fbpx
E-CommerceThailand

แนวทางการปรับตัวผู้ประกอบการไทย ในวันที่ Cross-border E-commerce เข้ามามีบทบาทมากขึ้น!

By สิงหาคม 18, 2022 No Comments
Cross-border E-commerce

คุณไว ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา CEO & Co-Founder บริษัท Priceza และอดีตนายกสมาคมไทยอีคอมเมิร์ซเผย “การช้อปปิ้ง” เป็นกิจกรรมยอดนิยมอันดับ 3 บนโลกออนไลน์ของคนไทย รองลงมาจากกิจกรรมด้านความบันเทิง และการสื่อสาร พร้อมยืนยันผลสำรวจระยะเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย พบว่าคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อวัน สถิติสูงสุดเป็นอันดับ 7 ของโลก จากสถิติและผลสำรวจดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลที่สำคัญของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมูลค่าการตลาดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยนั้น อาจมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นถึง 9 แสนล้านบาทในปี 2022 นี้ นับเป็น 77% เมื่อเทียบกับปี 2021 ที่ผ่านมา

มูลค่าการตลาด E-commerce

 

ขายได้ดีทุกแพลตฟอร์ม มุมมองที่ต้องคำนึงและเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง

ไม่เพียงเท่านั้น ผลสรุปอันดับการใช้จ่ายของผู้บริโภค ผ่าน Digital Platform ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่ละช่องทางในปี 2021 สรุปได้ว่า
ผลสรุปการใช้จ่ายของผู้บริโภค

  • อันดับ 1 E-commerce marketplace 32%
  • อันดับ 2 Social commerce 21%
  • อันดับ 3 Food delivery/Super apps 13%
  • อันดับ 4 Large brand sites 12%
  • อันดับ 5 Large retailer sites 12%
  • อันดับ 6 Small online shops 11%

แม้ว่า Digital Platform จะมีหลากหลายช่องทาง แต่ผลสรุปก็ชี้ให้เห็นได้ว่า แต่ละแพลตฟอร์มนั้นได้พัฒนาและแข่งขันกันอย่างเข้มข้น เพื่อที่จะช่วงชิงอิทธิพลทางธุรกิจของการตลาดแบบอีคอมเมิร์ซ ที่สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการต่างๆ ได้อย่างมหาศาล ดังนั้นความท้าทายในมุมของผู้ประกอบการจึงมีโจทย์อยู่ว่า จะต้องทำอย่างไรให้สินค้าของตนขายได้ดีในทุกๆ แพลตฟอร์ม…

สินค้าข้ามพรมแดน ศึกท้าทายผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซไทยที่ไม่ควรมองข้าม

 

ประเภทสินค้านำเข้า

ทว่าในมุมมองของ Digital Platform อันดับ 1 อย่าง E-Commerce marketplace กลับมีโจทย์ใหญ่ที่สำคัญและท้าทายยิ่งกว่า เมื่อพบว่าเฉลี่ยกว่า 63% ของสินค้านั้นเป็นสินค้าจากต่างประเทศ (Cross Border) ที่มีผู้ประกอบการเป็นชาวต่างชาติ แต่กลับมีศักยภาพในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาด ได้อย่างตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทย มากกว่าสินค้าของคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งพวกเขาไม่จำเป็นต้องอาศัยบริษัทผู้นำเข้า (Importer) อีกต่อไป เพราะ E-commerce คือพื้นที่เสรีที่ทำให้เหล่าผู้ประกอบการ หรือโรงงานต่างชาติ สามารถขายสินค้าให้กับผู้บริโภคในไทยได้โดยตรงผ่านจุดยืนที่น่าสนใจอย่าง “ของดีราคาถูก” และ “สินค้าแท้ 100%” (ส่งตรงจากบริษัทผู้ผลิต)

3 สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยต้องพัฒนา

สินค้าส่งตรงจากต่างประเทศ กำลังเป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย นำโดยจีน เกาหลีใต้ อเมริกา และสิงคโปร์ ดังนั้นเพื่อช่วงชิงพื้นที่การตลาดอีคอมเมิร์ซ นี่คือบทเรียนสำคัญที่ผู้ประกอบการชาวไทยควรศึกษาและนำไปปรับใช้

วิธีปรับตัวสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ E-Commerce

  • สินค้า : สินค้าของคุณนั้นมีข้อแตกต่างหรือไม่ คือโจทย์สำคัญที่ผู้ประกอบการต้องพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ ความแปลกใหม่ หรือคุณสมบัติพิเศษ คุณภาพของสินค้าที่ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในการประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซคือการสร้าง “แบรนด์ (Branding)” นั่นเอง โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ให้แกร่งในโลกออนไลน์ คือหนทางในการปรับตัวอันดับแรกที่คุณต้องใส่ใจ
  • บริการ : ทุกครั้งที่ขายสินค้า คุณไม่ควรมองแค่เรื่องของสิ่งของ แต่ควรมองไปถึงมูลค่า คุณค่า เสมือนเป็นแพ็คเกจที่รวมอยู่ในสินค้านั้น เมื่อสินค้ามีปัญหา ลูกค้าจะสื่อสารกับผู้ขาย หรือทางร้านค้ามีการช่วยเหลืออย่างไร บริการหลังการขายคือสิ่งที่ช่วยมัดใจลูกค้า และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น และจะสำเร็จมากกว่าเดิมหากคุณรู้ได้ว่า คุณค่าที่ผู้บริโภคต้องการนอกจากสินค้าแล้วเขาต้องการอะไรจากคุณ เช่น การจัดส่งฟรี การคืนสินค้า หรือบริการเก็บเงินปลายทาง
  • ช่องทาง : ควรวางแผนช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุม เพราะปัจจุบันพฤติกรรมของคนไทยนั้นมีการค้นหาข้อมูลสินค้านั้นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ จริงอยู่ที่การสั่งซื้อสินค้าผ่าน E-Commerce marketplace นั้นสะดวก แต่ผู้บริโภคนั้นก็มักจะค้นหารีวิว ข้อมูลสินค้า และอาจรวมไปถึงประวัติผู้ประกอบการจากหลายๆ ช่องทางก่อนตัดสินใจซื้อ ยิ่งข้อมูลเยอะยิ่งง่ายต่อการตัดสินใจ เพราะฉะนั้นการวางแผนการตลาดในแต่ละช่องทางจึงสำคัญ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย การติดตามอัลกอริทึม หรือฟีเจอร์ของแต่ละแพลตฟอร์มจะทำให้คุณวางแผนได้ง่ายขึ้น เช่น ปัจจุบัน Tiktok ได้เปิดช่องทาง Tiktok Shop ที่ให้ผู้ใช้บริการสามารถนำสินค้าลงขายในช่องของตนเองได้

บทส่งท้าย

E-commerce Platform ต่างๆ นั้นทำให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคสะดวกก็จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การพึ่งพิงช่องทางเหล่านี้เพียงอย่างเดียว ก็อาจทำให้คุณต้องเจอกับข้อจำกัดในการสื่อสารกับผู้บริโภค การโฆษณา การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาอย่างไม่รู้จบ เพราะแท้จริงแล้วแพลตฟอร์มเหล่านี้ เป็นเพียงช่องทางที่เปิดโอกาสให้คุณ ได้หยิบยืมฐานลูกค้าของพวกเขามาเท่านั้น ซึ่งคุณไม่อาจรู้ได้เลยว่าฐานลูกค้าเหล่านั้นจะเปลี่ยนใจไปจากคุณเมื่อไร หากเขาพบร้านค้าที่น่าสนใจมากกว่า 

ดังนั้นเพื่อสร้างฐานลูกค้าของคุณเอง การหันมาพัฒนาและสร้างจุดยืนให้กับช่องทางที่คุณเป็นเจ้าของ อาทิ เว็บไซต์ สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ควบคู่กับ E-commerce Platform นั้นคือวิธีที่จะทำให้คุณต่อยอดและพัฒนาธุรกิจได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น และเมื่อต้องคำนึงถึงพฤติกรรมเสิร์ชก่อนซื้อของผู้บริโภค นี่จึงถือเป็นข้อได้เปรียบของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซไทยเลยก็ว่าได้

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Anya Supasakon

Author Anya Supasakon

More posts by Anya Supasakon

รับคูปองส่วนลด

กรอกข้อมูลเพื่อรับส่วนลดในการเข้าเรียน