นักการตลาดหรือแบรนด์กำลังมองหาช่องทางในการทำโฆษณา วันนี้เราสรุป 6 ประเด็นสำคัญการใช้เม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัล 2023 มาไว้ให้ทุกท่านจับทิศทางการทำการตลาดในยุคดิจิทัลหลังโควิดที่ผู้คนหันมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติแล้วมาฝากกัน
กลับมาอีกครั้งกับงาน “DAAT DAY 2023 – The Age Of Marketing Intelligence When Human & AI Work As One” ที่จะมาเปิดโลกดิจิทัล ยกระดับความรู้ในยุคการตลาดอัจฉริยะด้วย AI ปัญญาประดิษฐ์ ในการทำการตลาด ซึ่งภายในงานอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาที่แบรนด์หรือนักการตลาดไม่ควรพลาด โดยเฉพาะ Session “Thailand Digital Advertising spend 2023” ที่หลายๆคนรอข้อมูล เพื่อที่จะให้เราสามารถจับทิศทางและวางแผนสื่อในการทำการตลาดยุคดิจิทัลนี้ได้ชัดเจน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT และ KANTAR (คันทาร์ ประเทศไทย) และพันธมิตรได้สรุปผลสำรวจมูลค่างบโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัล ปี 2023 ไว้ดังนี้
หัวข้อแนะนำที่น่าสนใจ เลือกอ่านได้เลย
1. โฆษณาสื่อดิจิทัลในปี 2023 เติบโต 13% ในครึ่งปีหลัง มูลค่า 28,999 ล้านบาท
จากข้อมูลพบว่า นับตั้งแต่ DAAT เริ่มจัดเก็บข้อมูลการใช้เม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัลในปี 2012 จะมีการเติบโตขึ้นในทุกๆปี แม้แต่ในช่วงโควิดที่เป็นวิกฤตของผู้คนทั่วโลกก็ตาม
ช่วงโควิดในปี 2020 เม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัลชะลอตัว แม้จะดีดตัวเพิ่มขึ้น 18% ในปี 2021 จากนั้นเราก็ต้องเจอปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2022 ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน, เงินเฟ้อ, ราคาน้ำมัน ล้วนกระทบการใช้เงินโฆษณาของสินค้า ทำให้หลายธุรกิจยังชะลอการใช้งบโฆษณา เพื่อรอดูสถานการณ์ต่างๆ เช่น จีนเปิดประเทศ แต่ก็มีหลายธุรกิจเริ่มกลับมาใช้งบในไตรมาสแรกเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ชะลอไว้ตั้งแต่ปีก่อนทำให้ปี 2022 เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัล เติบโตขึ้น 4% มูลค่า 25,729 ล้านบาท
และในปี 2023 เม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัลคาดการณ์ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 13% แม้ว่าจะดูเติบโตไม่มากนักแต่เป็นสัญญาณที่ดีจากการกลับมากระตุ้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้งซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศไทยจะสูงถึง 500% ในครึ่งปีหลังเลยทีเดียว รวมถึงครึ่งปีหลังนี้มักจะมีแคมเปญโฆษณาหรือ Event ส่งเสริมการขายมากมายเช่นแคมเปญ Double Day ต่างๆไม่ว่าจะ 9:9 ยาวไปถึง 12:12 ทำให้การลงเม็ดเงินโฆษณาในครึ่งปีหลังนี้จะมีการใช้มากขึ้น
2. กลุ่มสกินแคร์ครองอันดับ 1 ใช้งบโฆษณาดิจิทัลสูงที่สุดในปี 2023
หากเทียบจากปี 2022 แล้วจะเห็นได้ว่าธุรกิจที่ใช้งบโฆษณาสื่อดิจิทัลนั้นมีการสลับขึ้นลงไม่ต่างกันมากนักแต่ในปี 2023 คาดการณ์ว่า Retail Shop ที่ไม่เคยติดอันดับมาก่อนเลยจะเข้ามาติดในอันดับที่ 5 ของปีนี้ ขณะที่อันดับ 1 เป็น Skincare ที่ใช้งบโฆษณาสื่อดิจิทัลมากที่สุดในปี 2023 จะเห็นได้ว่าพุ่งสูงขึ้นถึง 139% ซึ่งจะเห็นว่าเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่กลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมโดยไม่ใส่แมสก์ ทำให้ผู้บริโภคกลับมาดูแลผิวหน้าตัวเองมากขึ้น อีกทั้งเกิดเทรนด์การดูแลสุขภาพตัวเองหลังโควิดไม่ว่าจะเป็นวิตามิน อาหารเสริมด้วย
TOP 5 ธุรกิจใช้งบโฆษณาดิจิทัลสูงที่สุดในปี 2023
- สกินแคร์ มูลค่า 3,268 ล้านบาท
- ยานยนต์ มูลค่า 2,520 ล้านบาท
- เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มูลค่า 2,228 ล้านบาท
- กลุ่มสื่อสาร มูลค่า 2,190 ล้านบาท
- กลุ่มร้านค้าปลีก มูลค่า 1,682 ล้านบาท
3. กลยุทธ์ Omni-Channel ผลักกลุ่มร้านค้า Retial ติด 1 ใน TOP 5
