fbpx
marketingAffiliate MarketingE-Commerce

สิ่งที่แบรนด์ต้องรู้! ก่อนทำ “Affiliate Marketing” ในปี 2023

By สิงหาคม 29, 2023 No Comments
สิ่งที่แบรนด์ต้องรู้ ก่อนทำ Affiliate Marketing ในปี 2023

“Affiliate Marketing” ตลาดแบบพันธมิตรโดยอาศัย Influencers หรือ KOLs ในการโฆษณาโปรโมทสินค้าและจ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นผลตอบแทน นับว่าไม่ใหม่สำหรับประเทศไทย และเป็นกลยุทธ์ที่หลายต่อหลายแบรนด์นำไปใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยเฉพราะธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพราะลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนกลับมามหาศาล ไม่ว่าจะเป็นทั้งยอดขาย, ลูกค้าใหม่, เพิ่มอัตราการกลับมาซื้อซ้ำ ไปจนถึง Customer Loyalty ให้ลูกค้ารักในแบรนด์ของเรามากขึ้นไปอีก

แล้วทำไมถึงมานิยมกันในตอนนี้? ธุรกิจเราควรทำไหม? ดีกว่าการตลาดรูปแบบอื่นอย่างไร? ทุกคำถามเรามีคำตอบสรุปประเด็นสำคัญจากไลฟ์ หัวข้อสิ่งที่แบรนด์ต้องรู้! ก่อนทำ “Affiliate Marketing” ในปี 2023” เติมเต็มความพร้อมการเติบโตของธุรกิจด้วย Affiliate Marketing ไปด้วยกัน โดยครั้งนี้เราได้ คุณไว ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา CEO & Co-Founder of Priceza และ Honorary President of
Thai E-Commerce Association และคุณแก้ว วัชระ นิวาตพันธุ์ Co-Founder & Chief People and Product Officer of Priceza มาให้ความรู้ในครั้งนี้

หัวข้อแนะนำที่น่าสนใจ เลือกอ่านได้เลย

เทรนด์การตลาด Affiliate สำหรับธุรกิจปี 2023
ที่แบรนด์ควรรู้และเหตุผลว่าทำไมถึงควรทำ?

ภาพรวมของ E-Commerce ประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงโควิดปี 2019 ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 140% YoY และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆจนมาถึงปีนี้ 2023 ผ่านมาครึ่งปีคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาด E-Commerce ประเทศไทยจะสูงถึง 932,000 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี

คาดการณ์มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทย 2023

ถึงแม้ว่าปีนี้ผู้คนจะออกมาใช้ชีวิตอย่างปกติแล้ว แต่การซื้อสินค้าออนไลน์ไม่ได้ลดลงเลย จะเห็นได้ว่าโควิดทำให้พฤติกรรมการใช้ออนไลน์กลายเป็นความคุ้นชินและเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของพวกเขาถึงแม้ว่าจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติก็ตาม ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2027 จะเติบโต 14% มูลค่าราวๆ 1.6 ล้านล้านบาท

จากภาพรวมของมูลค่าทั้งหมดจะเห็นได้ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังสามารถไปต่อและเติบโตขึ้นได้อีก คำถามหลักๆของผู้ประกอบการหรือนักการตลาดทำยังไงเราถึงสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างมูลค่าตรงนี้ได้

Marketing Funnel

การทำการตลาดให้สอดคล้องไปกับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึง Marketing Funnel ที่เป็นหัวใจสำคัญมากๆที่นักการตลาดควรพิจารณาตั้งแต่ต้นกระบวนการ ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ ไปจนถึง Convert กลายเป็นลูกค้า และการรักษาลูกค้าตามลำดับ ซึ่งเป็นรูปแบบ Marketing Funnel ดั้งเดิมที่นักการตลาดส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว

