fbpx
BusinessE-Commerce

เปรียบเทียบ E-wallet กระเป๋าเงินออนไลน์ ประจำปี 2020

By กุมภาพันธ์ 12, 2020 No Comments
เปรียบเทียบ E-wallet กระเป๋าเงินออนไลน์ ประจำปี 2020 1

 

ในยุคสังคมไร้เงินสด การทำธุรกรรมการเงินรวมถึงการชำระค่าสินค้าและบริการ คนส่วนใหญ่หันมาใช้วิธีชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยเหตุผลด้านความสะดวกสบาย ไม่ต้องแบกรับค่าธรรมเนียมและด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ผู้ให้บริการหลายแห่งหันมาให้บริการธุรกรรมการเงินผ่านแอปพลิเคชันมากขึ้นหรือเรียกกันว่า “E-wallet” ที่แต่ละผู้ให้บริการต่างงัดไม้เด็ด เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้บริการอย่างเรา ๆ สำหรับใครที่อยากทำความรู้จัก E-wallet ของแต่ละเจ้า ไพรซ์ซ่าได้เตรียมข้อมูลทั้งข้อดี และจุดเด่นการให้บริการมาฝากกัน

E-wallet คืออะไร?

ทำความรู้จัก E-wallet กันสักนิด คิดง่าย ๆ คือให้นึกภาพว่า E-wallet คือกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ใบหนึ่งที่สามารถใช้จ่ายค่าสินค้า ค่าบริการ รวมถึงธุรกรรมการเงินบางประเภทได้โดยที่ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องพกเงินสดเพราะสามารถทำรายการเหล่านี้ผ่านแอปพลิเคชันได้แบบสะดวกและรวดเร็ว ส่วนผู้ให้บริการแต่ละแห่งมีข้อเสนอหรือบริการดี ๆ อย่างไรมากันเลยดีกว่า

1. True Money Wallet

นอกจากจะเป็นค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ ในวงการ E-wallet ก็ไม่น้อยหน้า เพราะมีผู้ใช้บริการอยู่ไม่น้อย ใช้งานง่ายเพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและผูกบัญชีกับบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต หากเงินหมดก็สามารถเติมเงินได้ที่ 7-eleven ใช้งานได้กับหลายร้านค้าที่ร่วมรายการ รองรับการโอนเงิน จ่ายบิล ซื้อประกันการเดินทาง เติมเงิมเกม รวมถึงการช้อปออนไลน์ที่มี Cash Back และสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่มากกว่าการใช้จ่ายด้วยเงินสด

จุดเด่น

  • ดำเนินงานโดยค่ายโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ของประเทศ
  • มีผู้ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันมากกว่า 40 ล้านราย

ข้อดี

  • ใช้งานได้ทุกเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ
  • โอนเงินระหว่าง True Money Wallet และบัญชีธนาคาร
  • รองรับการเชื่อมต่อ App Store และ Google Play
  • เติมเงินได้ที่ 7-Eleven ที่มีอยู่หลายสาขา และตู้เติมเงิน

ร้านค้าที่รองรับ

  • 7-Eleven
  • ร้านค้าที่ร่วมรายการและที่มีสัญลักษณ์ True Point & Pay
  • เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์

True Money Wallet ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

  • ใช้จ่ายแทนเงินสดที่ 7-Eleven และร้านค้าที่ร่วมรายการ
  • เติมเงินทรูมูฟ เอช และ Easy Pass
  • ซื้อบัตรชมภาพยนตร์ ประกันภัยการเดินทาง
  • จ่ายบิล ค่าน้ำ ค่าไฟ บัตรเครดิต และอื่น ๆ

2. Rabbit Line Pay

อีกหนึ่งผู้ให้บริการ E-wallet ร่วมกันระหว่าง Line Pay และ Rabbit ใช้จ่ายได้คล่องตัวทั้งค่ารถไฟฟ้าที่มาพร้อมสิทธิพิเศษที่การจ่ายเงินสดไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังร่วมกับร้านสะดวกซื้อ เช่น Family Mart, Lawson ศูนย์อาหารที่ร่วมรายการ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า บัตรชมภาพยนตร์ เติมเงินบัตร Easy Pass เป็นต้น

จุดเด่น

การร่วมมือกันระหว่าง Line Pay และ Rabbit ซึ่งทั้ง 2 บริษัทเป็นบริษัทที่เชื่อถือได้

