เตาไฟฟ้ากินไฟหรือไม่? มีวิธีคำนวณค่าไฟอย่างไรก่อนเลือกซื้อใช้งาน

เตาแบบไฟฟ้า กินไฟหรือไม่? เป็นคำถามที่หลายคนคงจะคิดหนักมากทีเดียว โดยเฉพาะคนที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกอะไรดีระหว่างเตาทำอาหารแบบไฟฟ้าหรือเตาแก๊สแบบทั่วไป ดังนั้นเราจะพาคุณไปดูกันว่าการใช้เตาทำอาหารแบบไฟฟ้านั้นจะใช้พลังงานประมาณเท่าไหร่และกินไฟมากหรือไม่

เตาไฟฟ้า กินไฟหรือไม่?

เตาแบบไฟฟ้าเมื่อนำมาปรุงอาหารเป็นประจำทุกวันจะกินไฟหรือไม่ หากเช็คตามข้อมูลมาตรฐานของ PEA เตาทำอาหารแบบไฟฟ้าจะใช้พลังงานอยู่ที่ประมาณ 300-1,500 วัตต์ ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ค่อยกินไฟมากนัก ประกอบกับในแต่ละวันเราไม่ได้ใช้ตลอดทั้งวันด้วยแล้ว จึงทำให้ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามถ้าอยากให้ประหยัดค่าไฟมากขึ้น ก็มีคำแนะนำในการใช้เตาดังนี้

ถอดปลั๊กทุกครั้งที่ใช้งานเสร็จ

หลังจากใช้งานเตาทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากกดปิดสวิตซ์แล้วก็ต้องถอดปลั๊กออกด้วยทุกครั้ง เพราะขณะเสียบปลั๊กไฟอยู่ก็จะมีการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าไปบ้างเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานอยู่ก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจทำให้เกิดไฟช็อตและไฟไหม้ได้อีกด้วย

ใช้เวลาปรุงอาหารให้น้อยลง

การปรุงอาหารแต่ละครั้งควรใช้เวลาในการปรุงให้น้อยลงเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า ซึ่งใครที่มักจะเคี่ยวอาหารเป็นเวลานานโดยไม่จำเป็นก็ลองเปลี่ยนมาเป็นทำอาหารแบบสุกกำลังพอดีกันดู โดยการที่คุณลดเวลาในการปรุงอาหารลงเพียงแค่ 5 นาที ก็จะช่วยประหยัดค่าไฟไปได้เยอะเลยทีเดียว แถมยังทำให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อมและคงคุณค่าของอาหารไว้ได้มากขึ้น

เลือกใช้ภาชนะทำอาหารที่ร้อนไว

การเลือกภาชนะทำอาหารที่ร้อนไวเป็นอีกวิธีที่จะช่วยประหยัดพลังงานได้ดี เพราะเตาแบบไฟฟ้าจะส่งผ่านความร้อนไปสู่ภาชนะและอาหารอย่างรวดเร็ว จึงปรุงอาหารได้ไวกว่าเดิม เพราะฉะนั้นลองหาภาชนะที่ร้อนเร็วๆ มาใช้กันดู แล้วจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้เยอะเชียวล่ะ

คำนวณค่าใช้จ่ายต่อเดือนเมื่อใช้เตาทำอาหารแบบไฟฟ้า

หลายคนอาจยังมองไม่เห็นภาพและไม่มั่นใจว่าการใช้เตาทำอาหารแบบไฟฟ้าจะกินไฟมากหรือไม่ ดังนั้นเราจะมาคำนวณค่าใช้จ่ายต่อเดือนของการใช้เตาทำอาหารแบบไฟฟ้าให้เข้าใจกันมากขึ้น โดยยกตัวอย่างการคำนวณดังนี้

กรณีเตาทำอาหารใช้พลังงาน 300 วัตต์

สมมติใน 1 วัน คุณใช้เตาทำอาหารประมาณ 2 ชั่วโมง เท่ากับว่าใช้พลังงานจากเตาทำอาหารเดือนละ 2 x 30 = 60 ชั่วโมง/เดือน