Fragmentation of Media

มาในปัจจุบันการทำการตลาดในยุคนี้จะเป็นรูปแบบของการแตกกระจายของสื่อ (Fragmentation of Media) ทีมีช่องทางการเข้าถึงของผู้บริโภคเกิดขึ้นหลากหลายช่องทางในยุคดิจิทัล มันจึงทำให้ช่องทางในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคก็กระจายตัวไปตามช่องทางต่างๆเช่นเดียวกัน

สิ่งที่แบรนด์ต้องรู้! ก่อนทำ “Affiliate Marketing” ในปี 2023 7

ช่องทางการรับสื่อของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลถูกแตกออกเป็นหลายแพลตฟอร์มรวมถึงแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคใช้ซื้อหรือตัดสินใจซื้อด้วยเช่นกัน

ซึ่งในส่วนของ E-Commerce ช่องทางการซื้อสินค้าของผู้บริโภคถูกแบ่งออกเป็นหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่นพวกเขาจะช้อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์ บนโซเชียลมีเดีย หรือ Application ผ่านการ Live, การดู Short VDO หรือบน Marketplace อย่าง Shopee, Lazada เป็นต้น ช่องทาง E-Commerce Marketplace เป็นช่องทางที่ผู้บริโภคซื้อสินค้ามากที่สุด สัดส่วนถึง 51% เมื่อเทียบกับปี 2021 จะอยู่เพียง 32%

สิ่งที่แบรนด์ต้องรู้! ก่อนทำ “Affiliate Marketing” ในปี 2023 8

เทรนด์การใช้สื่อ Online Digital Marketing มีการวิวัฒนาการมาหลายรูปแบบที่จะช่วยทำให้ธรุกิจเติบโตได้ ในช่วงแรกๆเราจะเน้นไปที่ Google Search, SEO จนมาถึง Social Media ในยุคแรกๆจะเป็น Facebook ตามมาด้วยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ instragram, Twitter, Youtube เป็นต้น คนส่วนใหญ่แบ่งเวลามาจากเว็บไซด์มาใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียด้วย จะเห็นว่ามีช่องทางมากมายให้ผู้บริโภคเข้าถึง คำถามสำคัญของนักการตลาดคือจะทำอย่างไรที่จะดึงให้ผู้บริโภคมาใช้เวลาบนแพลตฟอร์มเรามากที่สุด หรือเกิดการซื้อซ้ำ Loyalty ในแบรนด์ของเราจึงนำไปสู่การใช้ CRM เพื่อปรับทุกอย่างให้ Personalized มากขึ้นเพื่อจะได้มอบสิ่งที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น สร้างอัตราการซื้อซ้ำให้เพื่มสูงขึ้น

จนมาปัจจุบัน Influencer Marketing ผู้ทรงอิทธิพลที่มีฐานผู้ติดตามเยอะๆ เรากำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญอีกครั้ง นั่นคือการเปลี่ยนผ่านการทำ Influencer Marketing ไปสู่การทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing

สิ่งที่แบรนด์ต้องรู้! ก่อนทำ “Affiliate Marketing” ในปี 2023 9

ตัวผลักดันที่ทำให้ influencer Marketing มาเข้าสู่ยุค Affiliate Marketing นั่นก็คือครีเอเตอร์ (Thai Creator Nation) จากข้อมูลของ Nielsen พบว่าคนไทยกว่า 2 ล้านคนเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในปี 2023 จำนวนดังกล่าวมาจากทุกแพลตฟอร์มบนโซเชียลมีเดียเมื่อเทียบกับประเทศอินโดนีเซียที่มีประชากรเยอะกว่าไทยหลายเท่ากลับมีอินฟลูเอนเซอร์น้อยกว่าประเทศไทย ทำไมยุคนี้ถึงเรียกว่าเป็นยุคแห่งครีเอเตอร์นั่นเพราะว่า คนธรรมดาทั่วไปสามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ง่ายมากขึ้นด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้ง่ายกับพฤติกรรมชอบถ่าย ชอบแชร์ ชอบรีวิว จึงเกิดนาโนอินฟลูเอนเซอร์ขึ้นมากมายในปัจจุบัน เรียกว่าประเทศไทยเป็นประเทศแห่งครีเอเตอร์เลยก็ว่าได้