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่ม เพราะใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Line
  • ซื้อของใน Line Store ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
  • เชื่อมต่อบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัญชีธนาคาร

ร้านค้าที่รองรับ

  • BTS
  • ร้านค้าสะดวกซื้อที่ร่วมรายการ เช่น Family Mart, Lawson, Ochaya, Dairy Queen ชาตรามือ เป็นต้น
  • เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
  • Kerry Express

Rabbit Line Pay ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

  • ชำระค่าบัตรรถไฟฟ้า
  • เติมเงิน Easy Pass
  • ซื้อบัตรชมภาพยนตร์
  • จ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ
  • ชำระเบี้ยประกันภัยกว่า 30 บริษัทประกันภัย

3. Air Pay

E-wallet ที่สามารถให้บริการได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายบิล เติมเงินมือถือ เติมเงินเกม จ่ายค่าที่พัก ตั๋วเครื่องบินต่าง ๆ ที่ทำได้แบบออนไลน์ รวดเร็ว ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังชวนร้านเกม ร้านค้า เข้าร่วมรับการชำระเงินแบบ Air Pay ดึงดูดใจด้วยสิทธิพิเศษต่าง ๆ โดยผู้ใช้บริการสามารถเติมเงินผ่านการหักบัญชีหรือทำรายการผ่านตู้ ATM

จุดเด่น

  • จุดให้บริการเคาน์เตอร์จำนวนมาก สะดวกต่อการเติมเงินและจ่าย
  • มาตรฐานให้บริการระดับสากล
  • รองรับการเชื่อมต่อ App Store และ Google Play

ข้อดี

  • เคาน์เตอร์ให้บริการมากกว่า 40,000 จุดทั่วประเทศ

ร้านค้าที่รองรับ

  • SF Cinema
  • เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
  • Shopee
  • Mezzo
  • Ka-nom
  • Bonchon
  • แมคโดนัลด์
  • ร้านค้าอื่น ๆ ที่มีสัญลักษณ์ Air Pay

Air Pay ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

  • ซื้อบัตรชมภาพยนตร์
  • จ่ายบิลมือถือ
  • เติมเงินเกม
  • สั่งอาหาร
  • ค่าน้ำ ค่าไฟ
  • ค่าบัตรเครดิต
  • ชำระค่าประกันภัย

4. Bluepay

ระบบชำระเงินผ่าน Smartphone และ Mobile Devices คลอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พัฒนาสู่การมอบประสบการณ์ในการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเทคโนโลยี BLUEmart ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์อันทันสมัยกับ Big Data, Mobile Internet, IoT และระบบอัตโนมัติ รวมไปถึง Mobile Payment Platform ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผ่านมาตราฐานของระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (PCIDSS)

จุดเด่น

  • ชำระสินค้าได้ที่ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ BLUEmart

ข้อดี

  • รองรับการชำระเงินออนไลน์ เติมเงินมือถือ เลือกสินค้าออนไลน์ ชำระเงินออนไลน์ผ่านทาง QR Code ได้อย่างรวดเร็ว สะดวก สบาย ใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ร้านค้าที่รองรับ
  • ซื้อบัตรชมภาพยนตร์
  • แมคโดนัลด์

Bluepay ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

  • จ่ายบิลมือถือ
  • เติมเงินมือถือ
  • ซื้อบัตรเติมเกมส์
  • ชำระบิล

5. Garbpay wallet

ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบเติมเงินที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ให้คุณสามารถ ‘เติมเงิน’ และจ่ายค่าบริการต่างๆ ของแกร็บได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเริ่มใช้งานง่ายๆ โดยการเชื่อมต่อบัญชีและสมัครผ่านแอปฯ K Plus

จุดเด่น

  • รับคะแนนสะสม GrabRewards เร็วขึ้น x3 เท่า

ข้อดี

  • มีแคชแบค และคะแนน GrabRewards

ร้านค้าที่รองรับ

  • ชำระได้ทุกอย่าง ยกเว้น GrabCar และ GrabFresh

Garbpaywallet ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

  • จ่ายค่าบริการ Grab

6. Dolfin

ชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงแค่สแกนคิวอาร์โค้ดหรือบาร์โค้ดในแอปพลิเคชัน Dolfin โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดหรือรอเงินทอนอีกต่อไป โดยเราสามารถเลือกที่จะตัดเงินจากกระเป๋า Dolfin ที่เราเติมเงินเข้ามาหรือตัดตรงจากบัญชีธนาคารที่เราผูกเอาไว้ก็ได้

