร์” เป็นกลุ่มที่ไม่ต้องการเกษียณอายุการทำงาน แต่การทำงานประจำไม่ได้เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้ พวกเขาหันมาสนใจอาชีพอิสระประเภท Gig Economy มากขึ้น อย่างอาชีพที่ปรึกษา งานพาร์ตไทม์ รับจ้างทั่วๆไป และใช้เวลาที่เหลือเพื่อมาค้นหาความหมายที่แท้จริงให้กับชีวิตมากขึ้น สร้างบั้นปลายชีวิตที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสร้างคอนเน็กชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์สังคม สุขภาพ และการเงิน
การใช้งานโชเชียลมีเดีย
- ใช้เพื่ออัปเดตข่าวสารสูงถึง 54% จาก Facebook, Youtube เป็นช่องทางหลัก
- TikTok เริ่มเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้มากขึ้น
- ใช้เพื่อการเรียนเพื่อเพิ่มทักษะให้เท่าทันโลก
- ใช้เพื่อสร้างคอนเน็กชั่นใหม่ๆข้ามสายอาชีพ
- ใช้เพื่อค้นพบเพื่อนเก่า และสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ๆที่ให้กำลังใจและมีความเข้าใจบริบทของคนวัยใกล้เคียงกัน
ประเภทคอนเท้นต์ที่ชื่นชอบ
- ชาวเบบี้บูมเมอร์ชอบคอนเท้นต์ประเภทวิดีโอ
- โฆษณารูปแบบวิดีโอทางช่องทางออนไลน์มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ซึ่งสามารถต่อยอดการขายได้ถึง 81% ในปี 2021
โอกาสทางธรุกิจสำหรับคนกลุ่มเบบี้บูมเมอร์
- แอปพลิเคชั่นที่มอบโอกาสในการเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ๆโดยใช้แอปฯเป็นโค้ชที่ช่วยแนะนำและพัฒนาความสัมพันธ์ได้ เช่น Lumen แอปฯออกเดตสำหรับผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป
- ทริปท่องเที่ยวที่มอบประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกเป็นอิสระและปลดปล่อยออกจากข้อจำกัดของผู้สูงอายุ หรือบทบาทความเป็นคุณปู่ คุณย่า ที่เป็นภาระหรืออุปสรรคในการท่องเที่ยว เป็นสถานที่
- คอร์สอบรมสอนทักษะการใช้สื่อออนไลน์ หลักสูตรประเภทการใช้แอปพลิเคชั่นหางานพาร์ทไทม์ แอปฯการเงิน แอปฯสอนเรื่องบริการระบบป้องกันความปลอดภัยทรัพย์สินจากมิจฉาชีพ
- เพิ่มช่องทางขายสินค้าบน Facebook เป็นหลักที่มีความน่าเชื่อถือข้อมูลครบถ้วนที่สามารถจบการซื้อขายบนแพลตฟอร์มเดียว
พฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการบนออนไลน์
- 90% ชาวเบบี้บูมเมอร์สั่งสินค้าจากร้านค้าออนไลน์
- Facebook เป็นช่องทางที่ชาวเบบี้บูมเมอร์ใช้สั่งซื้อมากที่สุด
- ชาวเบบี้บูมเมอร์จะไม่ถนัดในการสั่งซื้อที่ซับซ้อน เช่น ลิงก์เปลี่ยนหน้าไปอีกแพลตฟอร์ม หรือ ต้องสอบถามเพิ่มเติมทางอินบ๊อกซ์ หากกลุ่มเป้าหมายของคุณคือกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ จะต้องมีรายละเอียดครบถ้วนป้องกันข้อสงสัยให้กับคนกลุ่มนี้
- บริการเก็บเงินปลายทาง หรือ Cash on Delivery (COD) เป็นตัวเลือกการชำระเงินอันดับแรกของคนกลุ่มนี้
GEN X ปี 1965-1980
รุ่น Generation X คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1965 ถึงประมาณปี 1980 กลุ่มนี้อายุอยู่ระหว่าง 43 – 58 ปี