เหตุผลว่าทำไมผู้บริโภคถึงชอบติดตามอินฟลูเอนเซอร์คือชอบในความเรียลและเข้าถึงได้ง่ายกว่า

The Age Of Authenticity

คนไทยกว่า 75% เชื่อถือรีวิวที่อยู่บนโลกออนไลน์ และไม่เพียงแค่มองว่าข้อมูลรีวิวที่อยู่บนโลกออนไลน์น่าเชื่อถือ 76% ของคนไทยยังยอมรับว่า เคยซื้อสินค้าตามที่อินฟลูเอนเซอร์ได้รีวิว เราจึงอยู่ในยุคของ The Age of Authencity

Brand Also Can be a Creator

นอกจากใครๆเป็นครีเอเตอร์ได้แล้ว Brands เองก็หันมาเป็นครีเอเตอร์เองเช่นเดียวกัน ที่พยายามลดช่องว่างและเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น อย่าง Priceza เอง ทีมของเราก็มีทำช่องสำหรับสร้างคอนเท้นต์ให้ความรู้เกี่ยวกับประกันรถยนต์ นั่นก็คือ Priceza Money ทั้งทาง Facebook , Youtube, TikTok  โดยสรุปแล้วเราอยู่ในยุค Creator Economy ใครๆก็สามารถเป็นครีเอเอตร์ได้ สื่อดิจิทัลกระจายไปในหลากหลายช่องทางและตัวที่ขับเคลื่อนให้สื่อถูกกระจายตามไปนั่นคือครีเอเตอร์นั่นเอง

และหนึ่งในเทรนด์การตลาดยุค Creator Economy ซึ่งเปลี่ยนผ่านจาก influencer Marketing นั่นก็คือ Affiliate Marketing หรือการตลาดแบบพันธมิตรนั่นเอง

สร้างโอกาสเพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์ 3 Win จาก Affiliate Marketing

Affiliate Marketing คืออะไร แอฟฟิลิเอท มาร์เก็ตติ้ง คือ การตลาดออนไลน์รูปแบบหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจหรือแบรนด์จะใช้ตัวแทนช่วยขาย ซึ่งจะเป็นบุคคลทั่วไปหรือ Influencer ก็ได้ มาโปรโมตสินค้า/บริการ ผ่านช่องทางของตัวเอง และส่งลูกค้ามาหาแบรนด์ผ่านลิงก์หรือโค้ดที่แบรนด์สร้างให้โดยเฉพาะ การจ่ายค่าตอบแทนจะเป็นรูปของ Commission ซึ่งทางเจ้าของธุรกิจหรือแบรนด์จะจ่ายให้กับตัวแทนตามเงื่อนไขที่กำหนด

รูปแบบการจ่ายค่าตอบแทน ของการทำ Affiliate Markteting ส่วนใหญ่จะเป็นยอดขาย CPS (Cost Per Sales) ที่ตัวแทนหรือนายหน้าคนนั้นทำได้ แต่สำหรับบางธุรกิจรูปแบบค่า Commission จะเป็นรูปแบบอื่นเช่น การหา Lead ใหม่ๆ หรือหาคนมาดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทั้งนี้แล้วแต่จะปรับให้เหมาะสมรูปแบบธุรกิจ

Affiliate Marketing

องค์ประกอบของ Affiliate Marketing 

Win 1  Brands/Advertiser = มีสินค้าหรือบริการ
Win 2 Creator/Publisher = มีฐานผู้ชม,ผู้ติดตาม
Win 3 Customers = ต้องการข้อมูลรีวิวสินค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ

เมื่อแบรนด์ทำงานกับ Creator หรือ Publisher ให้พวกเขาได้รับประสบการณ์ในสินค้าหรือบริการนั้นๆ และมีอิสระในการบอกเล่าประสบการณ์ในการใช้จริงสู่ฐานผู้ติดตามของพวกเขาแบบตรงไปตรงมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือความสวยงามของการทำ Affiliate Marketing เพราะเบรนด์สามารถเจรจาขอตกลงร่วมกันว่าหากผู้ติดตามเข้ามาชมหรือซื้อสินค้าบริการที่ครีเอเตอร์รีวิวได้ ทางแบรนด์ยินดีที่จะมอบค่าตอบแทนในรูปแบบ Commission ให้ แบรนด์ก็จะได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นครีเอเตอร์ก็จะได้ค่าตอบแทน ในมุมกลับกันหากอินฟลูเอนเซอร์ทำรีวิวแล้วลูกค้ายังรู้สึกว่าสินค้าหรือบริการยังไม่เหมาะกับพวกเขา พวกเขายังไม่ต้องการซื้อในขณะนี้ แบรนด์ก็ไม่จำเป็นต้องค่าตอบแทน แต่ทางอินฟลูเอนเซอร์หรือ Publisher ก็มีคอนเท้นต์เป็นของตัวเองอยู่บนช่องทางของพวกเขา ส่วนผู้บริโภคและลูกค้าเองก็สามารถได้ข้อมูลรีวิวทั้งผลดีผลเสีย ข้อพิจารณาต่างๆที่พวกเขาสามารถนำมาประกอบการตัดสินใจซื้อได้อีกด้วย แบบนี้จึงเรียกว่าหัวใจสำคัญของ Affiliate Marketing ที่ประกอบด้วย 3  Win ด้วยกันนั่นคือ Win ทั้งฝั่งแบรนด์, Win ทั้งฝั่ง Creator/Publisher และ Win ทั้งฝั่ง Customer

ทำไม Affiliate Marketing ถึงเวิร์คมากขึ้นเรื่อยๆสำหรับแบรนด์/ธุรกิจในยุคนี้

สาเหตุเพราะว่าแพลตฟอร์มสามารถที่ช่วยเอื้ออำนวยให้คนทั้ง 3 กลุ่มนี้มาพบกันได้ง่ายขึ้น  Creator/Publisher มีแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างเช่น Social Media ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นคนที่เป็นแบรนด์

นักการตลาด Digital ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าค่าโฆษณาแพงเวลาเราจะโฆษณาเราจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม Advertising , Digital Media ต่างๆ หลายๆแพลตฟอร์มจะเก็บค่าโฆษณาในรูปแบบ CPC (cost per click), CPM (cost per impressions) หรือจะเป็น Fixed Rate แบบเจาะจงลงไป แต่ ไม่ได้การันตรีว่าคุณจะสามารถขายสินค้าได้ กลับกันการทำ Affiliate Marketing เมื่อมีการเกิดยอดขายขึ้นหรือมีการเจนลีดได้ถึงมีการจ่ายค่าตอบแทน อีกทั้งอินฟลูเอนเซอร์หรือครีเอเตอร์เองก็เปิดรับโมเดลนี้มากยิ่งขึ้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไม Affiliate Marketing จึงเป็นที่สนใจสำหรับธุรกิจในยุคนี้

เริ่มต้นทำ Affiliate Marketing ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร?

หัวใจของการทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing คือเราต้องถอดหมวกในฐานะของเจ้าธุรกิจออก หากคุณกำลังทำ Ad เพื่อโฆษณาคุณต้องถอดหมวกในฐานะนักยิงแอดโฆษณา หากเรายังสวมหมวกในฐานะคนยิงแอดโฆษณาคุณจะมี Mindset ที่จะใส่งบโฆษณาลงไป เพื่อบิ้วท์และย้ำให้พวกเขาเห็นแอดของคุณเยอะๆ เพื่อให้ลูกค้าที่เห็นโฆษณาของคุณซื้อ ซึ่งมันจะแตกต่างจากหัวใจของการทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing มันคือศิลปะของการสร้างความสัมพันธ์เพราะในยุคนี้ Publisher หรือ Creator มีอิทธิพลเป็นอย่างมากนั่นเพราะพวกเขามีความเป็นมนุษย์ที่จับต้องได้