จุดเด่น

  • คะแนนสะสม The 1 point จากทุกการใช้จ่าย

ข้อดี

  • ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ
  • โอนเงินระหว่างบัญชี Dolfin Wallet ด้วยกัน
  • โอนเงินไปยังบัญชีพร้อมเพย์

ร้านค้าที่รองรับ

  • สามารถดูร้านค้าที่รองรับเพิ่มเติมได้ที่นี่

Dolfin ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

  • สามารถทำการชำระค่าสินค้าและบริการได้ที่ร้านค้าชั้นนำต่างๆ ที่ร่วมรายการในเครือเซ็นทรัล โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์และแบล็คแคนยอนทุกสาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และร้านค้าชั้นนำต่างๆ อีกมากมาย

7. Lazadawallet

การชำระเงินที่เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า และทำให้การช้อปปิ้งบนลาซาด้าเป็นเรื่องง่ายและสนุก

จุดเด่น

  • สามารถใช้คูปองส่วนลดควบคู่ด้วยได้

ข้อดี

  • ฟรี! ไม่เสียค่าสมาชิกใดๆทั้งสิ้น

ร้านค้าที่รองรับ

  • ร้านค้าที่จำหน่ายผ่าน Lazada

Lazadawallet ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

  • สามารถซื้อสินค้าผ่านลาซาด้าวอลเล็ต
  • เติมเงินมือถือ

8. Getpay

กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ฟีเจอร์ใหม่ของ GET แอพพลิเคชั่น ที่ทั้งสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัยในการชำระค่าบริการ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ไม่ชอบพกเงินสด

จุดเด่น

  • สามารถใช้บริการ GET WIN โดยชำระเงินผ่าน GET PAY ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

ข้อดี

  • สามารถเติมเงินได้หลากหลายช่องทาง เช่น คนขับ GET, เติมเงินผ่านแอพ K PLUS และเติมเงินผ่านแอพ SCB

ร้านค้าที่รองรับ

  • บริการ GET WIN

Getpay ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

  • จ่ายค่าบริการ GET WIN ได้เท่านั้น

9. Blueconnect

กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Wallet สามารถใช้จ่ายแทนเงินสด ในธุรกิจค้าปลีกของ โออาร์ ได้แก่ ร้าน Café Amazon, ร้านสะดวกซื้อ Jiffy, ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto, Texas Chicken, Daddy Dough, ฮั่วเซ่งฮง ติ่มซำ และสถานีบริการน้ำมัน PTT Station

จุดเด่น

  • ชำระเงินได้ด้วย Blue CONNECT ผ่าน QR Code ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ

ข้อดี

  • รับคะแนนสะสม PTT Blue Card ทุกการใช้จ่าย

ร้านค้าที่รองรับ

  • Café Amazon
  • Jiffy
  • Texas Chicken
  • Hua Seng Hong Dim Sum
  • ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto
  • Daddy Dough

Blueconnect ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

  • ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน Blue CONNECT ได้ที่ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
  • ใช้บัตร Blue CONNECT ได้ที่ PTT Station

จะเห็นได้ว่า E-wallet แต่ละเจ้าต่างมีข้อดีและข้อเสียและความพิเศษแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใช้บริการว่าสะดวกเลือกรับบริการจากผู้ให้บริการรายไหน นอกจากนั้นสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือการดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ทำให้คนไทยหันมาทำธุรกรรมการการเงิน ชำระค่าสินค้า จองตั๋วเครื่องบิน จ่ายค่าที่พัก ฯลฯ ผ่าน E-wallet และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง

เปรียบเทียบ E-wallet กระเป๋าเงินออนไลน์ ประจำปี 2020 2


สนใจเริ่มต้นขายของออนไลน์ โดยให้ Priceza เป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษา? สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อให้เราทราบว่าคุณต้องการให้เราช่วยในด้านไหนได้เลยค่ะ

Fill out my online form.

Phattarasaya

Author Phattarasaya

More posts by Phattarasaya

รับคูปองส่วนลด

กรอกข้อมูลเพื่อรับส่วนลดในการเข้าเรียน