โดยใช้พลังงาน 300 วัตต์/ชั่วโมง เท่ากับว่าได้ใช้พลังงานไปต่อเดือน 300 x 60 = 18,000 วัตต์ หรือ 18 กิโลวัตต์

ทีนี้มาลองคำนวณค่าไฟกันบ้าง สมมติใช้พลังงานไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน อัตราค่าไฟ 18 หน่วยจะอยู่ที่ 2.9882 (ref. PEA) ก็จะได้ค่าไฟเท่ากับ 18 x 2.9882 = 53.7876 บาท เห็นไหมว่ากินไฟไม่เยอะเลย

กรณีเตาทำอาหารใช้พลังงาน 1,500 วัตต์

หากคุณใช้เตาทำอาหารทุกวัน ครั้งละ 2 ชั่วโมง เท่ากับว่าใช้พลังงานจากเตาทำอาหารเดือนนละ 60 ชั่วโมง/เดือน

พลังงานที่ใช้ คือ 1,500 วัตต์/ชั่วโมง ดังนั้นพลังงานทั้งหมดต่อเดือนจึงคิดเป็น 1,500 x 60 = 90,000 วัตต์ หรือ 90 กิโลวัตต์

เมื่อนำมาคำนวณค่าไฟ หากใช้พลังงานไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน อัตราค่าไฟ 90 หน่วยจะอยู่ที่ 3.6237 (ref. PEA) ก็จะได้ค่าไฟเท่ากับ 90 x 3.6237 = 326.133 บาท ซึ่งก็อยู่ในระดับที่ไม่กินไฟมากนัก

จะเห็นว่าการใช้เตาทำอาหารแบบไฟฟ้าก็กินไฟไม่เยอะ ซึ่งนี่เป็นเพียงการคำนวณแบบคร่าวๆ เท่านั้น จากการใช้งานจริงคุณอาจไม่ได้ใช้เป็นประจำทุกวัน และอัตราการกินไฟของเตาทำอาหารแต่ละรุ่นก็แตกต่างกันไป แต่ไม่เกินจาก 1,500 วัตต์แน่นอน จึงหมดกังวลไปได้เลย

ข้อควรรู้! ก่อนเลือกซื้อเตาไฟฟ้า

หากพูดถึงข้อควรรู้ก่อนจะเลือกซื้อและใช้งานเตาไฟฟ้านั้น ยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากๆ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นไปดูกันดีกว่า

1. ชั่วโมงการใช้งาน

หากเราจำเป็นต้องใช้เตาทำอาหารไม่บ่อยนัก เตาไฟฟ้าทั่วไปก็อาจจะสามารถตอบโจทย์ได้ แต่ถ้าจะใช้งานเตาทำอาหารอย่างหนักทุกวัน แล้วยังต้องเปิดต่อเนื่องมากถึง 12 ชั่วโมง เราควรเลือกใช้เตาที่สามารถรองรับการทำงาน ตามลักษณะงานด้วย และที่สำคัญดูเรื่องอายุการใช้งานด้วยนะ เพื่อเทียบกับราคาที่จะจ่ายไปว่าคุ้มค่าไหมก่อนจะเลือกซื้อมาใช้งาน

 2. กำลังไฟ

เรื่องกำลังไฟเป็นอีกหนึ่งที่สำคัญในการเลือกซื้อ เตาไฟฟ้านั้นมี กำลังไฟให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เตาขนาดเล็ก 300 วัตต์ จนถึงเตาขนาดใหญ่ที่กินไฟมากถึง 50,000 วัตต์ หากต้องการใช้งานบางชนิดที่เน้นไฟแรง เช่น อาหารไทย หรือต้มนํ้าปริมาณมาก ก็ควรเลือกใช้เตาไฟฟ้าที่แรงขึ้นที่ 3,500 วัตต์

3. คุณภาพของโครงสร้าง

โครงเตาไฟฟ้าจะมีหลายแบบทั้งพลาสติก  เหล็ก หรือ สแตนเลส ซึ่งราคาจะแตกต่างกันออกไป หากผลิตจากพลาสติกที่คุณภาพไม่ดี เตาจะทนความร้อนได้ไม่ดี เมื่อใช้เป็นเวลานาน พลาสติกจะกรอบและแตกหัก และอาจจะละลายจากความร้อนเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ได้