Partnership Management

แบรนด์ควรทำอย่างไรที่จะเข้าไปมีปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าได้มากขึ้น

และสามารถเชิญชวนให้ลูกค้ามาเปิดใจทดลองซื้อสินค้าหรือบริการของแบรนด์ได้ คำตอบก็คือ ใช้พลังของอินฟลูเอนเซอร์หรือครีเอเตอร์ผ่านการส่งต่อคุณค่าแบบตรงไปตรงมา ด้วยความเรียลที่ชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียด้วยความจริงใจนั่นเอง

แล้วแบรนด์จะทำอย่างไรให้ Publisher หรือ Creator สนใจสินค้าและรีวิวให้โดยไม่ต้องจ้าง
และเมื่อได้ทดลงลองแล้วสามารถทำให้พวกเขาเห็นถึงคุณค่าของแบรนด์จากสินค้า/บริการจนพวกเขารักแบรนด์มาก มากจนถึงขั้นอยากที่จะบอกต่อ อยากที่จะส่งคุณค่าให้กับเพื่อนๆหรือผู้ติดตาม เมื่อแบรนด์สามารถที่จะเปิดใจให้กับครีเอเตอร์ได้ ครีเอเตอร์จะเป็นประตูไปสู่ฐานผู้ติดตามของพวกเขาซึ่งจะเป็นลูกค้าของคุณได้ในที่สุด

Affiliate Marketing สามารถนำไปใช้กับทุกธุรกิจได้หรือไม่

เราสามารปรับใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ Affiliate ได้กับธุรกิจจากสถิติของ influencer marketing hub ที่ได้รวบรวมธุรกิจที่ทำ Affiliate Marketing ในสหรัฐอเมริกา พบว่า 44% เป็นธุรกิจ Brand Retial ที่หันมาทำการตลาดแบบ Affiliate มากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ถัดมา 25% เป็น Telecom & Media ที่ขายบริการเกี่ยวกับ Prepaid บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ หรือทาง Media ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการเชิ้อเชิญให้คนให้เล่นเกม, เติมเงินหรือดาว์นโหลดเกม อันดับที่ 3 ธุรกิจที่มีการใช้ Affiliate Marketing เข้าไปทำการตลาดก็คือ Travel & Leisue คือการจองห้องพัก จองตั๋วเครื่องบิน จองทัวร์เป็นต้น และยังมีธุรกิจอื่นๆที่อยู่ในกลุ่ม 15% อาทิเช่น dealer รถยนต์ ชวนให้คนไปทดลองขับ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ชวนคนไปซื้อบ้านเป็นต้น ดังนั้นเราจะเป็นว่า Affiliate Marketing สามารถที่จะใช้ได้กับทุกธุรกิจทั้งสินค้าและบริการ

Affiliate Marketing สามารถใช้ได้กับทุกธุรกิจ

รูปแบบการจ่ายเงินของ Affiliate Marketing ที่แตกต่างไปตามประเภทธุรกิจ

โดยทั่วไปรูปแบบรายได้หรือการจ่ายเงินของ Affiliate Marketing ขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจหรือเป้าหมายการตลาดที่แบรนด์กำหนด ซึ่งวันนี้ขอยกตัวอย่าง Affiliate Payout Models ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปขณะนี้