พฤติกรรมของผู้บริโภค “เจนเอ๊กซ์” เป็นเจนที่เต็มไปด้วยภาระหน้าที่ และต้องเป็นในหลายๆบทบาท จึงเป็นเจนที่ต้องเผชิญหน้ากับการรับมือแบบคู่ขนานไปพร้อมๆกัน นั่นคือหน้าที่การงานและคุณค่าของครอบครัวที่มีคุณพ่อ คุณแม่สูงวัย และลูกในวัยเรียน โดยเจนเอ๊กซ์พยายามรักษาสมดุลและควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด จึงทำให้คนกลุ่มนี้ใส่ใจดูแลตัวเองทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจควบคู่กันไป จากคำค้นหายอดนิยมพบว่า “Grit” ที่หมายถึง “พลังแห่งความพยายาม” หรือเรียกง่ายๆคือ “วิริยะ” ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือบทความคนเจนเอ็กซ์นำมาใช้ในการปลูกฝังและพัฒนาบุตรหลาน เพื่อให้เข้าใจในทัศนคติระหว่างวัยที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน
การใช้งานโชเชียลมีเดีย
- TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เจนเอ็กซ์เลือกใช้เพื่อเชื่อมต่อสมาชิกในครอบครัวสร้างคอนเท้นต์และกิจกรรมระหว่างพ่อแม่ลูกยุคใหม่
ประเภทคอนเท้นต์ที่ชื่นชอบ
- เจนเอ๊กซ์สนใจคอนเท้นต์ประเภท DIY ผลสืบเนื่องมาจากโควิดก่อนหน้านี้
- เทรนด์การดูแลผิวและเทคนิคการแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติลดขั้นตอนการดูแลผิว คอนเท้นต์ประเภทนี้เป็นที่สนใจของคนเจนเอ๊กซ์อย่างมาก เพราะโควิดที่พวกเธอไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าเต็มเพื่อพบปะกับใคร พบว่าการดูแลผิวและการแต่งหน้าที่เรียบง่าย ช่วยลดเวลาและประหยัดเงิน
- คอนเท้นต์ประเภทย้อนอดีต ที่ให้พวกเขาย้อนสู่ห้วงเวลาแห่งความทรงจำที่พวกเขาถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด
โอกาสทางธรุกิจสำหรับคนกลุ่มเจนเอ๊กซ์
- คนเจนเอ๊กซ์ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายอย่างประหยัดและลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆในการใช้จ่ายในครัวเรือน สิ่งเหล่านี้เป็นข้อพิจารณาในการซื้อสินค้าจากแบรนด์
- คนเจนเอ๊กซ์ถือเป็นเจนที่มีความภักดีต่อแบรนด์สูง เหตุผลคือแบรนด์เหล่านั้นสะท้อนความโปร่งใส เรียบง่าย สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกรวมถึงสื่อถึงความทรงจำที่งดงาม จะได้ใจคนกลุ่มนี้
- จากข้อมูลของ Airbnb พบว่าการท่องเที่ยวแบบครอบครัวหรือกับเพื่อนฝูงกำลังเพิ่มความสำคัญกว่าเท่าตัว
พฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการบนออนไลน์
- คนเจนนี้แม้ค่อนข้างระวังเรื่องการใช้จ่ายแต่เขามักจะมองหาแบรนด์ระดับพรีเมียมที่มีคุณภาพสูงหรือมีคุณค่าที่เหนือกว่า
- ราคาที่สมเหตุสมผล ระหว่างคุณภาพและราคาส่งผลให้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ พวกเขาไม่เลือกสินค้าที่ “ราคาถูก” เสมอไป ยิ่งเป็นสินค้าที่สะท้อนถึงคุณค่าอะไรบางอย่างมีผลอย่างมากต่อคนกลุ่มนี้
MILLENNIAL หรือ Generation Y ปี 1981-1995
คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1981 ถึงประมาณปี 1996 กลุ่มนี้อายุอยู่ระหว่าง 27 ถึง 42 ปี
พฤติกรรมของผู้บริโภคเจน “มิลเลนเนียล” เป็นกลุ่มที่เตรียมพร้อมเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ พร้อมความกดดันรอบด้าน เป็นช่วงที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต การเลื่อนตำแหน่งหรือการทำงานที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น รวมถึงการมีลูก และค้นพบว่าคนส่วนใหญ่จะเริ่มกลับมาค้นหาตนเองอีกครั้งในวัยนี้ พวกเขายังยึดหลัก Work Life Balance หันมาให้ความสำคัญสุขภาพกาย และเรื่องสุขภาพใจ รวมถึงเริ่มลงหลักปักฐานหรือเลือกที่อยู่อาศัยที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากขึ้น คนกลุ่มนี้มีความกลัว “วันอาทิตย์” หรือ “Sunday Scaries” พวกเขากลัวที่จะโดนตามงาน กลัวเรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบในสัปดาห์ถัดไป รวมถึงการใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่คุ้มค่ากับการพักผ่อน