ที่ผ่านมาจะเห็นว่ากลุ่ม “ยานยนต์” เป็นธุรกิจที่ใช้เงินโฆษณาสูงสุดมาตลอดตั้งแต่ปี 2017 -2021 แต่ในปี 2022 ต่อปี 2023 ตกอันดับลงไป เนื่องจากมีปัญหาการผลิต ขนาดแคลนรถยนต์ที่จะส่งให้ลูกค้า แม้ว่าจะมีรถ EV เข้ามาทำตลาดหลายแบรนด์ ไม่ใช่ว่าทุกแบรนด์จะทำตลาดดิจิทัล บางแบรนด์ใช้สื่อนอกบ้าน (OOH) อย่างเดียวทำให้การใช้เม็ดเงินโฆษณากลุ่มยานยนต์ลดลงในทุกสื่อ
มาในปีนี้ที่น่าสนใจอย่างมากเลยคือมีอุตสาหกรรมน้องใหม่ที่พึ่งติดอันดับ TOP 5 เป็นปีแรกในปี 2023 นั่นก็คือ กลุ่ม “กลุ่มร้านค้าปลีก” ขึ้นมาติดอันดับ 5 ของการทุบงบโฆษณาสื่อดิจิทัล นั่นเพราะว่าหลายธุรกิจในกลุ่มค้าปลีกหันมาตื่นตัวในการทำ Omni-Channel มากขึ้นจากช่วงโดวิดที่ผ่านมาจากที่มีหน้าร้าน Offline อย่างเดียวก็เพิ่มช่องทาง Online หลวมรวมทุกช่องทางเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค จากปัจจุบันที่คนกลับมาใช้ชีวิตช่องทางออนไลน์ยังมีส่วนสำคัญที่จะส่งลูกค้าไปสู่หน้าร้านมากยิ่งขึ้น อีกทั้งกลุ่มร้านค้าปลีกให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสื่อสารเช่น AR, VR และ Metaverse Shopping ทั้งหมดนี้จึงคาดการณ์ว่ากลุ่มนี้จะใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
4. Meta (Facebook และ IG) แชมป์งบโฆษณาดิจิทัลแต่ลดลง 6%
ปีนี้เราจะเห็นการกระจายการใช้สื่อไปหลากหลายแพลตฟอร์มนั่นก็เพราะว่าผู้บริโภคเข้าถึงสื่อหลากหลายแพลตฟอร์มากขึ้น ทำให้นักการตลาดกระจายงบไปในหลายแพลตฟอร์มนั่นเอง แต่นักการตลาดจำเป็นต้องเข้าใจถึงอินไซด์ของผู้บริโภคด้วยว่า ช่องทางไหนสร้างโอกาสเกิดกระแส ช่องทางไหนที่ผู้บริโภคใช้ซื้อเพื่อการตัดสินใจเลือกช่องทางต่างๆได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
ประเภทสื่อดิจิทัลที่ครองเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในปี 2023
1. Meta (Facebook, IG) 8,183 ล้านบาท
2. YouTube 4,751 ล้านบาท
3. Online Video 2,254 ล้านบาท
4. Creative หรือการลงทุนด้านการสร้างสรรค์ผลงาน 2,151 ล้านบาท
5. TikTok 2,048 ล้านบาท
5. Short Video สื่อยอดนิยมของคนไทยโดยเฉพาะ TikTok ที่เติบโตถึง 95%
เห็นว่าสื่อประเภทวิดีโอนั้นเติบโตไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในการใช้สื่อ เม็ดเงินในการลงงบโฆษณาจึงกระจายไปบนแพลตฟอร์มที่เด่นทางด้าน Short Video อย่าง YouTube เพิ่มขึ้น 34% และ TikTok เพิ่มขึ้นถึง 95% จากปีที่แล้ว
TilTok เติบโตขึ้นจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชอบดู Live ตอบโจทย์ Shoppertainment ทำให้เป็นช่องทางสำคัญที่แบรนด์และนักการตลาดเลือกใช้
ปัจจัยที่น่าสนใจที่ทำให้ Youtube เม็ดเงินโฆษณาเติบโตกว่าปีที่แล้ว นั่นก็คือกลุ่ม FMCG เข้ามาใช้สื่อวิดีโอมากขึ้นและในส่วนของโฆษณา TV ลง หันมาโฆษณาในรูปแบบ Smart TV ที่เพิ่มขึ้นแทน ซึ่ง YouTube ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ได้ครอบคลุมทุกรูปแบบวิดีโอทั้งแบบสั้น และยาว รองรับทุก Device
6.จับตา “Affiliate Marketing” จะเข้ามาพลิกเกมการตลาด E-Commerce
จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ E-Commerce การทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing กลายเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์และบรรดาเหล่าครีเอเตอร์ ทั้ง Influencer และ KOLs ที่เราจะให้เติบโตไปพร้อมๆกันนั่นเพราะแบรนด์หรือนักการตลาดเองหันมาทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing มากขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่แบรนด์และนักการตลาดเล็งเห็นนั่นก็คือประสิทธิภาพของการทำโฆษณา และ ROI ที่จะได้รับนั้น ทำให้ Affiliate Marketing มีความพิเศษที่เราสามารถกำหนดรูปแบบการจ่ายค่าโฆษณาได้ จะจ่ายให้ต่อเมื่อ Affiliator สามารถขายสินค้า/บริการให้แบรนด์ได้ ต่างจากการทำโฆษณาประเภทอื่น ซึ่งมีความคุ้มค่ามากกว่าลงทุนน้อยกว่า หากคุณต้องการข้อมูลอินไซด์เกี่ยวกับการทำ Affiliate Marketing แนะนำให้อ่านบทความ “สิ่งที่แบรนด์ต้องรู้! ก่อนทำ Affiliate Marketing ในปี 2023” จะช่วยให้คุณเข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ 😊