Affiliate Payout Models

  1. Cost Per Sales (CPS)
    ก็คือ การจ่ายค่าตอบแทนต่อเมื่อสินค้าขายได้ โดยเจ้าของสินค้าหรือแบรนด์จะจ่ายค่าตอบแทนให้เป็นค่าคอมมิชชั่นกับผู้ที่ขายสินค้าได้
  2. Cost Per Leads (CPL)
    จะอยู่ในลักษณะจ่ายค่าตอบแทนจากรายชื่อ อย่างเช่น  CPL 800 บาท แปลว่าถ้าหาก Publisher นั้นสามารถทำให้เกิดรายชื่อเข้าระบบได้ 1 คนจะได้ค่าตอบแทน 800 บาทต่อรายชื่อ อย่างเช่นบริษัทประกันเมื่อมีลูกค้ามากรอกรายชื่อแล้ว เราก็ส่งข้อมูลไปให้ทางบริษัทประกัน ซึ่งเค้าอาจจะยังไม่ซื้อสินค้าประกันก็ได้ เราก็จะได้ค่า Commission เป็นต้น
  3. Cost Per Acquisition (CPA)
    คือ การคำนวณต้นทุนต่อ Action ที่เกิดขึ้นจากโฆษณา จะจ่ายค่าตอบแทนจาก Action ต่อ 1 ครั้ง เช่น แบรนด์กำหนด CPA 1,000 บาท เมื่อเกิดการซื้อสินค้า 1 ครั้ง แบรนด์จะจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้โปรโมท 1,000 บาทต่อ 1 Action เป็นต้น
  4. Cost Per Install (CPI)
    หมายถึงการคิดค่าโฆษณาต่อการติดตั้งแอปพลิเคชัน หรือเมื่อใช้กับ Affiliate Marketing ก็จะเป็นการจ่ายค่าตอบแทนต่อเมื่อมียอดการดาว์นโหลดแอปฯต่อ 1 ครั้ง เช่น iOS app ค่าโฆษณาหรือการโปรโมตต่อการติดตั้ง 1 ครั้งคือ CPI Globally — $1.24 หรือประมาณ 38 บาท

3 ข้อพิจารณาก่อนเริ่มต้นทำ Affiliate Marketing ง่ายๆสำหรับแบรนด์

เริ่มแรกแบรนด์หรือธุรกิจจะต้องกำหนดเป้าหมายทางการตลาดที่ต้องการจะทำ ว่าเราทำเพื่อวัตถุประสงค์ใด เช่น ต้องการเพิ่มยอดขาย ต้องการเพิ่มยอดคลิก CTR (Click Through Rate) เข้าชมสินค้า ต้องการยอด Lead ผู้สมัคร หรือต้องการให้เข้ามาที่หน้าร้านหรือสาขาเพื่อให้เซลล์ปิดการขาย เมื่อกำหนดเป้าหมายทางการตลาดได้เรียบร้อยแล้วต่อไปเราก็เริ่มเข้าสู่ 3 ขั้นตอนหรือข้อพิจารณาก่อนแบรนด์เริ่มทำ Affiliate Marketing กัน

1.Design the Commission Structure

เมื่อแบรนด์หรือธุรกิจอยากเริ่มที่จะทำการตลาดแบบ Affiliate แล้ว ก่อนอื่นเลยเราควรวางแผนว่าจะดีไซน์ Commission Structure อย่างไรที่จะสามารถดึงดูดเหล่า Creators หรือ Affiliater ให้สนใจอยากมาโปรโมตให้กับเรา จากนั้นมาสำรวจแบรนด์ของเราว่า เรามี Margin อยู่เท่าไหร่ มีราคาสินค้าอยู่ที่เท่าไหร่ จากนั้นเรามาลองดูว่าจะตั้งเปอร์เซนต์ค่าคอมมิชชั่นอย่างไรดี หากพบว่าแบรนด์ของเรามีสินค้าราคาที่สูงเราอาจจะให้ส่วนแบ่งค่า Commission ในเปอร์เซนต์ที่น้อยๆได้เช่น สินค้าของเราคือ Notebook ราคา 50,000 บาท เราอาจจะตั้งค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 1% หากเทียบเป็นเงินก็จะได้ 500 บาทต่อ 1 ออเดอร์ แต่หากสินค้าเรามีราคาไม่สูงมากนัก เช่น ปลากระป๋อง ราคากระป๋องหลักสิบบาทเราให้ค่าคอมมิชชั่น 1% ก็อาจจะไม่ดึงดูดให้ Creator หรือ Affiliater มาช่วยเราโปรโมตได้ การดีไซน์ Structure ของเราขึ้นอยู่กับกำไรที่เราจะได้ด้วย หรือเราอาจจะมีดีไซน์แบบ On Top ที่จ่ายค่าตอบแทนเป็นเงิน หรืออาจเป็นรางวัลที่ให้เพิ่มขึ้นเมื่อทำได้ในเป้าที่เรากำหนดไว้ให้กับ Creators หรือ Affiliater