การใช้งานโชเชียลมีเดีย
- คนกลุ่มนี้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี ที่แนะนำการใช้ชีวิตรวมถึงแนะนำแนวทางและบริการใหม่ๆให้พวกเขาใช้ชีวิตง่ายขึ้น ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นงาน สุขภาพ การเงิน
ประเภทคอนเท้นต์ที่ชื่นชอบ
- คอนเท้นต์ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตพื้นฐาน การกินที่ดี การนอนที่ดี เป็นต้น
- คอนเท้นต์ที่ช่วยแนะนำการดูสุขภาพ เช่นแนะนำวิตามิน อาหารเสริม
- คอนเท้นต์ประเภทวางแผนจัดการ “Productive” ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
- โปรแกรมการออกกำลังกายต่างๆ
- ความรู้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยทำให้การทำงานง่ายมากยิ่งขึ้น ทำงานน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
โอกาสทางธรุกิจสำหรับคนกลุ่มเจนมิลเลนเนียล
- ผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับสุขภาพ ทั้งอาหารเสริม วิตามิน หรือโปรแกรมออกแบบการใช้ชีวิตให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การนอน และการทำงาน
- คนกลุ่มมิลเลนเนียลหันมาดื่มเครื่องดื่ม Non-Alcohol กันมากขึ้นถึง 40% โดยเฉพาะช่วงอายุ 18-34 ปี ที่พวกเขาให้ความสำคัญของโมเม้นท์ที่ได้พบปะสังสรรค์พูดคุยกับกลุ่มเพื่อนแบบมีสติมากกว่าเมาจนหัวทิ่ม
- แบรนด์สินค้าทีมีเป้าหมายของคนกลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ความเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ แบรนด์ที่ตรงใจคนกลุ่มนี้ต้องตอบสนองการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น รวมถึงการส่งกำลังใจดีๆเพิ่มเติมเต็มบทบาทของคุณแม่กลุ่มนี้
พฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการบนออนไลน์
- เครื่องดื่มประเภท Alcohol Free เป็นสินค้าที่เหมาะกับการสังสรรค์เพื่อผ่อนคลายที่กลุ่มมิลเลนเนียลนิยมทั้งยังสะดวกสามารถสั่งแบบเดลิเวอรี่ได้ทุกที่ทุกเวลา
- คนกลุ่มมิลเลนเนียล 76% ตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมพวกเขายินดีจ่ายแพงกว่าสำหรับแบรนด์ที่ให้ความสำคัญถึงเรื่องรีไซเคิลและความยั่งยืนมาเป็นอย่างดี รวมถึงกล่องบรรจุ การจัดส่ง
GEN Z ปี 1996-2011
รุ่น Generation Z (หรือ Gen Z) คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1997 ถึงประมาณปี 2012 กลุ่มนี้อายุอยู่ระหว่าง 10 – 25 ปี
พฤติกรรมของผู้บริโภค “เจนซี” เป็นเจนแห่ง “การเรียนรู้ด้วยตัวเอง” มักหาคำตอบผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และมองว่าความรู้ที่สามารถใช้ประกอบอาชีพอย่างแท้จริงไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ในรั้วมหาวิทยาลัยเพียงเท่านั้น WGSN พบว่า 52% ของคนเจนซีมีศักยภาพเรียนรู้ “ทักษะระยะยาว” ที่สามารถเรียนเพิ่มได้ทุกเมื่อ ไม่จำกัดช่วงอายุหรือวิชาชีพ เช่นคอร์สเรียนทักษะด้านภาษา ทักษะทางสังคมการเมืองถือเป็นทักษะตลอดชีพที่ทุกคนต้องมี ที่น่าสนใจคือคนเจนซีสนใจและใฝ่ฝันในอาชีพที่สร้างรายได้บนโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น หลักสูตรออนไลน์สำหรับปั้นให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ หรือครีเอเตอร์จึงเป็นที่นิยมสูงสุดในขณะนี้ ในขณะเดียวกันพวกเขาเป็นเจนที่เริ่มหารายได้ขนานไปกับการเรียนหรือการมีหลายอาชีพ หลายทักษะ ที่เรียกว่า Polywork ไม่ยึดติดงานกับสาขาที่เรียนเน้นการสร้างรายได้และสะสมทักษะอาชีพถือเป็นเป้าหมายสำหรับการค้นหาตนเองของเจนนี้
