
ยุคนี้เป็นอีกยุคที่ธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ผู้ประกอบการสื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ การทำการตลาดแบบ B2C นั้นสะดวกสบายมากขึ้น เมื่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคผันเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบออนไลน์อย่างเต็มตัว จากสถานการณ์โรคระบาดตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา
จากรายงานผลวิจัยโดยสมาคมโฆษณาดิจิทัลแห่งประเทศไทย (DAAT) ร่วมกับ คันทาร์ (ประเทศไทย) พบว่าในปี 2022 นี้อาจมีการใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้นประมาณ 9% หรือ 27,000 ล้านบาท แม้ว่าการเติบโตอาจจะช้ากว่าปีที่แล้วถึง 18% จากปัจจัยทางเศรษฐกิจก็ตาม
ท่ามกลางข่าวสารมากมาย ผู้ประกอบการต่างเข้าใจกันดีว่า การส่งข้อมูลเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคเป็นจำนวนมากจะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ แต่ในหลายๆ ครั้ง การคาดหวังให้ผู้บริโภครับข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้นให้ได้มากที่สุด ก็อาจกลายเป็นการบีบบังคับพวกเขามากเกินไป จนส่งผลเสียมากกว่าผลดี หากข้อมูลเหล่านั้น ขัดแย้งกับไลฟ์สไตล์ หรือ “ไม่เป็นประโยชน์” แก่พวกเขา ณ เวลานั้นสักเท่าไร
ของก็ต้องขาย ลูกค้าก็ต้องใส่ใจ แล้วเราจะมัดใจลูกค้าได้อย่างไรเมื่อธุรกิจอื่นๆ ต่างก็มุ่งหาผลประโยชน์จากการ ยิง Ads และการทำ Content Marketing ครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จัก Contextual Marketing การตลาดแบบอิงบริบทรอบตัว เคล็ดลับที่จะทำให้คุณมัดใจผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น!
หัวข้อแนะนำที่น่าสนใจ เลือกอ่านได้เลย
การตลาดแบบ Contextual Marketing คืออะไร?
Contextual Marketing หรือการตลาดแบบอิงบริบท คือการศึกษาข้อมูลบริบทรอบตัวของผู้คนมาใช้ในการวางแผนทำการตลาดต่างๆ หรือก็คือการสร้างสรรค์ไอเดียแคมเปญต่างๆ จากสิ่งรอบตัวนั่นเอง เช่น การนำเสนอข้อมูลหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง ผ่านรูปแบบที่เหมาะสมโดยอิงจากบริบทรอบตัวของพวกเขา กลุ่มผู้รับสารกลุ่มนั้นมีอายุเท่าไร เพศอะไร ประกอบอาชีพอะไร ต้องใช้ Content รูปแบบไหน การตลาดแบบ Contextual Marketing จะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น เพื่อทำให้การสื่อสารของเราดึงดูดลูกค้ากลุ่มนั้นได้มากขึ้น
IKEA Retail Therapy ได้รับยอดขายที่ดีขึ้นถึง 25% จากการทำ Contextual Marketing ด้วยการทำให้สินค้าเดิมของ IKEA มีคุณสมบัติในการแก้ปัญหาชีวิตต่างๆ ของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเตียงโซฟาเพื่อใช้สำหรับลี้ภัยในยามที่คนรักของคุณนอนกรนหนักมาก หรือโต๊ะทำงานแบบคู่ที่สามารถเพิ่มที่กั้นเข้าไปได้ เมื่อคุณไม่สะดวกพบหน้าเพื่อร่วมงาน โดยภายหลังแคมเปญนี้ก็เกิดกระแสไวรัลมากมาย และเป็น Case Study ที่น่าสนใจมาจนถึงปัจจุบัน
บริบทใดบ้างที่เหมาะนำมาใช้ทำการตลาดแบบ Contextual Marketing
เราสามารถอ้างอิงบริบทต่างๆ ได้ทั้งจากฐานข้อมูลขององค์กร การเก็บข้อมูลผ่านรายงานจากสื่อที่เราใช้ หรือแม้แต่การอิงสถานการณ์ปัจจุบันแบบ Realtime ทั้งหมดนี้เป็นบริบทที่ล้วนสามารถนำมาใช้ Contextual Marketing ได้ ดังนั้นเราจะมาแนะนำพื้นฐานบริบทต่างๆ ที่ควรรู้สำหรับใช้วางแผนทำการตลาด โดยสามารถแบ่งได้เป็นดังนี้
บริบทจากลักษณะประชากรศาสตร์
