
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศตั้งชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับใช้เรียกโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ว่า “โควิด-19” (Covid-19) ซึ่งย่อมาจาก “coronavirus disease starting in 2019” ที่สร้างความวิตกกังวลทั่วโลก
ล่าสุดยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น ณ วันที่ 9 มีนาคม 2563 ทะลุ 109,932ราย ยอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3,839 ราย ยอดผู้ป่วยที่หายแล้ว 62,176ราย ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างหนักแก่เศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศหลายๆประเทศ
เมื่อดูจากตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนระหว่างวันที่ 23 มกราคม 2563 จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 พบว่า จำนวนเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศมีจำนวนลดลงโดยเฉลี่ยจาก 15,071 เที่ยวบน ลดเหลือ 2,004 เที่ยวบิน หรือลดลงถึง 86% เลยทีเดียว[1]
ขณะเดียวกันบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วทุกมุมโลกอย่าง Apple ได้ออกมาประกาศแล้วว่า อาจไม่สามารถสร้างรายได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ใน Q1 เนื่องจากฐานการผลิตของบริษัทนั้นอยู่ที่ประเทศจีน และได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ตลอดจนร้านอาหาร สถานบริการปั๊มน้ำมัน ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้าที่ผู้คนบางตาลงอย่างเห็นได้ชัด จากการที่ประชาชนหลีกเลี่ยงไปยังสถานที่สาธารณะเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
ในความมืดมนมักมีแสงสว่างเสมอ ขณะที่ธุรกิจหนึ่งซบเซา ก็ยังมีธุรกิจอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังโตขานรับสถานการณ์โควิด-19 นั่นก็คือ กลุ่มธุรกิจ e-Commerce ไม่ว่าจะเป็น Food Delivery, Shopping Online, Grocery Online ที่มียอดสั่งซื้อเติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจ
ร้านอาหารซบเซา แต่บริการ Food Delivery คึกคัก
เป็นที่แน่นอนว่าเมื่อผู้คนต่างหลีกเลี่ยงไปยังสถานที่สาธารณะ ผู้ประกอบการร้านอาหารก็ต้องได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่หากผู้ประกอบการปรับตัวเรียนรู้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ขยายช่องทางการค้าขายจากหน้าร้านสู่บริการขนส่งอาหารอย่างฟู้ดเดลิเวอรี่ ก็จะสามารถก้าวผ่านสถานการณ์เหล่านี้ได้
ผู้ให้บริการ Grab แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ (ผู้ให้บริการสั่งอาหารออนไลน์) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยยอดการสั่งซื้อบนแพลตฟอร์มมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ โดยช่วงเวลาที่คนนิยมสั่งซื้ออาหารมากที่สุดได้แก่ ช่วงเที่ยงและเย็น[2]
โอกาสของผู้ประกอบการขายของออนไลน์ (Shopping Online)
ไพรซ์ซ่า (Priceza.com) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มค้นหา และเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์เปิดเผยข้อมูลว่า เมื่อเปรียบเทียบยอดขายในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2563 เทียบกับช่วงเวลาเมื่อปีที่แล้ว ยอดขายออนไลน์ทั้ง 3 Marketplace เจ้าใหญ่ มียอดการเติบโตเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยรวม 14% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการหันมาช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น จากพฤติกรรมหลีกเลี่ยงไปห้างสรรพสินค้าของประชาชน
สอดคล้องกับตัวเลขการซื้อขายของ JD.com แพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ของประเทศจีน รายงานว่า ยอดขายหมวดหมู่สินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นถึง 215% จากปีที่แล้วในช่วง 10 วันระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จากความกังวลของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเช่นกัน
เห็นได้ว่าตอนนี้เมื่อประชาชนทั่วโลกต่างวิตกกังวล กลัวว่าจะเป็นหนึ่งในจำนวนของผู้ติดเชื้อรายใหม่ของประเทศ จึงหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตในที่สาธารณะและหันมาใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์รวมถึงซื้ออาหารผ่านโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นในช่วงเหตุการณ์วิกฤตินี้ ทั้งยังเป็นโอกาสสำหรับบริษัทที่ทำงานด้านเทคโนโลยี ในการพัฒนาประสิทธิภาพหุ่นยนต์สิ่งประดิษฐ์ที่สามารถทำงานอัตโนมัติซึ่งเป็นการช่วยลดการแพร่ระบาดจากคน-คนได้
โดยในปัจจุบันมีให้เห็นแล้ว อย่างเช่นการส่งสินค้าโดยใช้โดรน หรือโรงพยาบาลที่ใช้หุ่นยนต์นำทางและส่งเวชภัณฑ์ภายในโรงพยาบาล หากในอนาคตเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดเช่นนี้อีก เราคงได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ด้านดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างแน่นอน
สนใจเริ่มต้นขายของออนไลน์ โดยให้ Priceza เป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษา? สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อให้เราทราบว่าคุณต้องการให้เราช่วยในด้านไหนได้เลยค่ะ
[…] บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เข้มมาตรการรับมือโควิด-19 (Covid-19) […]