การใช้งานโชเชียลมีเดีย
- จากสถิติของ Yplus พบว่าคนเจนซีใช้ Google ค้นหาข้อมูลที่อยากรู้สูงถึง 70% ในการค้นหาคำตอบในวิชาที่สอนในชั้นเรียน
- ในขณะที่ TikTok คนเจนซีใช้เพื่อเรียนเรื่องความรู้รอบตัว ในปี 2022 แฮชแท็กซ์ #LearnOnTikTok มีจำนวนยอดชม 228 พันล้านครั้งแซงหน้าชิงอันดับหนึ่งแย่งพื้นที่การเรียนรู้จาก Youtube มาได้
- คนเจนซีใช้งานโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ในการหารายได้ ไม่ยึดติดกับสาขาที่เรียนมาเน้นการสร้างรายได้ และเน้นสะสมทักษะอาชีพ
ประเภทคอนเท้นต์ที่ชื่นชอบ
- ความรู้เกี่ยวกับการเงิน การลงทุนครปโตเคอเรนซี จาก in-fluencer หรือผู้มีอิทธิพลทางการเงินบนโลกดิจิทัล
- คอนเท้นต์ประเภทเทคนิคการสร้างรายได้ การสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคนิคการทำเรซูเม่สำหรับสมัครงาน
- คลิปวิดีโอสอนการออกแบบการทำคอนเท้นต์บนโชเชียลมีเดียสำหรับเจนซีที่สนใจเป็นครีเอเตอร์
โอกาสทางธรุกิจสำหรับคนกลุ่มเจนซี
- จากสถิติของ Contiki ทริปดูดาวเป็นทริปที่เจนซีเลือกเป็นอันดับหนึ่งด้วยจำนวน 78% ทริปเอาต์ดอร์ 62% และทริปผจญภัยเป็นอันดับที่สาม 56%
เป็นทริปสร้างประสบการณ์ความสุขที่เรียบง่ายจากธรรมชาติ กระตุ้นการสร้างแรงบันดาลใจ - กิจกรรมหน้าร้านยังมีผลต่อยอดขายบนอีคอมเมิร์ซได้ถึง 60% เลยทีเดียว ร้านค้าออฟไลน์ที่มีคอนเท้นต์เสริมอย่างผลงานศิลปะ งานจัดแสดงกึ่งพิพิธภัณฑ์ความบันเทิง จะสามารถจูงใจให้เจนซีใช้เวลาอยู่กับสถานที่นั้นนานขึ้นได้
- เจนซีเป็นคนกลุ่มที่มีครีเอเตอร์ หรืออินฟลูเอนเซอร์มากที่สุด แบรนด์หรือเอเจนซี่สามารถเลือกอินฟลูเอนเซอร์เจนซีมาช่วยขายและขยายธุรกิจได้เพราะพวกเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
พฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการบนออนไลน์
- เจนซีกว่า 90% ตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์จากแบรนด์ที่แตกต่างจากตลาด โดยคำนึงความโปร่งใสด้านจริยธรรม และความเท่าเทียม รวมถึงการช่วยเหลือชุมชนและใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจสำคัญ
- เจนซีพร้อมจะเปลี่ยนใจจากแบรนด์ตลอดเวลา และทดลองเลือกสินค้าที่ตอบโจทย์ตนเองมากกว่า
- เรื่องราคาและโปรโมชั่นมีส่วนสำคัญน้อยกว่าการให้พวกเขามีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้
GEN ALPHA ปี 2010-2024
รุ่น Alpha (หรือ Generation Alpha) คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 2010 ถึงประมาณปี 2024 กลุ่มนี้จะอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 8 ถึง 13 ปี