Easy Step to start affiliate marketing for brand

2.Pick the right tracking tools

การเลือกแพลตฟอร์มตัวกลางที่จะช่วยเราจัดการข้อมูลที่ยุ่งยาก เช่นการ Tracking ยอดขายจาก Creators หรือ Affiliater คนไหนสามารถขายสินค้าของเราได้บ้าง ขายไปได้กี่ออเดอร์ ต้องจ่ายค่า Commission เท่าไหร่ การมีแพลตฟอร์มจัดการจะช่วยให้เราลดความยุ่งยากและเป็นประโยชน์อย่างมากในการวัดผลแคมเปญ

3.Selecting Influencer

เราต้องเลือกครีเอเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Influencer, KOLS หรือ Affiliater จะต้องเลือกโดยคำนึงถึงความเหมาะสมและคาดว่ามีฐานกลุ่มเป้าหมายที่น่าจะตรงกับกลุ่มลูกค้าของเรา การเลือกครีเอเตอร์ที่เหมาะสมนอกจากจะช่วยผลักดันให้สู่เป้าหมายการตลาดแล้ว คอนเท้นต์ที่พวกเขาทำเราสามารถขยายผลบนช่องทางของแบรนด์ต่อได้ รวมถึงคอนเท้นต์ที่มีข้อมูลของสินค้า/บริการของเราจะง่ายต่อการสืบค้นของลูกค้าได้

ข้อควรระวังสำหรับแบรนด์ก่อนเริ่มทำ Affiliate Marketing

Affiliate Marketing เป็นการตลาดที่ต้องพึ่งคนกลางก็คือเหล่าครีเอเตอร์ Influencer, KOLS หรือ Affiliater เท่านั้น หากเลือกผิดไม่เพียงแค่เสียเวลาในการวางแผนเริ่มต้นใหม่ และต้องใช้เวลาในการวัดผลอย่างน้อย 2-3 เดือน หากเลือก Influencer, KOLS หรือ Affiliater ที่ไม่รีวิวแบบตรงไปตรงมาไม่เคยทดลองใช้ผลิตภัณฑ์อาจจะรีวิวไม่ตรงตามความเป็นจริงส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของตัวครีเอเตอร์เองแต่จะส่งผลต่อแบรนด์ในระยะยาวในเรื่องของความโปร่งใสซื่อสัตย์จริงใจต่อลูกค้าซึ่งข้อนี้แบรนด์ควรระวังเป็นอย่างมาก

แนะนำแพลตฟอร์มที่ช่วยคุณทำการตลาด Affiliate Marketing

Priceza เราเป็น E-Commerce Tech Company เรามี Platform Price Comparison ที่ทำหน้าที่เป็น Search engine ที่รวบรวมสินค้าต่างๆบนช่องทาง E-Commerce บนช่องทาง Marketplace ช่องทาง Retail,Brand ต่างๆ ทำให้ Priceza เรามีประสบการณ์การทำงานในแวดวงธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเรามี Big Data ที่สามารถช่วยให้แบรนด์ต่อยอดทางการตลาดได้หลากหลายตามวัตถุประสงค์ที่แบรนด์กำหนด

ทำให้วันนี้เรามีแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Shopfluence ที่ช่วยจัดการข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์ให้เป็นระบบ ทำให้เข้าถึงได้ง่ายและเป็นประโยชน์สำหรับแบรนด์ สอดคล้องกับการใช้กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นผลงาน หรือ performance-based marketing การ Optimized แก้ไขปัญหาการวัดผลที่สำคัญเหล่านี้จำต้องอาศัยความสามารถด้าน AI และแมชีนเลิร์นนิงเข้ามาช่วย