ข้อมูลเชิงลักษณะประชากรศาสตร์ เป็นข้อมูลพื้นฐานที่ทุกองค์กรควรมีเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลสำคัญ การจดจำประวัติคร่าวๆ ของลูกค้านอกจากจะช่วยให้การดำเนินงานภายในองค์กรสะดวกแล้ว ยังสามารถนำมาวางแผนทำการตลาด หรือคิดแผนการแคมเปญได้ต่างๆ ได้ เช่น ระบบสมาชิกสะสมแต้มแลกสินค้า การนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์แบบเฉพาะบุคคล หรือการออกแบบสินค้าและบริการพิเศษสำหรับผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม และนี่คือข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่จำเป็นมากสำหรับการประกอบธุรกิจ
- ชื่อ (Name)
- เพศ (Gender)
- วันเกิด (Birthday)
- สิ่งที่ชอบ (Preferences)
- การนับถือ (Loyalty)
- ประวัติบัญชี (Account History)
บริบทจากปัจจัยภายนอก
ปัจจัยภายนอกที่เหมือนจะควบคุมได้ยาก ก็เป็นบริบทที่ควรเก็บไว้เป็นข้อมูลเช่นกัน จะสื่อสารทางไหน ช่วงเวลาใด ที่ไหน อย่างไร เป็นบริบทที่คุณควรเข้าใจผู้บริโภคให้ได้อย่างลึกซึ้ง เพราะจะทำให้ผู้บริโภครับข้อมูลได้อย่างสะดวกและถูกกาลเทศะ และยังสามารถนำมาปรับใช้สำหรับแคมเปญต่างๆ เช่น การขายสินค้าแบบจำกัดช่วงเวลา หรือสินค้าตามฤดูกาล หรือแม้แต่การออกแบบรูปแบบของเนื้อหาให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งปัจจัยภายนอกที่ทุกองค์กรควรใส่ใจมากๆ ก่อนจะทำการสื่อสารอะไรออกไป
- วันและเวลา (Date & Time)
- สถานที่ (Location)
- สภาพอากาศ (Weather)
- อุปกรณ์ที่ใช้ (Device)
- ช่วงเวลาทำการ (Store Hours)
- การหมุนเวียนสินค้า (Current Inventory)
บริบทจากพฤติกรรม
การศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการประกอบธุรกิจ เพราะจะทำให้องค์กรได้เข้าใจ Customer Journey อย่างลึกซึ้ง ว่าแนวโน้มของพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นอย่างไร สินค้าและบริการมีปัญหาอย่างไร รวมไปถึงกระบวนการในการตัดสินใจต่างๆ ของผู้บริโภค ซึ่งเป็นข้อดีในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ เช่น การปรับช่องทางการวางจำหน่าย การจัดทำโปรโมชั่น หรือการยื่นข้อเสนอให้กับกลุ่มลูกค้าที่ทำการยกเลิกสินค้า บริบทจากพฤติกรรมต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่คุณควรหยิบมันขึ้นมาสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายเป็นอย่างยิ่ง
- การค้นหาข้อมูล (Search History)
- การเปิดูข้อมูล (Browse Data)
- การยกเลิกสินค้า (Cart Abandons)
- การซื้อสินค้า (Purchases)
บทส่งท้าย
จะมีประโยชน์อะไร? หากคุณเสียเงินยิง Ads. ไปแล้ว แต่พวกเขากลับเลื่อนผ่านมันไปเฉยๆ และอาจกด Report โพสต์ของคุณด้วยความขุ่นเคือง เนื่องจากมันถูกผลิตซ้ำออกมาไม่หยุด หยุดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและไม่ได้ผล แล้วหันมาใส่ใจผู้บริโภคให้มากขึ้น Contextual Marketing การตลาดด้วยการศึกษาบริบทรอบตัวของผู้บริโภคจะทำให้ธุรกิจของคุณมัดใจพวกเขาได้ง่ายขึ้น และมันจะทำให้คุณได้เข้าใจพวกเขาอย่างลึกซึ้งโดยไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินเป็นจำนวนมาก ในการทำโฆษณาอีกต่อไป!
อ้างอิงข้อมูล : Bangkokpost, [eBook] Everything You Need to Know About Contextual Marketing
บทความที่น่าสนใจ
- สร้างคอนเท้นต์ปิดการขาย ด้วยเทคนิค F.A.B Tree Diagram สร้างความแตกต่างเพิ่มโอกาสในการขาย
- สร้างคอนเท้นต์แบบไหนให้ตอบโจทย์ ‘Social Commerce’ จากพฤติกรรมการใช้งานของนักช้อปบนโซเชียลมีเดีย