พฤติกรรมของผู้บริโภคเจนอัลฟ่าในอีก 2 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนมากกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก ถือว่ามีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ถือเป็นเจนที่ 2 รองลงมาจากเจนซีซึ่งเป็นชาวดิจิทัลโดยกำเนิด มีชื่อเรียกต่างกันไป ทั้้ง UPAGERS, Generation Glass, Global Gen หรือ Multi-Modals โดยในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เจนอัลฟาได้รับการตั้งชื่อใหม่ว่าเจนซี (Gen C) ที่มาจาก Generation COVID เพราะเด็กกลุ่มนี้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่รูปแบบต่างออกไปโดยมีตัวกำหนดจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น เพราะเหตุนี้คุณค่าของครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตของคนกลุ่มนี้ และพวกเขามองว่า “ซูเปอร์ฮีโร่ที่มีอยู่จริง” นั้นคือคนในครอบครัว หรือคุณครู และเป็นเจนที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว มีความฉลาดทางอารมณ์และรับมือกับประเด็นระดับโลกที่เกิดขึ้นรอบตัวเรียกว่าโตเกินวัย
การใช้งานโชเชียลมีเดีย
- แม้เจนอัลฟ่ายังไม่มีบัญชีส่วนตัวบนโซเชียลมีเดียแต่พวกเขาเข้าถึงด้วยตัวเองได้ผ่านบัญชีของผู้ปกครอง
- เจนอัลฟ่าจะค่อนข้างอ่อนไหวในการแสดงตัวตน เพราะเหตุนี้แต่ละแพลตฟอร์มที่เขาใช้อาจจะนำเสนอตัวตนกับกลุ่มคนที่แตกต่างกัน เช่น พวกเขาอาจถ่ายทอด ความคิดลึก ๆ ของตัวเองที่จริงและตรงไปตรงมา ต่อกลุ่มเพื่อนสนิทที่เลือกไว้ ในอีกทางหนึ่งพวกเขา อาจโพสต์ภาพถ่ายที่แต่งอย่างมีสไตล์ให้ค้นทั้งโลกได้เห็น
ประเภทคอนเท้นต์ที่ชื่นชอบ
- การเรียนรู้รููปแบบใหม่ ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ที่สามารถโต้ตอบได้
- การเข้าถึงคอนเท้นต์ที่สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง
โอกาสทางธรุกิจสำหรับคนกลุ่มเจนซี
- แบรนด์ควรสร้างพื้นที่ปลอดภัย ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกัน ความเหงาและบรรเทาผลกระทบต่อพัฒนาการในระยะยาว ที่อาจเกิดขึ้น อย่างเกมออนไลน์ Roblox เปิดตัว Party Place พื้นที่เฉพาะสำหรับ จัดงานเลี้ยงวันเกิดเสมือนจริง แบรนด์ต่าง ๆ ควรค้นหาวิธีที่ช่วยสร้างกิจกรรมสนุก ๆ ที่เด็ก ๆ สามารถใช้เวลาร่วมกันทางไกลได้
- หากแบรนด์มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนเจนซีควรจะเน้นถึงคุณภาพ และใส่ใจถึงความยังยืนทางสุขภาพ รวมถึงเข้าถึงได้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย
- ที่หน้าร้านออฟไลน์ความมีกิจกรรมหรือการเสริมสร้างประสบการณ์พิเศษในการเลือกซื้อสินค้า
บทสรุป
จากช่วงโควิดที่เกิดขึ้นมาถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่า หลายเจนยอมรับและต้องการนวัตกรรมใหม่ๆที่จะมอบความสะดวกสบายให้กับพวกเขา อย่างไรก็ตามอัตราเร่งที่เร็วเกินไปทางสังคมก็สร้างความวิตกกังวลให้กับพวกเขาเช่นกัน ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราจะเห็นจากข้อมูลว่าผู้บริโภคทุกเจนหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น สิ่งที่คนทำธุรกิจควรเข้าใจ คือ ระบบนิเวศทางอารมณ์ (Emotional Ecosystem) ของผู้บริโภค ซึ่งสิ่งนี้มีผลอย่างมากที่จะช่วยในการส่งเสริมให้แบรนด์เชื่อมต่อกับผู้บริโภค ในรูปแบบที่มีความหมาย ด้านแบรนด์ ควรสร้างความเข้าใจถึงการแสดงความรู้สึกที่ซับซ้อนของผู้บริโภคผ่านอารมณ์ มากกว่าคำพูดในการสื่อสาร สิ่งนี้จะช่วยให้แบรนด์สามารถเปิดใจกับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคแบบแยกเจนเนอเรชั่นจะช่วยให้แบรนด์ค้นพบกลุ่มลูกค้าที่ต้องการและช่วยติดปีกให้กับธุรกิจได้
ขอขอบคุณข้อมูลเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคจาก “เจาะเทรนด์โลก 2023” โดย TCDC
บทความที่เกี่ยวข้อง
อัปเดตเทรนด์พฤติกรรมเลือกซื้อสินค้า ของผู้บริโภคไทย 5 เจเนอเรชั่น ปี 2023