Affiliate Marketing Design Affiliate Scheme

Shopfuence จะช่วยคุณดีไซน์ได้ว่าการทำ Affiliate Marketing ของคุณจะจ่ายผลตอบแทนอย่างไรดี ระบบจะแนะนำ Commission Structure ที่เหมาะสมให้กับแบรนด์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการคิดเงินค่า Commission  และชำระเงิน รวมถึงรวบรวมรายละเอียดของการชำระเงินจากช่องทางต่างๆ ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว และมีระบบที่ช่วยช่วยคัดกรองเหล่าครีเอเตอร์ Influencer, KOLS ที่เหมาะสมกับสินค้าของแบรนด์คุณ จะแสดงผลบนแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย อีกทั้งยังสามารถวัดผลและแสดงให้เห็นทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นบน Social Media Platform และ E-Commerce Marketplace ของ Influencer, KOLS คนนั้นๆ ว่าเข้าร่วมแคมเปญอะไรบ้าง และเกิดยอดขายเท่าไหร่ ซึ่งจะแสดงถึงคุณภาพของอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้เกิดการจ้างงานที่มีประสิทธิภาพ

Affiliate Marketing Commission Structure

Shopfluence ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการบริหารการทำงานกับ Influencers แบบครบลูปตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ Commission Structure การหาครีเอเตอร์ Influencer, KOLS ที่มีคุณภาพมาช่วยเราโปรโมตและขายสินค้า การสรุปผลการทำการตลาด และการจ่ายค่าตอบแทน รวมศูนย์ไว้ทั้งหมดช่วยให้คุณบริหารจัดการแคมเปญ Affiliate ของคุณได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สรุป

ยุคนี้คือยุคของครีเอเตอร์ ใครๆก็สามารถเป็นครีเอเตอร์ได้ แบรนด์ควรสร้างความสัมพันธ์อันดีกับและมองหาครีเอเตอร์ Publisher, Influencer, KOLS ที่ใช่ เมื่อแบรนด์สามารถที่จะเปิดใจครีเอเตอร์ได้ ครีเอเตอร์จะเป็นประตูไปสู่ฐานผู้ติดตามของพวกเขาซึ่งจะเป็นลูกค้าของคุณได้ในอนาคต

สำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ที่อยากทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing เมื่อเรามีความพร้อมทั้งทางด้านสินค้า/บริการ และกำหนดเป้าหมายการตลาดให้กับสินค้าของเราได้แล้ว จากนั้นเราควรเลือกพาร์ทเนอร์ที่จะเข้ามาช่วยเราขายสินค้า นั่นก็คือเหล่าครีเอเตอร์ Publisher, Influencer, KOLS ที่จะมาเป็น Affiliater ให้กับสินค้าของเรา โดยพิจารณาจากคุณสมบัติที่ดี มีความเชื่อถือสูง มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตามและผู้ติดตามของพวกเขามีแนวโน้มจะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้ ถึงแม้ Affiliate Marketing จะเป็นการทำการตลาดที่ลงทุนไม่สูงแต่ก็มีความเสี่ยงหากเลือก Publisher, Influencer, KOLS ที่ไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากส่งผลเสียต่อการทำตลาดแล้ว อาจจะทำให้ส่งผลเลวร้ายที่สุด นั่นก็คือภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ไม่ดีต่อลูกค้าได้ ดังนั้นทางเลือกสำหรับผู้เริ่มต้น หรือต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ การใช้บริการ Affiliate Marketing Service อาจจะตอบโจทย์และเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งให้กับธุรกิจหรือแบรนด์ได้

ปุ่มดาวน์โหลดสไลด์

 


 

 

Pricezter

Author Pricezter

More posts by Pricezter

รับคูปองส่วนลด

กรอกข้อมูลเพื่อรับส่วนลดในการเข้าเรียน