fbpx
BusinessE-Commerce

EIC คาดการณ์ส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองทั่วโลก

By กรกฎาคม 13, 2020 No Comments
ส่งออก

การระบาดของ โควิด-19 ที่ส่งผลให้ต้องปิดเมืองไปจนถึงปิดประเทศทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำจนถึงขั้นวิกฤต หุ้นร่วงระนาว การส่งออกหดตัวในระดับสูงมากทั่วโลก การค้าขายไม่ว่าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็เจ็บปวดด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะหลังจากที่หลายประเทศเริ่มมีมาตรการล็อคดาวน์และเข้มงวดมากขึ้นหลังจากที่พบว่าการระบาดของโควิด-19 เริ่มรุนแรงในช่วงเดือนเมษายนจนถึงพฤษภาคม

แต่พอมาในช่วงเดือนมิถุนายน ประเทศต่างๆ ได้เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น เราจึงมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ในเร็ววัน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ได้คาดการณ์ว่าหลังจากนี้การส่งออกน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นเนื่องจากหลายประเทศได้ผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ลงบ้างแล้ว ต่อไปนี้คือการวิเคราะห์การส่งออกที่ผ่านมาในช่วงการระบาดหนักของโควิด-19 และแนวโน้มในการฟื้นตัวของการส่งออกหลังจากผ่านพ้นวิกฤติ

การส่งออกในเดือนพฤษภาคม 2020

การส่งออกรวมในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2020 รวมอาวุธและทองคำ พบมีการหดตัวลงถึง -3.7%YOY แต่หากหักมูลค่าการส่งอาวุธและทองคำไปจะหดตัวถึง -9.2%YOY ช่วงที่มีการหดตัวของการส่งออกมากที่สุด คือ เดือนพฤษภาคม 2020 สูงถึง -22.5%YOY (รวมทองคำ) และหากหักทองคำออกไป การส่งออกจะหดตัวเป็น -27.8%YOY สูงสุดในรอบเกือบ 11 ปี นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2009

การส่งออกรายสินค้า

รถยนต์และส่วนประกอบ เนื่องจากชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกก่อนหน้านี้ ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 ทำให้การส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบหดตัวลงถึง -62.6%YOY
สินค้าอุตสาหกรรม หดตัวสูงถึง -34.9%YOY โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เม็ดพลาสติก , เคมีภัณฑ์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เหล็กและผลิตภัณฑ์, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และ น้ำมันสำเร็จรูปที่หดตัวตามราคาน้ำมันดิบ
สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร มีการขยายตัวเมื่อเดือนเมษายนที่ 5.8%YOY และกลับหดตัวสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ -10.3%YOY โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และน้ำตาลทราย
สินค้าเกษตร มีสินค้าขยายตัวได้ดีที่ 14.1%YOY ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง, ผลไม้สดแช่แข็งและแห้ง, และสุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง แต่ก็มีสินค้าบางประเภทที่ยังหดตัว ได้แก่ ยางพารา และ ข้าว
ทองคำ ยังขยายตัวต่อเนื่องสูงถึง 735.1%YOY โดยมีตลาดสำคัญคือ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และสิงคโปร์

การส่งออกรายตลาด

ตลาดจีน การส่งออกไปจีนขยายตัวมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ 9.0%YOY และยังขยายอย่างต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคมที่ 15.3%YOY โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ ผลไม้สดแช่แข็งและแห้ง และผลิตภัณฑ์ยาง
ตลาดสหรัฐฯ หลังจากที่ขยายตัวในเดือนเมษายน การส่งออกในตลาดสหรัฐก็กลับมาหดตัวสูงถึง -17.3%YOY โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ
ตลาดญี่ปุ่น ขยายตัวที่ 9.9%YOY ในเดือนเมษายน และหดตัวสูงขึ้นที่ -24.2%YOY ในเดือนพฤษภาคม โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ตลาดอาเซียน 5 (ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์) กลับมาหดตัวที่ -27.9%YOY หลังจากขยายตัว 13.0%YOY ในเดือนเมษายน โดยสินค้าหลักที่หดตัว คือ อัญมณีและเครื่องประดับ กับ อากาศยานและส่วนประกอบ
ตลาดสหภาพยุโรป15 หดตัวต่อเนื่องในอัตราเร่งเป็นเดือนที่ 3 ที่ -40.0%YOY สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ, เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ, และ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ
ตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) หดตัวสูงในเดือนเมษายนที่ -31.0%YOY และต่อเนื่องมาถึงเดือนพฤษภาคมที่ -28.0%YOY โดยสินค้าที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ, น้ำมันสำเร็จรูป และเคมีภัณฑ์
ตลาดตะวันออกกลาง หดตัวในอัตราเร่งสูงถึง -30.6%YOY โดยสินค้าหลักที่หดตัวคือ รถยนต์และส่วนประกอบ, เคมีภัณฑ์, และ อัญมณีและเครื่องประดับ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคส่งออก

แม้ว่าการส่งออกจะมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ EIC คาดว่าการฟื้นตัวจะไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่จะเป็นไปอย่างช้า ๆ เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงที่ยังกดดันภาคส่งออกอยู่ ได้แก่

เศรษฐกิจโลกซบเซา ถึงแม้มาตรการปิดเมืองจะเริ่มผ่อนคลายและการส่งออกมีโอกาสฟื้นตัวแล้ว แต่เนื่องจากผู้บริโภคยังระวังในการใช้จ่าย ประกอบกับภาคเอกชนที่ยังไม่ฟื้นตัว รวมถึงความไม่แน่นอนของ โควิด-19 ที่อาจกลับมาระบาดได้อีก ทำให้เศรษฐกิจโลกยังคงซบเซา การขยายตัวของการส่งออกจึงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
● ราคาน้ำมันหดตัวต่อเนื่อง ราคาสินค้าหลายประเภทสอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบ เช่น สินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าจำพวกปิโตรเคมีและน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นเมื่อราคาน้ำมันดิบหดตัวก็ย่อมส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าส่งออกประเภทนี้ด้วย ทำให้มูลค่าการส่งออกโดยรวมยิ่งติดลบ
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน เนื่องจากจีนนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพียง 45% ของมูลค่าการนำเข้าที่ตกลงกันไว้ จึงทำให้สหรัฐฯ กดดันจีนในด้านต่าง ๆ นำไปสู่ความเสี่ยงต่อนโยบายการค้าโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามการค้านี้ได้รับผลกระทบเพิ่มเติมในอนาคต

ในช่วง 5 เดือนแรกของปี พบว่ามูลค่าการส่งออกหดตัวถึง -9.2%YOY ซึ่งเป็นสอดคล้องกับที่ EIC เคยคาดไว้ แต่อย่างไรก็ดีการส่งออกทองคำที่ขยายตัวมากถึง 386.1%YOY กับการส่งกลับอาวุธที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้มูลค่าการส่งออกรวมในช่วง 5 เดือนแรกหดตัวเพียง -3.7%YOY ดังนั้น ทำให้ในเดือนมิถุนายน EIC ปรับ การคาดการณ์จากเดิมที่ -12.9% ลดลงมาเป็น -10.4% โดยรวมการส่งออกทองคำและอาวุธด้วย

นับว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม 2020 เป็นวิกฤติของภาคการส่งออกเลยก็ว่าได้ เพราะมีแค่สินค้าการเกษตรและสินค้าสำคัญในตลาดจีนที่ยังขยายตัวได้ และจะเห็นได้ว่าทองคำและอาวุธเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้การหดตัวแลดูน้อยลง แต่หากหักการส่งออกอาวุธและทองคำออกไป ตัวเลขติดลบก็สูงขึ้นทันที ถึงอย่างไรต่อจากนี้เราก็มีความหวังแล้วว่าการส่งออกจะเริ่มมีโอกาสได้ฟื้นคืน ถึงแม้จะมีปัจจัยเสี่ยงคอยกดดันอยู่ แต่ก็ยังสามารถเคลื่อนตัวไปได้ ไม่หยุดชะงักเหมือนที่ผ่านมา

Source: SCBEIC


สนใจเริ่มต้นขายของออนไลน์ โดยให้ Priceza เป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษา? สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อให้เราทราบว่าคุณต้องการให้เราช่วยในด้านไหนได้เลยค่ะ

Fill out my online form.

Phattarasaya

Author Phattarasaya

More posts by Phattarasaya

รับคูปองส่วนลด

กรอกข้อมูลเพื่อรับส่วนลดในการเข้าเรียน